RTB Technologies จับมือร่วมกับ Jabra GN เปิดตัว 3 นวัตกรรมหูฟังระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ “Jabra Elite 75t” และ “Jabra Elite Active 75t” ภาคที่สี่ของหูฟัง True Wireless และ “Jabra Elite 45h” หูฟัง On-ear รุ่นรองเรือธงตัวใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับเทคโนโลยีระดับเดียวกับที่ใช้ในการแพทย์ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการฟังอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ทุกที่ ทุกเวลา
สำหรับ Jabra Elite 75t และ Jabra Elite Active 75t เป็นหูฟังไร้สายแบบ True Wireless รุ่นที่ 4 ของตระกูล Elite พัฒนาต่อยอดจากความสำเร็จของ Elite 65t ที่เปิดตัวเมื่อปี 2018 ให้สามารถถ่ายทอดเสียงได้อย่างเต็มอารมณ์มากขึ้น ออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด เล็กลงจากรุ่นเดิมถึง 20% สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย ใส่ได้สบายและกระชับมากขึ้น และไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนแต่ก่อนด้วย Ear Gel รุ่นใหม่ที่สามารถระบายและลดความดันอากาศในช่องหูระหว่าง Driver กับเยื่อบุแก้วหูได้
นอกจากนี้ Elite 75t ยังเน้นประสิทธิภาพในการโทรศัพท์เป็นอย่างดี ด้วยไมโครโฟนรับเสียงถึง 4 ตัว สามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นอย่างดีขณะกำลังสนทนา และมั่นใจอีกระดับด้วย Priority Mode ที่จะสั่งการระบบให้ความสำคัญกับการโทรศัพท์เป็นอย่างแรก ด้วยการตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่น ๆ กับ Bluetooth ออกก่อนเพื่อให้สัญญาณเสถียรที่สุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับค่าความหน่วง (Latency) ที่ต่ำ สามารถใช้หูฟังเล่นเกมได้อย่างสบายใจ ไร้อาการภาพก่อนเสียงอย่างแน่นอน และที่สำคัญ สามารถเล่นได้ยาว เช้าจรดเย็น ด้วยแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นาน 7.5 ชั่วโมง และสามารถชาร์จเพิ่มได้อีกสองครั้ง รวมเป็น 28 ชั่วโมง แม้ในช่วงเวลาเร่งรีบ ชาร์จเพียงแค่ 15 นาที ก็สามารถใช้งานได้นาน 60 นาที
และเช่นเคยกับรุ่น Elite Active 75t ยังคงได้รับการออกแบบสำหรับคอกีฬาโดยเฉพาะ ด้วยมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่นที่ IP57 สามารถอยู่ในน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที และได้รับการดีไซน์ใหม่เพื่อใช้งานด้านกีฬาและการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ด้วยวัสดุผิวชนิดพิเศษ ที่ทำให้หูฟังสามารถยึดเกาะกับหูได้ดีขึ้นอีกด้วย
ในส่วนของ Jabra Elite 45h เป็นหูฟังแบบครอบหู (On-ear Headphone) ที่ถูกออกแบบใหม่หมดจด ด้วยคุณภาพเสียงระดับเรือธงในราคาที่ย่อมเยาว์มากขึ้น มาพร้อมกับ driver ขนาดใหญ่ 40 มิลลิเมตร ทำให้ถ่ายทอดเสียงได้อย่างคมชัด โดดเด่นด้วยระบบไมโครโฟน 2 ตัว สามารถตัดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี และสามารถใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมง พร้อมรองรับระบบ Quick Charge เพียงชาร์จแค่ 15 นาที ก็สามารถใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมง จึงแทบไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดขณะเดินทางแต่อย่างใด
และด้วยแอปฯ Jabra Sound+ เวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด “My Sound” อันเป็นฟีเจอร์ที่ได้มาจากการพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยี Hearing Aids จะช่วยให้หูฟังรุ่นใหม่ทั้งสามรุ่น สามารถปรับคลื่นความถี่เสียงให้เหมาะสมกับลักษณะการได้ยินของผู้ฟังแต่ละคนได้อย่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องเปิดเสียงดังอัดหูเพื่อฟังในช่องเสียงที่ต้องการอีกต่อไป นอกจากนี้ Jabra Sound+ ยังมาพร้อมกับ Equalizer และ Moment ที่ให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเสียงได้อย่างอิสระภายใต้ 3 โหมดการใช้งานหลัก สามารถอัพเดตเฟิร์มแวร์ในการใช้งานได้แบบต่อเนื่อง ให้หูฟังฉลาดขึ้นทุกครั้งที่มีการอัพเดต และรองรับการใช้งานคำสั่งเสียงและระบบผู้ช่วยส่วนตัวทั้ง Amazon Alexa, Siri และ Google Assistant ทำให้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนด้วยคำสั่งเสียงได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกต่อไป
Jabra Elite 75t พร้อมวางจำหน่ายให้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้ ในราคา 6,290 บาท ที่ตัวแทนจำหน่ายของ RTB Technologies ทุกแห่ง และที่ร้าน .Life by Copperwired ในส่วนของ Jabra Elite Active 75t และ Jabra Elite 45h จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในเดือนมีนาคมนี้ ที่ราคา 6,990 บาท สำหรับ Jabra Elite Active 75t และ 3,490 บาท สำหรับ Jabra Elite 45h
