มือถือสามรุ่นหลังที่เปิดตัวในรอบสัปดาห์อยู่บ้านช่วยโลกนี้ มาจากจีนหมดเลยครับ ความเรียกรอยยิ้มสำหรับผมคือ เมื่อวานนี้ พี่ใหญ่สุดของจีน เปิดตัวรุ่นท็อปที่ดูจัดเต็ม วันนี้ถึงตา Xiaomi เปิดตัวเรือธงใหม่ของค่าย แน่นอนว่า มันต้องมาแบบ จัดสเปกมาเต็ม ในราคาเบากว่า ด้วย 3 รุ่นใหม่ในตระกูล Mi 10 มี Mi 10 Lite, Mi 10 และ Mi 10 Pro โดยทุกรุ่น รองรับ 5G รายละเอียดทั้งหมดมีดังนี้
ตัวเครื่องใช้งานออกแบบจอโค้งทั้งสี่มุม (แนวเดียวกับ Huawei P40 Pro) กล้องหน้าขนาดเล็กวางมุมซ้ายมือ เพื่อให้การใช้งานจอเมื่อถือแนวนอนในการดู content ไม่ว่าจะฝั่งไหน มือของเราจะบังกล้องให้เอง ดูได้เต็มตากว่าติ่งหน้าจอรูปแบบอื่น ๆ หน้าจอ AMOLED TureColor ใช้งานได้ลื่นไหลด้วย Refresh Rate ที่ 90Hz
แต่จุดขายที่เด็ดจริง คือลำโพงคู่ของเครื่อง เป็นสเตอริโอแยกซ้ายกับขวา ไม่แค่แยกเปล่า ถ้าเครื่องตรวจเจอว่า เราพลิกจอไปทางไหน การปรับซ้ายกับขวา จะให้ตรงกับการออกซ้าย ขวา และขนาดของตัวขับเสียง เป็นมือถือที่ให้ตัวขับทั้งคู่เท่ากัน จึงให้เสียงที่ดัง แน่น ได้สมจริงกว่า Smartphone อื่น ที่มักให้ด้านบนเครื่องเล็กกว่าด้านล่างเครื่อง
ในส่วนสเปกหลักของเครื่อง CPU Qualcomm Snapdragon 865 (Mi 10 Lite ใช้ 765G ระบายความร้อนด้วยของเหลว)/ RAM 8GB แบบ LPDDR5 ที่ถือว่าเร็วที่สุดในตลาด / ความจุ 256GB แบบ UFS 3.0 ใช้ระบบระบายความร้อยด้วยของเหลว รองรับ 5G กับ Wi-Fi 6
แบตเตอรี่ของ Mi 10 ให้ความจุ 4,780 mAh ส่วน Mi 10 Pro ให้ความจุ 4,500 mAh ส่วน Mi 10 Lite ให้ความจุ 4,160 mAh โดย Mi 10 Pro รองรับการชาร์จเร็วที่ 50W ส่วน Mi 10 รองรับ 30W แต่ในกล่องจะได้ที่ชาร์จ 65W ในส่วนการชาร์จไร้สาย สามารถชาร์จให้เต็ม 100% ได้ ในเวลา 65 นาที (เมื่อใช้ร่วมกับที่ชาร์จไร้สายที่จ่ายไฟ 30W) และรองรับ Reverse Wireless Charging
กล้องถ่ายรูปของ Mi 10 / Mi 10 Pro ความละเอียดสูงสุดที่ 108MP f1.69 กันสั่น OIS+EIS (Mi 10 Lite สูงสุด 48MP) จุดที่ต่างกันในเรื่องกล้องของ Mi 10 / Mi 10 Pro หลัก ๆ มีดังนี้
- Mi 10 ได้กล้อง Depth 2MP แต่ Mi 10 Pro ไม่มี
- Mi 10 ได้กล้อง Macro 2MP แต่ Mi 10 Pro ไม่มี
- Mi 10 Pro ได้กล้อง Telephoto 8MP แต่ Mi 10 ไม่มี
- Utrawide 13MP ใน Mi 10 / Ultrawide 20MP ใน Mi 10 Pro
- ทั้งคู่มี Hardware flicker Sensor โดย Mi 10 เป็น flash ดวงเดียว ส่วน Mi 10 Pro เป็น Flash แบบคู่ (ถ่ายภาพหน้าจอทีวี หรือคลื่นไฟฟ้า ให้ออกมาเป็นภาพ โดยไม่มีเส้นในภาพได้)
- กล้องถ่ายสวยขึ้นด้วย AI 2.0 โดยความสามารถดังนี้
- Wider Action แก้อาการภาพโค้งจากความกว้างของเลนส์
- ระบบถ่ายภาพกลางคืนที่พัฒนาจากรุ่นที่แล้ว (Night Mode 2.0)
- Auto HDR
- รูรับแสงที่แม่นยำขึ้น
- เกลี่ย Noise ในภาพให้เนียนขึ้น
- สี ความคม ความสว่าง ที่ดีขึ้น
Mi 10 / Mi 10 Pro รองรับการซูมแบบ Optical ที่ 2x / Hybrid 10x และสูงสุด 50x แบบ Digital มี Pro Mofe ปรับแต่งการถ่ายเฉพาะได้
เพื่อให้เห็นศักยภาพของ 108MP จึงมีการนำ Mi 10 Series ส่งขึ้นอวกาศ เพื่อถ่ายรูปโลก แล้ว Xiaomi นำมาแจกเป็น Wallpaper ให้ผู้ใช้งานมือถือ Xiaomi ได้ใช้กัน
กล้องวีดีโอของ Mi 10 / Mi 10 Pro ความละเอียดสูงสุดที่ 8K มี Potrait Video ที่ถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้ มี Colour Focus ที่ดูดสีฉากหลังในวีดีโอได้ มี ShootSteady กันสั่นในตัวเหมือนใช้ไม้กันสั่น และ Pro Mode สำหรับล็อคค่าในการถ่ายวีดีโอ
Mi 10 ได้ที่ 1 ของ DXO Mark ทั้งเรื่องภาพนิ่ง วีดีโอ การบันทึกเสียง ด้วยเบื้องหลังความทุ่มเทในการปรับแต่งกล้อง ที่ Xiaomi ชูเรื่องนี้มาเล่าเลยว่า ที่หนึ่งที่ได้มา เกิดจากความตั้งใจในการปรับแต่งกล้อง
Mi 10 มีสี Coral Green / Twilight Grey วางขายความจุ 256GB ราคา 799 Euro (28,800 บาท)
Mi 10 Pro มีสี Solstice Grey / Alpine White วางขายความจุ 256GB ราคา 999 Euro (36,000 บาท)
Mi 10 Lite มีสี Coral Green / Twilight Grey / Alpine White วางขายความจุ 64GB ราคา 349 Euro (12,600 บาท) ความจุ 128GB ราคา 399 Euro (14,400 บาท)
ท้ายสุดนี้ ขอเล่าถึงเรื่องดี ๆ จาก Xiaomi เล็กน้อย โดยช่วงเปิดงาน Xiaomi บริจาคหน้ากากให้ประเทศในยุโรป เพื่อสู้กับวิกฤต COVID-19 รวม 1 ล้านชิ้น และพร้อมเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน