เหมือนเรื่องตลกชีวิตเล็กน้อย เมื่อวานผมพึ่งได้ชมภาพยนตร์เรื่อง John Wick Chapter 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่พระเอกเลือกใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล จนตัวเองเดือดร้อน ถูกสภาสูง โรงแรม และทุกบริการของวงการนักฆ่า ห้ามให้บริการพระเอก แต่สุดท้าย พระเอกก็ได้ทางออก และดูเหมือนเรื่องจะยังไม่จบ…ตื่นเช้ามา ผมก็เจอแบรนด์หนึ่ง ที่สภาพตอนนี้ อาจดีกว่า John Wick สักหน่อย แต่ก็แย่ไม่แพ้กัน จากสาเหตุอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล (หรือเปล่า?) ของชาติที่ได้ชื่อว่า “พี่ใหญ่ของโลก”
ทีนี้ สาระสำคัญที่ทุกคนน่าจะได้รับมาคือ “Huawei โดน Google ตัดหางปล่อยวัด” / “Huawei ที่อยู่ในมือ จะใช้งานไม่ได้ เพราะใช้ Android ไม่ได้แล้ว” โอเคครับ เท่าที่ผม น้องในทีม นั่งคุยกัน อ่านทุกข้อมูลที่หาได้ ผมขอรวบให้ง่ายที่สุดในแบบ เอาไปเล่าให้เพื่อน ให้ครอบครัว ให้คนที่ไม่ได้ติดตามข่าวมาก แล้วเข้าใจดังนี้ละกันนะครับ
สาเหตุมาจาก??
ตั้งแต่ประธานาธีบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน Donald Trump ออกคำสั่งทางการบริหาร (Executive Order) ห้ามบริษัทสัญชาติอเมริกัน ใช้เครื่องโทรคมนาคมและการสื่อสารของต่างชาติที่ “อาจ” เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ แม้ไม่ได้ระบุด้วยซ้ำว่ามาจากประเทศหรือแบรนด์ไหนเป็นพิเศษ แต่มองยังไง ก็เหมือนหาเรื่องแบรนด์ฝั่งประเทศจีนตรง ๆ อยู่ดี แล้วแบรนด์ที่เข้าข่ายประกาศนี้ ก็มีแค่ Huawei กับ ZTE เท่านั้น โดยที่ ZTE ได้ยกธงขาวไปก่อนแล้วจากกรณีเป็นภัยต่อความมั่นคง หลังเข้าไปวางระบบเครือข่ายในเกาหลีเหนือ แต่สำหรับฝั่ง Huawei เป็นบริษัทที่แข็งกว่า ด้วยกองหนุนหลักคือรัฐบาลจีน ทำให้ตั้งแต่มีประกาศนี้มา สหรัฐฯ ทำได้แค่เล่นงานทางอ้อม เช่น จับตัวผู้บริหารที่แคนนาดา / ห้ามขายมือถือในสหรัฐฯ / ห้ามประเทศพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ใช้อะไรก็ตามที่มาจาก Huawei ทุกกรณี
จนกระทั้งเมื่อพุธที่ผ่านมา สหรัฐฯ กดระเบิดใส่ Huawei อย่างเป็นทางการ (จริง ๆ ก็ไม่ใช่แค่ Huawei แต่เป็นทุกบริษัทฯ ที่เข้าข่าย) ซึ่งเท่ากับบีบให้ Google และบริษัทสัญชาติอเมริกันทุก ๆ บริษัท ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยทันที ไม่เล่นทางอ้อมกันอีกต่อไป โดย Huawei เอง ก็พึ่งรู้เรื่องเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนจะโดนเล่นงานจริง ๆ จัง ๆ ในช่วงเช้าของวันนี้
แม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะมีระยะเวลา 150 วัน ก่อนที่ Bureau of Industry and Security (BIS) สังกัดกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา จะประกาศเงื่อนไขและขอบเขตอย่างเป็นทางการว่า อะไรที่สามารถ และไม่สามารถทำได้ออกมา แต่เพื่อความปลอดภัยโดยรวม ก็เลยเกิดเหตุการณ์ “แบนหมู่” ขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว (ล่าสุดที่บทความนี้นำเสนอ ก็มี Intel, Broadcom, Qualcomm, WD, Micron, และ Xilinx รวมถึงบริษัทสัญชาติยุโรปอย่าง Infineon ต้องร่วมขบวนเรื่องนี้ไปกับ Google ด้วย)
ผู้ใช้งานมือถือ Huawei ต้องทำอย่างไร?
