ติสท์อยากเขียน

สรุปจุดเด่นโดนใจของ Galaxy Note 20 Series / Tab S7 Series / Buds Live / Watch 3 และ Z Fold 2

มาถึงช่วงครึ่งปีหลังทีไร จะมีมือถือฝั่ง Android จากค่ายใหญ่ ๆ ที่ทยอยเปิดตัวเพื่อกระตุ้นตลาดในค่ายตัวเองกัน เดือนสิงหาคม กันยายน ก็เป็นเวลาประจำของ Samsung ที่จะเปิดตัว Galaxy Note มือถือรุ่นสำคัญที่ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเสมอมา กับปีนี้ในชื่อ Note 20 / Note 20 Ultra รวมถึงสานต่อมือถือจอพับอย่าง Fold ที่รอบนี้อยู่ในตระกูล Z ที่หมายถึงมือถือจอพับ ในชื่อ Z Fold 2 รวมถึงยังลุยกับ Tablet Android ในตระกูล S กับ S7 / S7+ เสริมทัพด้วยหูฟังตระกูล Buds Live และนาฬิกาคู่หู Smartphone ตระกูล Galaxy รุ่นใหม่ Galaxy Watch 3 

ทั้งหมดนี้ เราสามารถหาอ่านข่าว สเปค กันได้จากโลกออนไลน์ได้เต็มไปหมด แต่หลังจากอ่านจบแล้ว ผมได้พบคุณงามความดีจากของใหม่ที่เปิดตัวทั้งหมดดังนี้ 

S Pen ที่ไวขึ้น 

จุดขายของ Galaxy Note อยู่ที่ปากกา ทุกปีที่ออก Galaxy Note ใหม่ ความสามารถต่อยอดให้ปากกา ทำได้มากกว่าขีด ๆ เขียน ๆ จะถูกเติมมาเรื่อย ๆ ในปีนี้ Samsung ไม่ได้เติมลูกเล่นดูหวือหวาแบบปีที่ผ่าน ๆ มา โดยเฉพาะปีที่แล้วที่ทำให้ปากกาเป็นรีโมทควบคุมการใช้งานผ่านท่าทางต่าง ๆ แต่ปีนี้ Samsung ทำสิ่งที่เรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริงที่สุด คือการ “ลดความหน่วง” ของเส้นลง ใตรที่ใช้ Galaxy Note อยู่แล้ว จะรู้ว่าเส้นที่ลาก จะตามหลังตำแหน่งปากกาที่เราลากเส้นอยู่เล็กน้อย ในเมื่อ S Pen ทำเรื่องน้ำหนักเส้นให้รองรับความหนักเบาได้มากพอแล้ว การแก้อาการหน่วง คือเรื่องที่สมควรทำยิ่ง ใน Galaxy Note 20 / 20 Ultra ตัวปากกาทำงานร่วมกับเครื่องได้สัมพันธ์ขึ้น ลดความหน่วงเส้นให้เหลือแค่ 9ms (26ms ใน Note 20) ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับความลื่นไหลในการแสดงผลที่ 120 Hz ด้วยแล้ว แฟน Galaxy Note น่ารัก S Pen รอบนี้มากกว่าเดิมแน่นอน การปรับปรุงเล็ก ๆ นี้ ถูกต้อง ถูกทาง เพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้นจริง ๆ 

เน้นการถ่ายวีดีโอมากขึ้น (Note 20 Series) 

สองปีหลังนี้ Galaxy Note ได้รับการชมเรื่องคุณภาพของภาพถ่ายมากขึ้น ใน Galaxy Note 10 ก็ชูจุดขายเรื่องการถ่ายวีดีโอที่จริงจังมากขึ้น มาถึง Note 20 /  20 Ultra ที่ได้กล้องถ่ายวีดีโอ 8K กับระบบโฟกัสที่ใช้ Laser Auto Focus เน้นความแม่นยำในการเลือกจุดถ่ายให้ดีขึ้น ทิศทางเสียงจากไมโครโฟนที่ตรงมากขึ้น จากการเลือกตำแหน่งไมค์ฯ ในการบันทึกเสียงได้ หรืแใช้ไมค์ฯ จาก Galaxy Buds Live ในการช่วยบันทึกเสียงส่วนตัวของเราได้คมชัดขึ้น ตรงกับทิศทางของ Galaxy Note ที่เป็นมือถือชูจุดขายเชิง “ครีเอทีฟ” ที่ยุคนี้ ไม่ใช่แค่การวาด ๆ เขียน ๆ แต่ Content ด้านภาพ วีดีโอ ก็คือส่วนหนึ่งของการครีเอทีฟ ความสามารถนี้ จึงทำให้ Galaxy Note 20 Series จบงานได้ในเครื่องเดียวมากขึ้นไปด้วย 

