iPhoneSociety

วิธีแก้ปัญหา เมื่อ iPhone แจ้งว่าพื้นที่เต็ม!!

เพื่อนๆ หลายๆ คนคงทราบกันอยู่แล้วว่าอุปกรณ์ iOS ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPod touch หรือ iPad จะมาพร้อมกับความจุของเครื่องที่ต่างกันออกไปตั้งแต่ 8GB ไปจนถึง 128GB กันเลยทีเดียว

สำหรับใครที่ใช้รุ่นความจุประมาณ 8-32GB เมื่อใช้ไปเรื่อยๆ อาจจะเคยพบกับการแจ้งเตือนที่บอกว่า “Storage Almost full” หรือบอกว่าเครื่องเราพื้นที่เต็มแล้วนะ แน่นอนว่าวิธีแก้ปัญหาพื้นที่เต็มก็คือต้องลบข้อมูลในเครื่องออกนั่นเอง แต่จะลบบ้างอะไรบ้างดี? วันนี้เรามีเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับการคืนพื้นที่เครื่อง iPhone มาฝากกันครับ

 

เริ่มจากดูก่อนว่าเราใช้พื้นที่ไปกับอะไรบ้าง

ก่อนที่เราจะเริ่มไปลบอะไรต่างๆ ในเครื่องทิ้ง เราก็ควรที่จะรู้ก่อนใช่ไหมครับว่าเครื่องเราเสียพื้นที่ไปกับอะไรบ้าง จะได้วางแผนในการลบข้อมูลทิ้งได้ถูกต้อง ซึ่ง iOS เองก็มีหน้าที่บอกการใช้พื้นที่ เราสามารถดูได้ว่าอะไรทำให้ iPhone ของเราเต็มได้ด้วยการเข้าไปที่ Settings > General > Storage (หรือ Storage & iCloud Usage ใน iOS 9) แล้วเลือก Manage Storage ในหัวข้อ Storage ครับ

ซึ่งในหน้านี้จะบอกเลยว่าเครื่องเราเหลือพื้นที่เท่าไหร่ แล้วมีแอพไหนใช้พื้นที่อะไรของเราไปเท่าไหร่แล้วบ้าง โดยจะเรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย

ที่นี้พอรู้แล้วว่าเราเสียพื้นที่ไปกับอะไร เราก็มาจัดการพื้นที่กันครับ

 

ลบแอพที่ไม่ได้ใช้ทิ้ง

เมื่อพูดถึงการลดแอพที่ไม่ได้ใช้ทิ้ง วิธีลบแอพที่หลายๆ คนนึกถึง คงจะเป็นการกด icon ค้างไว้ที่หน้า home screen ให้สั่นจนมีปุ่มลบขึ้นมา แต่วิธีลบแบบนี้เราจะไม่รู้ว่าแอพที่ลบไปมีพื้นที่เท่าไหร่ แล้วได้พื้นที่กลับมาเท่าไหร่ ดังนั้นจึงยังมีอีกวิธีนึงในการลบแอพแบบที่เราจะรู้ขนาดของแอพที่ลบได้ครับ

โดยเข้าไปที่ Settings > General > Storage (หรือ Storage & iCloud Usage ใน iOS 9) แล้วเลือก Manage Storage ในหัวข้อ Storage ในนี้จะเห็นรายชื่อแอพเรียงกันอยู่ตามการขนาดของแต่ละแอพเลย

 

ทีนี้แอพไหนที่กินพื้นที่เยอะ แล้วเราไม่ได้ใช้แล้ว ก็สามารถกดเข้าไป แล้วกด  Delete App เพื่อกดลบได้เลย (ส่วนมากแอพที่มีขนาดใหญ่จะเป็นเกมครับ) แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป ถ้าลบแอพหรือเกมไหนที่เคยซื้อไว้แล้วอยากโหลดกลับมาใช้ใหม่ภายหลัง ก็สามารถเข้าไปโหลดใหม่ได้จากใน App Store ได้ทุกเมื่อไม่จำเป็นต้องเสียเงินอีกรอบครับ

 

ลบไฟล์ที่เก็บไว้ในแอพ

แอพบางประเภทสามารถเก็บข้อมูลไว้ในตัวแอพได้ อย่างเช่นแอพประเภท File Manager ,แอพสำหรับดูไฟล์วีดีโอหรือแอพแต่งรูป สามารถดูข้อมูลได้จากในหน้า Usage ได้ครับ จะมีบอกว่าแต่ละแอพ มีไฟล์ที่เก็บอยู่ในแอพเท่าไหร่บ้าง

อย่างเช่นในตัวอย่างแอพแต่งรูป VSCO CAM ตัวแอพขนาดแค่ 55 MB แต่มีไฟล์อยู่ในแอพนี้อีก 400MB ซึ่งเป็นไฟล์ภาพที่เราแต่งเก็บไว้ ดังนั้นเราสามารถเข้าไปลบภาพจากในแอพนี้เพื่อจะได้พื้นที่คืนมาได้ (ตรงนี้แต่ละแอพก็จะมีวิธีลบข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป)

