นอกจากการเปิดตัว iPhone 8 / iPhone X (อ่านว่า “เท็น” ที่แปลว่าเลข 10) ซึ่งน่าจะทำให้ใครหลายคนอยากได้มาก หรือฉีกกระเป๋าเงินจนขาดวิ่นแล้ว ก็ไม่รู้จะซื้อได้ไหมนั้น ยังมีของสำคัญในงานที่ไม่พูดไม่ได้มาเล่าอีกสองอย่าง นั้นคือ Apple Watch Series 3 กับ Apple TV 4K รายละเอียดเป็นอย่างไรเลื่อนไปดูกันต่อเลยครับ
Apple Watch Series 3
หนึ่งปีที่แล้ว การเปิดตัว Apple Watch Series 2 สานต่อความสำเร็จ Apple Watch รุ่นแรก ที่สามารถจองอันดับสองของตลาดนาฬิกาทุกแบรนด์ในโลก เป็นรองแค่ Rolex เท่านั้น และ Series 2 ก็ช่วยส่งให้ Apple คือผู้นำของตลาดนาฬิกาทั้งโลกแซงหน้า Rolex พร้อมพ่วงความพอใจจากผู้ใช้งานที่สูงถึง 97% ด้วย
สำหรับปีนี้ Apple จัดแจงยกเครื่องให้กับนาฬิกาตัวเองให้สดใหม่ขึ้น ด้วย Apple Watch Series 3 โดยมีสิ่งใหม่ๆดังต่อไปนี้
สวมนาฬิกา แล้วปลดพันธการ iPhone ได้เลย
โดยปกติ Apple Watch จะเป็นเหมือนผู้ช่วยของ iPhone มีอะไรเกิดขึ้นใน iPhone การแจ้งเตือนก็จะไปถึงนาฬิกา เมื่อแยกจากกัน Apple Watch จะกลายเป็นแค่นาฬิกาเปล่าๆ หนึ่งเรือน ทำให้ Series 3 จึงใส่ Cellular ด้วยหลักการ E-SIM ที่แค่ลงทะเบียนกับเครือข่ายมือถือก่อน จากนั้นจึงดึงเอาข้อมูลเบอร์โทรศัพท์เดียวกับ iPhone มาใส่ลงในนาฬิกา เสมือนนาฬิกาได้ใส่ SIM ใบเดียวกับ iPhone เรียบร้อย
นั่นจึงทำให้ Apple Watch Series 3 สามารถใช้ โทรศัพท์ / App ที่ต้องใช้ data สามารถรับ ส่ง ข้อมูลจากนาฬิกาได้โดยตรง / ฟังเพลง ฟังวิทยุ จาก Apple Music แบบ Stream ได้เลย และ Siri ที่สามารถใช้ได้เต็มรูปแบบ ไม่ต้องทำงานผ่าน iPhone แบบแต่ก่อน
ฉะนั้นแล้ว ในสถาณการณ์ที่พก iPhone ไปด้วยไม่ได้ ก็ไม่พลาดการติดต่อหรือใช้งาน App ที่จำเป็นแน่นอน
ครบเครื่องและทรงพลัง
Apple Watch Series 3 เร็วขึ้นกว่า Series 2 ถึง 70% ทำให้การเรียก App มีชิป W2 ที่ทำให้รับสัญญาณ Wi-Fi ได้แรงขึ้นกว่าเดิม 50% แต่ใช้พลังงานน้อยลงกว่าครึ่ง เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว และใน Series 3 มีการออกแบบเสาสัญญาณของนาฬิกา โดยใช้พื้นที่หน้าจอเป็นเสาสัญญาณ
นอกจากนี้ ยังรองรับ Barometer สำหรับวัดสภาพอากาศ ความกดอากาศได้โดยตรงจากนาฬิกา และสเปคการกันน้ำ / GPS รวมถึงสิ่งต่างๆ จาก Series 2 ก็ยังอยู่ครบเช่นเดิม
ประเทศไทยวางจำหน่ายเมื่อไหร่?
สำหรับ Apple Watch Series 3 นั้นมีให้เลือกดังต่อไปนี้
- สีและวัสดุ : อลูมิเนียม สีเงิน / สีทอง / สีเทา / Nike+ สีเงิน / Nike+ สีเทา
- ราคา 11,900 บาท (38mm) / 12,900 บาท (42mm)
- วางจำหน่าย 15 กันยายน เฉพาะรุ่น GPS เท่านั้น
สำหรับรุ่น Cellular ในไทย รอความคืบหน้าในภายหลัง ซึ่งน่าจะมีการเปิดจำหน่ายร่วมกับเครือข่ายทั้ง 3 เจ้าหลักที่ขาย iPhone แน่นอน
Apple TV 4K
หลังจาก Apple หาแนวทางให้กับ Apple TV จากแค่กล่องเข้าถึง iTunes Store เป็น กล่อง TV ที่มีระบบ / App / การโต้ตอบร่วมกับ Siri ซึ่งถือว่าปูทางมาในระดับหนึ่ง วันนี้ Apple จึงเติมเต็มให้กับ Apple TV ใหม่ ในชื่อว่า Apple TV 4K
ภาพที่สมบูรณ์แบบ 4K
จุดขายสำคัญคือการรองรับ 4K แต่ไม่ใช่แค่ความละเอียด 4K เพราะ Apple TV 4K เป็น 4K HDR ในมาตราฐาน HDR10 และ Dolby Vision โดยเหล่าบรรดาค่ายหนังต่าง ๆ จะปรับให้ภาพยนตร์ที่ขายใน iTunes Store เป็น 4K ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยที่ราคาขายเท่ากับ Full HD ซึ่งผู้ที่ซื้อภาพยนตร์แบบ Full HD ไปก่อนหน้า หากค่ายหนังปรับเรื่องที่ซื้อให้เป็น 4K ผู้ที่ซื้อไปก่อน จะได้รับ 4K ไปชมด้วยเช่นกัน
นอกจากภาพยนตร์แล้ว บริการดังๆ อย่าง Netflix / Amazon Prime / TED ก็ปรับ Content ให้แสดงผล 4K รับกับ Apple TV 4K เช่นกัน
อิ่มภาพ อิ่มประสิทธิภาพ
Apple TV 4K ใช้ A10X Fusion เป็นหัวใจหลัก ทำให้ App และการทำงานต่าง ๆ เร็วและลื่นไหลมากขึ้น ตัวอย่างที่ Apple นำมาแสดงในงานเป็นเกมที่แสดงให้เห็นว่าตัวเครื่องมีศักยภาพในการเล่นได้มากกว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน
นอกจากสเปคเครื่องใหม่แล้ว Remote ของ Apple TV 4K มีการปรับดีไซน์ใหม่เล็กน้อยที่ปุ่ม Menu ซึ่งทั้ง Apple TV 4th กับ Apple TV 4K จะได้รีโมทหน้าตาใหม่นี้ไปใช้ทั้งคู่เช่นกัน
ประเทศไทยวางจำหน่ายเมื่อไหร่?
Apple TV 4K วางขายสองความจุ คือ 32GB กับ 64GB โดยราคาอยู่ที่
- 32GB : 8,500 บาท
- 64GB : 9,200 บาท
Apple TV 4th เหลือแค่ 32GB และลดราคาเหลือ 6,900 บาท
ทั้งหมดจะวางจำหน่ายในเร็วๆนี้