ติสท์อยากเขียน

มือถือจอพับ เกิดเร็วไป? หรือต้องเกิดตอนนี้?

ย้อนกลับไปช่วงต้นปีที่ผ่านมา การได้เห็น Samsung Galaxy Fold ตอนที่เปิดตัว Galaxy S10 Series ผมมีปฎิกิริยาตอบสนองในทางที่ดี “เออ ในที่สุด เหมือนจะได้เห็นสิ่งที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกชิ้นในโลก” ถึงในใจส่วนที่จับผิด จะไม่ชอบความหนา จอด้านหน้าที่เล็ก ประกบจอตอนพับก็ไม่สนิท แถมเปิดมา จอกลางมีรอยยับอีก ผมได้แต่คิดว่า โอเค แค่เค้ายังทำไม่เสร็จดี รุ่นแรกอะ รุ่นแรก อย่าไปเอาอะไรมาก ทำมาขายได้ แปลว่าแนวโน้มที่ดีมันมาละนะ คล้อยหลังไม่นาน ไม่นานจริง ๆ Huawei Mate X ก็โผล่มาให้ชม แถมหน้าตาเครื่องโดยรวม คมคายกว่าแบบชนิดทำให้คนเปิดตัวก่อนหมองไปเลย

แต่ทำไมกัน….จนป่านนี้ ใกล้จะหมดปี 2019 แล้ว มือถือจอพับที่เรียกเสียงตื่นเต้นของคนบ้า Gadget กลับไม่สามารถออกวางขายจริงได้ ทั้งที่คนหลายคนยินดีรอจ่ายเงินเกินครึ่งแสน เพื่อได้ลิ้มลองประสบการณ์แบบนี้ หรือที่จริง มือถือแบบจอพับ “เกิดเร็วเกินไป” หรือ“ควรเกิดตอนนี้” ไม่งั้น ไม่มีพัฒนาการนะ ในครั้งนี้ ผมเลยอยากชวนคุยด้วยเรื่องนี้ครับ

ทำไมต้องจอพับ?

ผมเชื่อว่า ทุกวันนี้หลายคนขาด Smartphone ไม่ได้ ไม่เปิดคอม ไม่มี Tablet ไม่เป็นไร แต่มือถือเครื่องเดียวตอนนี้ กลายเป็นทุกสิ่งในชีวิต หลายคนเคยผ่านช่วงที่ ไม่ชอบดูไรนาน ๆ กับมือถือ หรือพิมพ์ไรยาว ๆ ในมือถือ แต่ตอนนี้ กลายเป็นใช้ชิวิตกับหน้าจอสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงสูงนี้ได้สบาย ๆ เมื่อทุกคนใช้งานได้สบาย แปลว่าเทคโนโลยีโดยรวม ดีมากพอแล้ว เมื่อลองคิดถึงความต้องการของทุกคน เชื่อว่า หลายคนอยากได้มือถือที่ จอใหญ่มาก ๆ แต่ต้องพกสะดวก ถือสองมือเป็นหลักก็ได้นะ อาจไม่สะดวกบ้าง แต่เดี๋ยวก็คล่องเอง และเชื่อว่า หลายคนน่าจะรู้สึกว่า จอมือถือขนาด 5 นิ้ว ดูเล็กเหมือน 3.5-4 นิ้ว แบบสมัยก่อนไปแล้ว

สมัยที่มือถือทำได้แค่โทรเข้าโทรออก Samsung คือผู้ผลิตที่ทำมือถือแบบฝาพับออกมาเป็นหลัก ด้วยเหตุผลทางการออกแบบที่ง่ายมาก “มือถือฝาพับ ให้พื้นที่หน้าจอกับปุ่มกด ที่รวมกันแล้ว พกพาง่ายกว่ามือถือทรงแท่ง” แน่นอนว่าใครเกิดทันตอน E700 คงนึกออกถึงความสวย พกง่าย อย่างที่ Samsung ให้นิยามแน่นอน เมื่อการพับ ทำให้ได้ทั้ง “พื้นที่” และ “การพกพา” ผมเขื่อว่า เหตุผลนี้ น่าจะทำให้มือถือจอพับ กลายเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตหลายเจ้า อยากไปให้ถึง จนผลักดันให้เราได้เห็น Galaxy Fold และ Mate X อย่างที่เราเห็นกันนี่ละครับ

ลองคิดถึงการได้มือถือสักเครื่อง แต่จอเต็มที่พกสะดวกพอดีมือเดียว แต่พอกางออกแล้ว เหมือนได้ Tablet เล็ก ๆ ที่มองเต็มตากว่ามือถือจอใหญ่ เชื่อเลยว่านี่แหละครับ มือถือในฝันของใครหลายคน…รวมถึงผมด้วย

แต่ความเป็นจริง....