Microsoft (ใช้งานร่วมกับ Windows 10)

ถ้าดูผ่าน ๆ ในงานเปิดตัวเมื่อคืน การที่ Galaxy Note 20 Series / Tab S7 Series ใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ฝั่ง Windows ไม่ว่าจะ OneNote / Outlook / Xbox รวมถึงดึง App ที่อยู่ในมือถือมาใช้งานต่อในคอมพิวเตอร์โดยครงได้ ดูไปแล้วไม่ได้แปลกใจอะไร แต่ทุกวันนี้ การสลับใช้งานระหว่างอุปกรณ์ จากมือถือไปแทบเล็ตหรือไปคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งที่ผู้ใช้อยากได้ความต่อเนื่องจากการใช้งาน หากการใช้งาน Galaxy รุ่นใหม่ ๆ จากนี้ ทำโน็ต เช็คเมล์ จากโทรศัพท์ แล้วข้ามไปคอม หรือจากคอม แล้วข้ามไปโทรศัพท์ แบบไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรเพิ่ม รวมถึงเล่นเกม Xbox เกมเดียวจากเครื่องใหญ่มาที่มือถือได้ เป็นการสร้างระบบนิเวศให้ผู้ใช้งานตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้น จุดขายนี้ ช่วยให้ “การมี Galaxy” เป็นพวกเดียวกับคอมพิวเตอร์เครื่องเดิมที่เราใช้อยู่ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง 

นาฬิกาสุขภาพที่ชัดเจนขึ้น 

มาที่ Galaxy Watch 3 บ้าง การปรับปรุงในส่วนตัวเรือน เป็นเรื่องปกติสำหรับการออกรุ่นใหม่อยู่แล้ว แต่จุดขายที่ถูกเล่าถึงมากสุด คือเรื่องสุขภาพ ไม่ว่าระบบตรวจจับการล้มของผู้ใส่ / บันทึกการนอนหลับลึก / โปรแกรมการออกกำลังกาย ที่สามารถดูท่าการออกกำลังกาย เพื่อการทำตามที่ถูกต้องผ่าน Smartphone หรือขึ้นจอโทรทัศน์ที่บ้านได้เลย / วิเคราะห์การวิ่งหรือปั่นได้ลึกขึ้น จับค่า VO2 Max ดูความอึดของเราได้ และที่ชูเป็นพิเศษ คือการวัดความดันโลหิต วัดคลื่นหัวใจด้วยระบบไฟฟ้า (ECG) วัดค่าออกซิเจนในเลือดได้ (ยังใช้งานในไทยไม่ได้) ถือเป็นจุดขายทางสุขภาพที่ชัดเจนมากขึ้นจากนาฬิกาในตระกูล Galaxy 

กำจัดจุดอ่อน Galaxy Buds 

ตั้งแต่ Galaxy Buds มาถึง Buds+ การทำหูฟัง True Wireless ของ Samsung ดูจะมีพื้นที่ในตลาด การออกรุ่นที่สูงกว่า ทำได้ดีกว่าอย่าง Galaxy Buds Live เป็นเรื่องที่ถึงเวลาแแล้ว หากมององค์ประกอบของ Buds Live แล้ว ถือว่ากำจัดจุดอ่อนของ Galaxy Buds ทั้งหมด ไม่ว่าจะหน้าตาที่เน้นใส่ได้เข้าหูมากชึ้น (ถึงจะดูแปลก ๆ ไปหน่อย เห็นตัวจริงแล้วเดี๋ยวว่ากัน) ระบบตัดเสียงรบกวนแบบจริงจังกว่า Buds / Buds+ และไมค์ฯ ที่เน้นความคมชัดในการใช้งานมากขึ้น แต่ทั้งนี้ ก็หวังว่า Samsung จะทำการตลาดให้ “มากขึ้น” กว่า Galaxy Buds / Buds+ ด้วยเช่นกัน 

