Sony เปิดตัวซีรีส์โทรทัศน์ประจำปี 2021 โดยเริ่มจากรุ่นท็อปสุดของไลน์ภายใต้ซับแบรนด์ใหม่ “BRAVIA XR” ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่หมดจดภายใต้ชื่อ Cognitive Intelligence ซึ่งจะช่วยให้ทีวีมีความคิดและสามารถช่วยเหลือได้ดั่งเช่นมนุษย์
Cognitive Intelligence เป็นเทคโนโลยีที่ Sony พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยปรับปรุงภาพ และเสียง ให้คมชัดได้แบบเฟรมต่อเฟรม โดยอาศัยหลักการว่า เมื่อมนุษย์มองเห็นและได้ยินสิ่งใด ๆ ในสถานที่จริง การรับชมผ่านโทรทัศน์จะต้องได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะแตกต่างจาก Artificial Intelligence หรือ AI ที่เราคุ้นชิน เพราะ AI มีข้อจำกัดในงานด้านภาพและเสียงค่อนข้างสูง เพราะสามารถจดจำได้แต่ประเภทของภาพ เนื้อหา และรูปแบบเสียงในแบบองค์รวม แต่ Cognitive Intelligence ที่ถูกพัฒนาให้ใช้สำหรับงานเฉพาะทางโดยตรงจะสามารถทำได้ละเอียดกว่านั้น ถึงขั้นพิจารณารายละเอียดเนื้อหาเพื่อปรับปรุงคุณภาพได้อย่างตรงจุดแบบเรียลไทม์ ซึ่งถ้าเป็นการใช้ AI โดยปกติแล้ว จะไม่สามารถทำได้ดีเท่า
Cognitive Intelligence จะผนวกมาพร้อมกับชิปเซ็ตใหม่ “Cognitive Processor XR” ซึ่งจะช่วยในการอัปสเกลเนื้อหาให้เหมาะสมกับความละเอียด 4K/8K ปรับสภาพแสง สี ค่าคอนทราสต์ให้เข้ากับเนื้อหาได้อย่างสมจริง และยังช่วยในการจำลองสภาพเสียงได้แบบ 3 มิติ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อื่นเช่น Soundbar/Home Theater รวมถึงสามารถส่งเสียงหาผู้ใช้ได้อย่างตรงจุดและแม่นยำในทุกจุด
จากซ้ายไปขวา : X90J, X95J, Z9J, A90J, A80J
BRAVIA XR ชุดแรกจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่น อันได้แก่ รุ่น Full Array LED 4K X90J, X95J, OLED 4K A80J, Master Series OLED 4K A90J และ Master Series Full Array LED 8K Z9J ทั้งหมดจะมาพร้อมชิป Cognitive Processor XR พร้อมฟีเจอร์ด้านภาพ เสียง และ AI ทั้งหมดข้างต้น และทีวีทั้งไลน์ในปีนี้ (ไม่ใช่แค่ BRAVIA XR) ยังมาพร้อม HDMI 2.1 พร้อมรองรับการใช้งานร่วมกับ PlayStation 5 ได้ครบทุกฟีเจอร์ รวมถึงยังเปลี่ยนระบบปฏิบัติการภายในเป็น Google TV เวอร์ชันใหม่ ที่สามารถแนะนำรายการรับชมได้แบบเรียลไทม์ และใช้งานได้ง่ายกว่า Android TV แบบเดิม ด้วยการรองรับการสั่งการทีวีด้วยเสียง ซึ่ง X95J, A90J และ Z9J สามารถสั่งการด้วยเสียงได้แบบไม่ต้องใช้รีโมท เพียงพูดคำว่า “Hey Google” ใส่ทีวี ตัวทีวีก็พร้อมรับคำสั่งทันที
และเพื่อให้เห็นความสามารถของ BRAVIA XR ได้ชัดเจนมากขึ้น Sony ยังได้เปิดตัวบริการ BRAVIA CORE บริการสตรีมมิ่งภายใต้ความร่วมมือกับ Sony Pictures ให้ลูกค้า BRAVIA XR ใช้งานได้ฟรี ซึ่ง Sony การันตีว่า BRAVIA CORE เป็นบริการสตรีมมิ่งที่ให้ความละเอียดของภาพได้ละเอียดที่สุด บิตเรตของวิดีโอที่ส่งไปเป็น 80 Mbps ซึ่งถือว่าเป็นบิตเรตที่ดีที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีบริการสตรีมมิ่งมา
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเทคโนโลยี Pure Stream ที่ Sony เลือกนำมาใช้กับบริการ BRAVIA CORE เป็นครั้งแรก ทำให้การสตรีมเนื้อหาจากเซิร์ฟเวอร์ สามารถทำได้ดีเท่ากับการรับชมบนแผ่น Ultra HD Blu-ray แบบตรง ๆ และยังสามารถสตรีมเนื้อหาที่ได้รับการปรับปรุงคุณภาพตามมาตรฐานของโรงฯ IMAX ได้ครบทุกเรื่อง ซึ่งนอกจากเนื้อหาที่ส่งมาแบบเต็มความละเอียดแล้ว ในด้านเสียงก็ยังส่งมาแบบสเตอริโอ 5.1 สามารถใช้ Soundbar หรือชุด Home Theater ต่อเข้ากับ BRAVIA XR เพื่อดื่มด่ำไปกับภาพและเสียงแบบเต็มคุณภาพได้ทันที
BRAVIA XR จะประกาศราคาและเริ่มวางจำหน่ายในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป (ในไทย Sony Thai น่าจะนำเข้ามาช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป) ส่วนบริการ BRAVIA CORE จะเปิดให้บริการพร้อม ๆ กันในปี 2021 โดยเริ่มจากสหรัฐอเมริกาและประเทศในแถบยุโรปบางประเทศ ก่อนขยายบริการไปครบทั่วโลกในช่วงสิ้นปี 2021 นี้