คำเตือนเรื่องการลอกฟิล์มหน้าจอ ที่ชวนเอาคอไอทีหลายคนงงตั้งแต่วันได้เครื่องรีวิว

ช่วงที่ Samsung ส่ง Galaxy Fold ให้สื่อฯ ผู้ทรงอิทธิพลด้าน IT หลายคน ลองใช้งานกัน เหมือนกลายเป็นฝันร้ายของมือถือจอพับ ไม่ว่าจะจอเสีย ตุ่มนูนของฟิล์ม จอไม่แสดงผล แสดงผลแบบติด ๆ ดับ ๆ รวมถึงฟิล์มติดหน้าจอจากโรงงาน ที่ทำให้ผู้ได้รับไป เข้าใจว่า “ก็เหมือนมือถือออกโรงงาน ลอกฟิล์มได้” ถ้าคิดว่ามือถือสักรุ่น ก่อนจะไปถึงมือผู้ใช้ โดยเฉพาะผู้ใช้ที่มีปากมีเสียงต่อคนวงกว้าง มันต้องดีและมั่นใจได้มากพอแล้ว การไปพังคามือแบบนี้ คงไม่ต้องบอกว่ามันจะส่งผลอย่างไร นั่นทำเอา Samsung ต้องรีบแถลงว่า “อย่าลอกฟิล์มหน้าจอออกนะ” จนในที่สุด Samsung ก็ต้องเอา Fold กลับไปฟิตร่างกายใหม่หมด แล้วต้องเลื่อนขายไปแบบ “มั่นใจแล้ว เจอกันใหม่”

นี่คือหนึ่งในเครื่องรีวิว Galaxy Fold ที่ได้รับความเสียหาย...

มองมาที่ Huawei Mate X พอเห็น Samsung เจองานเข้าขนาดนี้ Mate X ก็ต้องเข้าคอร์สฟิตร่างกายอย่างเลี่ยงไม่ได้ ข่าวที่ดูใกล้เคียงที่สุด มีเพียงแค่ Richard Yu ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Huawei บอกว่า น่าจะเสร็จช่วงกันยายน พร้อม ๆ กับ Mate 30 Series ซึ่งตอนนี้จะหมดเดือนกันยายนแล้ว Mate X ก็ยังคงเงียบอยู่ ซึ่งถ้าคิดว่า Mate X ไปฟิตร่างกายมาเสร็จ ก็เป็นไปได้ว่า ที่เงียบไป เพราะเจอพิษ Google แบน อันเนื่องมาจากสงครามการค้าสหรัฐฯ กับ จีน ในตอนนี้ก็เป็นได้

จุดที่เปลี่ยนไปของ Galaxy Fold ระหว่างตัวเก่ากับตัวใหม่

ส่วน Galaxy Fold ที่ผ่านการปรับปรุงหลัก ๆ ไม่ว่าจะความแข็งแรง การกันฝุ่นที่ดีขึ้น บานพับ ฝาแม่เหล็กที่ดีขึ้น ฟิล์มหน้าจอด้านในที่เรียบร้อย เสมือนเป็นส่วนเดียวกับเครื่องมากขึ้น ก็พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 6 กันยายนในประเทศหลัก ๆ อย่าง ฝรั่งเศส / เยอรมัน / สิงคโปร์ / สหรัฐอเมริกา / สหราชอาณาจักร รวมถึงประเทศที่รองรับ 5G แต่พอมีคนลองทดสอบความแข็งแรงของเครื่อง ก็พบว่าหน้าจอสัมผัสด้านใน แค่เล็บจิกแรงไป ก็อาจทำให้พังได้ ทำเอา Samsung ต้องออกวีดีโอแนะนำการใช้งานหลัก ๆ ไม่ว่าจะการเปิด ปิด พับเบา ๆ เครื่องมีฟิล์มกันรอยให้มาแล้ว ไม่ต้องติดเพิ่ม เครื่องไม่ได้กันน้ำ กันฝุ่น รวมถึง แตะจอในเบา ๆ ค่อย ๆ และอย่าเก็บเครื่องรวมกับของแข็งที่ทำให้เกิดรอยได้ ประมาณนี้….

ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า หน้าจอสัมผัสทุกรูปแบบ ทุกเทคโนโลยี เนื้อในคือของเหลวรูปแบบหนึ่ง การที่จะให้ของเหลวทั้งหมดทำงานได้ ต้องมีชั้นฟิล์มปิดทับอีกที แต่จะให้ขั้นฟิล์มแสดงผลไปเจอกับแรงกดทับของนิ้ว ฝุ่นในอากาศ ฝุ่นที่ติดนิ้วมือของเรา มันคงไม่น่ารอดในระยะยาวของการใช้งานแน่นอน หน้าจอสัมผัสทุกรูปแบบ จึงต้องมีกระจกแข็งด้านหน้าหนึ่งชิ้น เพื่อรับหน้าที่สัมผัสทั้งหมดเอาไว้ ฉะนั้น ถ้าจะทำมือถือให้พับได้ ลองคิดสภาพว่า ต้องมีกระจกอยู่ในจอที่พับได้ จะวางอย่างไรให้กระจกสามารถพับได้….พอนึกตามแล้ว เริ่มคิดไม่ออกแล้วใช่ไหมครับ เมื่อหน้าจอสัมผัสขาดส่วนที่แข็งแรงที่สุดในการปกป้อง ที่เหลือ ผมเชื่อว่าทุกคนจินตนาการออกได้ว่า เมื่อใช้งานจริง จะรอดในระยะยาวได้แค่ไหน

ทางออกของมือถือจอพับ...

เอาเข้าจริง ผมเชื่อว่าพอคิดตามดี ๆ สิ่งเดียวถูกต้อง ใช่เลย ของมือถือจอพับ คือการใช้งานที่กว้างไกล ทำได้หลากหลาย จินตนาการแล้ว เห็นความน่าใช้ในรูปแบบชีวิตเต็มไปหมด ฉะนั้น สิ่งเดียวที่ผมเชื่อว่า จะทำให้มือถือจอพับน่าใช้ คือความมั่นใจในเรื่องความแข็งแรงของหน้าจอพับด้านใน ผมเชื่อว่า กลไกลการพับต่าง ๆ ผู้ผลิตมือถือน่าจะมีประสบการณ์ทำของพวกนี้ให้ทนทานได้สบาย แต่การที่หน้าจอพับไม่มีกระจกเป็นประการด่านสุดท้าย แล้วทำให้การใช้งานต้องถนอมดุจไข่ในหินแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องที่น่าประทับใจแน่นอน ฉะนั้นแล้ว ถ้าปัญหาเรื่องความแข็งแรงของหน้าจอด้านในทำออกมาได้พร้อมใช้งาน การแสดงผลที่ไม่เห็นรอยยับกลางจอ หรือรอยพับดูเรียบร้อยกว่านี้

ผมเชื่อว่าจะ Android หรือ iOS มีโอกาสได้ไปโลดแล่นในมือถือแบบพับ จนมันอาจกลายเป็นก้าวสำคัญของ Smartphone ก็ได้ แต่ถ้าข้อจำกัดนี้ยังคงแก้ไม่จบหรือแก้ไม่ได้เลยจริง ๆ มันก็จะเป็นแค่เทคโนโลยีที่ มาแล้วหายไป หรืออยู่ก็ไม่ได้น่าจดจำ อย่างที่ตลอด 10 ปีของโลก​ Smartphone ที่มีทั้งได้ไปต่อ หรือดับไปถาวร อย่างที่เราเห็น ๆ กันนั่นแหละครับ

ข้อมูลประกอบการเขียนโดย

คณะแกดกวน #teamgadguan

ดลกุล เนตรรัตนากุล (zipboy)

ชื่อเต๋า อายุหลัก 3 ชอบของเล่นไฮเทคทั้งหลาย แต่ไม่ค่อยจะได้เล่น ต้องไปยืมชาวบ้านมาลอง เป็นกรรมกรประจำ #TeamGadGuan รักที่จะเขียน และรักคนอ่านครับ^^