Microsoft สานต่อความสำเร็จของแบรนด์ Surface กันอีกครั้งกับแท็บเล็ตกลุ่ม ARM รุ่นใหม่ล่าสุด “Surface Pro X” โดยถือเป็นรุ่นที่สองที่มีการอัปเกรดสเปคขึ้นมาเป็นปัจจุบัน
Surface Pro X มาพร้อมชิปประมวลผล “Microsoft SQ2” โดยเป็นชิป Qualcomm Snapdragon 8CX รุ่นปรับแต่งพิเศษเพื่อรองรับการประมวลผลคำสั่งอย่างหนัก รองรับการประมวลผลคำสั่งได้อย่างรวดเร็วถึง 9 Teraflops ต่อวินาที และสามารถประมวลผลกราฟิกสามมิติได้อย่างดีเยี่ยมด้วย Adreno 695 โดยถึอว่าแรงกว่า Surface Pro ที่ใช้ซีพียู Intel Core อยู่พอตัว ในขณะที่ใช้กำลังไฟน้อยกว่าแบบชัดเจน และรองรับการเชื่อมต่อกับเครือข่าย LTE Advanced เต็มรูปแบบ
ตัวหน้าจอมีขนาดใหญ่ 13 นิ้ว ความละเอียด 2880×1920 พิกเซล รองรับ Surface Slim Pen สามารถขีดเขียนบนหน้าจอและเอียงปากกาเพื่อแรเงาได้ และมาพร้อมกับ SSD ความจุสูงสุด 512 GB ซึ่งถ้าไม่เพียงพอ ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนเองได้อย่างรวดเร็วจากด้านหลังของตัวเครื่อง
จุดอ่อนเดียวของ Surface Pro X คือระบบปฏิบัติ Windows 10 on ARM หรือ Windows 10 เวอร์ชันใช้งานกับชิปสถาปัตยกรรม ARM64 ที่มีแอปฯ รองรับการใช้งานน้อยมาก ปัจจุบันมีเพียงแค่แอปพลิเคชันของ Microsoft เพียงไม่กี่ตัว เช่น Teams, Office, Edge, Skype, Visual Studio Code ที่สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ กับแอปฯ ที่เขียนบนสถาปัตยกรรม x86-32 หรือแอปฯ 32 บิตเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ ส่วนแอปฯ ที่เขียนบนสถาปัตยกรรม x86-64 หรือแอปฯ 64 บิตโดยทั่วไปยังไม่รองรับ โดย Microsoft สัญญาว่าจะพัฒนาให้รองรับแอปฯ x86-64 ได้มากขึ้นในอนาคต
Surface Pro X รุ่นใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายในไทย 13 ตุลาคมนี้ มีให้เลือกสามรุ่น คือ รุ่น Consumer (ขายกับลูกค้าทั่วไป) มีจำหน่ายเฉพาะรุ่นความจุ 256 GB ราคา 49,900 บาท รุ่น Enterprise (ขายกับลูกค้าภาคธุรกิจและองค์กร) แบ่งจำหน่ายสองความจุ ได้แก่ ความจุ 256 GB ราคา 53,900 บาท และความจุ 512 GB ราคา 65,900 บาท มีให้เลือกสองสีคือสีดำ และสี Platinum ใหม่ล่าสุด เริ่มเปิดให้จองสินค้าล่วงหน้าแล้ววันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่าย Microsoft ทั่วประเทศ