สั้น ๆ “ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเดิม” เพราะเหตุผลสอง-สามข้อนี้ได้แก่
- Google ออกมาบอกเองแล้วว่า Huawei กับ Honor ที่วางขายแล้ว และกำลังจะขาย (เท่ากับ Google ได้เห็นของแล้ว) จะยังคงใช้แอปฯ ต่าง ๆ จาก Google อาทิ Google Maps, Chrome, Gmail หรือ Play Store และได้รับการปกป้องจาก Google Play Protect ตามปกติ ฉะนั้น ซื้อเครื่องมือสอง หรือจะไปซื้อเครื่องใหม่ที่ขายอยู่ตอนนี้ ก็ใช้งานปกติแน่นอน
- Huawei ออกมายืนยันอีกเสียงว่า มือถือและแท็บเล็ตที่วางขายในปัจจุบันทั้งหมด และที่จะวางจำหน่ายอันใกล้ (Mate X/Honor 20) จะได้รับการอัพเดทซอฟท์แวร์และ Patch ความปลอดภัย ที่ Huawei จะทำให้ลูกค้าที่ซื้อไปแล้ว สามารถใช้งานได้อย่างอุ่นใจตามปกติต่อไป
แต่ปัญหาที่ Huawei กำลังกลุ้มใจจริง ๆ ก็คือ “อนาคตของตัวเอง” กับรุ่นที่ขายในตลาดโลก (ส่วนรุ่นที่ขายในจีน ไม่มีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลเค้า ไม่ให้ใช้บริการของ Google มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว) เพราะรุ่นใหม่ ๆ ที่ยังไม่วางขาย อย่าง Nova / Y / Honor รวมถึงรุ่นเรือธงอย่าง Mate 30 Series ที่จะออกปลายปี จะไม่สามารถใช้งานบริการ / ระบบความปลอดภัย / App จาก Play Store ได้อีกต่อไป
สรุปนะครับ ใครอยากได้ Huawei จะ Nova / Y / P20 หรือ P30 Series / Mate 20 Series เชิญไปซื้อเครื่อง แล้วใช้อย่างมีความสุขได้ตามปกติ ส่วนใครมีแผนจะขายเครื่องต่อ อย่าให้พวกหัวหมอ เอาข่าวนี้มา “หักคอ” ราคาขาย รวมถึงอย่าไปซื้อเครื่องมือสอง จากพวกหัวหมอ ที่เขียนว่า “เครื่องใช้ Google ได้นะ ขอบวกราคานะจ๊ะ” เช่นกัน
ต่อจากนี้ไปละ?
ตอนนี้ Huawei ปล่อยชื่อระบบปฎิบัติการใหม่ของมือถือและแท็บเล็ตในค่ายออกมาแล้ว นั่นคือ “Hongmeng OS” (鴻蒙, ห๋งเหมิง แปลว่า “ผู้สร้างอารยธรรม หรือผู้สร้างโลก” ..?) (HuaweiCentral) พอจะเดาได้ว่า โครงหลักคือ Android ตัวฟรี (AOSP) แต่เนื้อในระบบ บริการที่จำเป็น ไม่ว่าจะ เมล์ / แผนที่ / ร้านโหลด App ฯลฯ ที่จำเป็น อาจไปใช้ของคนอื่นหรือทำเองเลย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะทุกวันนี้ Amazon คือตัวอย่างที่ทำลักษณะนี้สำเร็จ โดยแท็บเล็ตของ Amazon ที่ชื่อว่า Fire ก็ใช้ Fire OS (โครง Android ฟรี+ออกแบบหน้าตาเอง+บริการจาก Amazon ล้วน ไม่มี Google ผสม) หรือครั้งหนึ่งที่ Nokia ทำมือถือชื่อ Nokia X ที่ใช้ Android ตัวฟรี แต่บริการทั้งหมดคือ Microsoft ซึ่งปัจจุบันคงไม่ต้องบอกว่าไปอยู่ไหนแล้วนะครับ
เรื่องที่ท้าทายที่สุดต่อไปจากนี้ ถ้าเป็นฝั่ง Huawei ก็คือการเจรจาสันติภาพให้ Android กลับมาใช้ได้เต็มระบบให้ได้ เพราะยังไง บริการของ Google ก็จำเป็นกับตลาดโลก ในขณะเดียวกัน เชื่อว่า Google ก็อยู่สถานะกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ถ้าทำได้ ก็อยากได้สันติภาพคืนเหมือนกัน ในฝั่งสหรัฐอเมริกา การยิง Huawei ในวันนี้ บริษัทจากสหรัฐฯ ที่มีแววโดนเล่นคืนจากจีน คือ Apple ที่ช่วงที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นเหยื่อเอาคืนจากจีนบ่อยที่สุด (แบบที่ไม่เห็นว่าสหรัฐฯ จะช่วยอะไรบ้าง)
และเรื่องสุดท้ายต้องติดตาม Xiaomi / OnePlus / Lenovo / Motorola คือสี่แบรนด์จีน ที่ยังขายในสหรัฐฯ จะโดนเจ้าบ้านเล่นด้วยไหม? แบรนด์จีนที่ขายนอกจีนอย่าง OPPO / Vivo / realme จะโดนผลกระทบตาม Huawei กับเค้าหรือไม่
ขอสันติภาพจงบังเกิด…