 

สำรองรูปไว้ในคอม แล้วลบรูปในเครื่องออกบ้าง

ด้วยความสวยของภาพที่ถ่ายจากกล้อง iPhone ทำให้ iPhone เป็นมือถือที่คนนิยมนำมาถ่ายรูปเล่นกันมาก แน่นอนว่าถ่ายไปเรื่อยๆ บางคนมีรูปอยู่ในเครื่องหลายพันรูปเลยทีเดียว

 

ซึ่งจริงๆ ขนาดของรูปนึงมันก็ไม่ใหญ่มากหรอกครับ จะอยู่ประมาณรูปละ 2-3 MB เท่านั้น แต่ถ้าถ่ายเป็นพันๆ รูป รวมกันก็กินพื้นที่ไปหลาย GB ได้เช่นกัน ดังนั้นการสำรองรูปไว้บนคอมบ้าง แล้วเก็บเฉพาะรูปที่คิดว่าโอเคบางส่วนไว้บน iPhone ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการประหยัดพื้นที่ของ iPhone ไปได้เช่นเดียวกัน

 

และมีเคล็ดลับอีกอย่างสำหรับการลบภาพที่ถ่ายเพื่อประหยัดพื้นที่เครื่อง จริงๆ แล้วการถ่ายวีดีโอนี่กินพื้นที่กว่ารูปภาพธรรมดาเยอะเลยนะครับ ดังนั้นถ้าหากวีดีโออันไหนที่ถ่ายไว้แล้วไม่ได้สำคัญอะไรก็นำมาเก็บไว้บนคอมแล้วลบบน iPhone ทิ้ง จะได้พื้นที่คืนมาจำนวนหนึ่งเลย

 

จัดการกับเพลงและหนัง

เช่นเคยครับ ถ้าเพลงไหนที่เราไม่ได้ฟังแล้วจากหน้าจัดการ storage ได้เลย โดยจะมีบอกว่าขนาดเพลงแต่ละเพลงของเรากินพื้นที่ไปเท่าไหร่บ้าง สามารถเลือกลบเป็นรายเพลง รายอัลบัม หรือลบตามชื่อศิลปินได้เลย สามารถทำการลบทิ้งได้ด้วยการปัดนิ้วไปทางด้านซ้าย จะมีปุ่ม delete ขึ้นมาให้กดลบได้

วีดีโอในแอพ Video ถ้าวีดีโออันไหนไม่จำเป็นแล้ว ก็สามารถลบในหน้าจัดการ storage ได้เช่นกัน วิธีลบแบบเดียวกันการลบเพลงทิ้งเลย

 

และอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยประหยัดพื้นที่ไปได้ สำหรับคนที่ไม่ได้เน้นฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ หรือว่าไม่ได้ต้องการเพลงที่รายละเอียดเยอะมากๆ ในการซิงค์เพลงจาก iTunes เข้ามาใน iPhone หรือ iPad เราสามารถตั้งขนาดความละเอียดของไฟล์เพลงได้ครับ

โดยใน iTunes หน้ารายละเอียดการซิงค์ข้อมูลกับ iPhone ที่หัวข้อ Option จะมีให้ติ๊ก Convert Highrt bit rate songs to … ซึ่งมีให้เลือกอยู่ 3 ระดับคือ 128, 192, 256 kbps สำหรับใครที่หูแยกความชัดของเพลงไม่ออก ความละเอียดระดับ 128 kbps ก็ถือว่าโอเคครับ ช่วยลดขนาดของ library เพลงใน iPhone/iPad เราไปได้ หรือถ้าใครต้องการชัดขึ้นก็สามารถเลือก 192 หรือ 256 kbps

ส่วนใครที่ใช้ Apple Music อยู่ สามารถใช้ iCloud Music Library เอาไว้เก็บเพลง Online แทนแล้วลบเพลงที่เก็บใน iPhone ออกไปก็ได้ครับ (แต่ทุกครั้งที่เล่นเพลงก็จะเล่นผ่านเน็ตแทน)

 

นี้ก็เป็นวิธีที่จะทำให้ iPhone เรามีพื้นที่เหลือคืนกลับมานะครับ ใครสะดวกใช้วิธีไหนก็ลองนำไปปรับใช้กันได้ แต่ก็อย่าเผลอหน้ามืดไปลบจนลบข้อมูลสำคัญๆ ทิ้งกันหมดนะคร้าบ แล้วคราวหน้าจะมีอะไรมาฝาก อย่าลืมติดตามกันนะครับ

คณะแกดกวน #teamgadguan

ธนกร แช่มเมืองปัก