Fold ที่ทำเสร็จแล้ว 

ตอนเปิดตัว Galaxy Fold เมื่อต้นปี 2019 แล้วติดโรคเลื่อนจากคุณภาพตัวเครื่อง พอออกมาขายจนถึงตอนนี้ อย่างน้อยก็ไม่โดนกล่าวถึงเรื่องคุณภาพตัวเครื่องมากเท่าตอนแรก แต่จุดที่ถูกวิจารณ์มากสุดของ Galaxy Fold คือเรื่องหน้าตาโดยรวม ที่มือถือจอพับคู่แข่งจากจีน (แต่จอ Samsung) ทำมาสวย เซ็กซี่กว่าเห็น ๆ รอบนี้ Galaxy Fold รุ่น 2 ถูกบรรจุเข้าตระกูล Z ที่หมายถึงมือถือจอพับ หน้าตาเดิม พับเครืองไม่ปิดสนิทเหมือนเดิม แต่ปรับจอหน้าให้เต็มตาถึง 6.7 นิ้ว ใช้งานเป็นมือถือปกติได้ดีขึ้น เปิดจอด้วยท่าเดิมจากรุ่นแรก ที่พิสูจน์แล้วว่า เปิดมือเดียว ใช้งานง่ายจริง พร้อมจอใน 7.6 นิ้ว ที่ลบติ่งจนเหลือแค่กล้องทรง Infinity-O ที่จอฝั่งขวาเท่านั้น และไปเน้นเรื่องการพัฒนากลไกลความแข็งแรง การป้องกันฝุ่น ความทนทานหน้าจอด้วยวัสดุเสมือนกระจกที่เรียกว่า UTG (Ultra Thin Glass) ที่ให้คุณสมบัติแข็งแบบกระจก แต่พับ หยืดหยุ่นได้แบบพลาสติก ทำให้รุ่นสองของ Fold ดูดึงดูดมากขึ้น

ถึงรายละเอียดตัวเครื่องจะเปิดเผยในวันที่ 1 กันยายนนี้ พอจะเดาทางได้ว่า น่าจะใช้สเปกรวม ๆ แบบ Galaxy Note 20 / 20 Ultra แต่การที่ผมพอจะเห็น Z Flip ได้รับการอุดหนุนดีพอสมควร Z Fold 2 หากราคาไม่รุนแรงเกินไป น่าจะแจ้งเกิดได้ดีกว่ารุ่นแรกไม่ยากแน่นอน 

ส่งท้ายกันด้วยข้อมูลสเปกที่น่าสนใจและราคาขายของ Galaxy Note 20 Series / Tab S7 Series / Buds Live กันครับ : )

Galaxy Note 20 

  • มิติเครื่อง 161.6 x 75.2 x 8.3 mm หนัก 192 กรัม (รุ่น 4G) หนัก 194 กรัม (รุ่น 5G) 
  • ตัวเครื่องทำด้วย Polycarbonate สีด้าน มีให้เลือก 3 สี Mystic Bronze / Mystic Green / Mystic Grey (ขายในไทยทุกสี) 
  • จอ Super AMOLED Plus ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 2,400 สัดส่วน 20:9 รองรับ HDR10+ 
  • CPU Exynos 999 (7 nm+) / GPU Mali-G77 MP11 / RAM 8GB / ความจุ 256GB กับ 512GB / Dual SIM (ใส่การ์ดไม่ได้) 
  • กล้องหลัก 64MP (Telephoto) / 12MP (Wide) / 12MP (Ultrawide) / กันสั่น OIS / ซูม 3X Optical Zoom 
  • กล้องวีดีโอ 8K ที่ 24fps / 4K ที่ 30 หรือ 60fps 
  • กล้องหน้า 10MP / 4K Video ที่ 30 หรือ 60fps 
  • Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.0 / USB-C 3.2 / ตัวอ่านลายนิ้วมือใต้จอ / Samsung DEX แบบไร้สาย 
  • แบตเตอรี่ 4,300 mAh รองรับ Fast Charge 25W / ชาร์จไร้สายพร้อมระบบจ่ายไฟกลับให้อุปกรณ์อื่น 
  • ราคาขายรุ่น 8GB+256GB (4G) : 29,900 บาท 
  • ราคาขายรุ่น 8GB+512GB (5G) : 33,900 บาท 

Galaxy Note 20 Ultra

  • มิติเครื่อง 164.8 x 77.2x 8.1 mm หนัก 208 กรัม 
  • ตัวเครื่องทำด้วย Gorilla Glass Victus ทั้งหน้าและหลัง มีให้เลือก 3 สี Mystic Bronze / Mystic Black / Mystic White (ในไทยไม่ได้ขายสีขาว)
  • จอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 1,440 x 3,088 สัดส่วน 20:9 รองรับ HDR10+ กับ Refresh Rate 120Hz 
  • CPU Exynos 999 (7 nm+) / GPU Mali-G77 MP11 / RAM 8GB กับ 12GB (รุ่น 5G) / ความจุ 256GB กับ 512GB / Dual SIM (เลือกใส่ MicroSD ได้) 
  • กล้องหลัก 12MP (Telephoto) / 108MP (Wide) / 12MP (Ultrawide) / กันสั่น OIS / ซูม 3X Optical Zoom (สูงสุด 30X)
  • กล้องวีดีโอ 8K ที่ 24fps / 4K ที่ 30 หรือ 60fps 
  • กล้องหน้า 10MP / 4K Video ที่ 30 หรือ 60fps 
  • Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.0 / USB-C 3.2 / ตัวอ่านลายนิ้วมือใต้จอ / Samsung DEX แบบไร้สาย 
  • แบตเตอรี่ 4,500 mAh รองรับ Fast Charge 25W / ชาร์จไร้สายพร้อมระบบจ่ายไฟกลับให้อุปกรณ์อื่น 
  • ราคาขายรุ่น 8GB+256GB (LTE) : 38,900 บาท
  • ราคาขายรุ่น 8GB+512GB (LTE) : 42,900 บาท 
  • ราคาขายรุ่น 12GB+256GB (5G) : 42,900 บาท 
  • ราคาขายรุ่น 12GB+512GB (5G): 46,900 บาท 

Galaxy Tab S7

  • มิติเครื่อง 235.8 x 165.3 x 6.3 mm หนัก 489 กรัม (รุ่น Wi-Fi) / 500 กรัม (รุ่น LTE) / 502 กรัม (รุ่น 5G) 
  • ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม มีให้เลือก 3 สี Mystic Bronze / Mystic Black / Mystic Silver
  • S Pen ความหน่วงต่ำ 9ms
  • CPU Qualcomm Snapdragon 865+ / RAM 6GB+128GB / RAM8GB+256GB 
  • กล้องหลัก 13MP / กล้องหน้า 8MP / Video 4K ที่ 30fps
  • Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.0 / USB-C 3.2
  • ตัวอ่านลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิด/ปิด 
  • แบตเตอรี่ 8,000 mAh รองรับ Fast Charge 45W  

Galaxy Tab S7+

  • มิติเครื่อง 285 x 185 x 5.7 mm หนัก 575 กรัม 
  • ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม มีให้เลือก 3 สี Mystic Bronze / Mystic Black / Mystic Silver
  • S Pen ความหน่วงต่ำ 9ms
  • CPU Qualcomm Snapdragon 865+ / RAM 6GB+128GB / RAM8GB+256GB 
  • กล้องหลัก 13MP / กล้องหน้า 8MP / Video 4K ที่ 30fps
  • Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.0 / USB-C 3.2
  • ตัวอ่านลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิด/ปิด 
  • แบตเตอรี่ 10,090 mAh รองรับ Fast Charge 45W  

Galaxy Buds Live 

  • หูฟังทรง True Wireless 
  • แบตเตอรี่ฟังได้ 6 ชั่วโมง ใช้ได้รวมสูงสุด 21 ชั่วโมง / ชาร์จ 5 นาที เล่นได้ 1 ชั่วโมง 
  • ไมค์ ฯ สามตัว / ตัวขับเสียง 12mm 
  • ระบบตัดเสียงแบบ ANC 
  • แตะค้างที่หูฟังเพื่อเปิด Spotify ได้ทันที 
  • มีให้เลือก 3 สี Mystic Bronze / Mystic Black / Mystic White
  • ราคาจำหน่าย 6,990 บาท 

คณะแกดกวน #teamgadguan

ดลกุล เนตรรัตนากุล (zipboy)

ชื่อเต๋า อายุหลัก 3 ชอบของเล่นไฮเทคทั้งหลาย แต่ไม่ค่อยจะได้เล่น ต้องไปยืมชาวบ้านมาลอง เป็นกรรมกรประจำ #TeamGadGuan รักที่จะเขียน และรักคนอ่านครับ^^