Line Man Wongnai ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Line Man และแพลตฟอร์มร้านอาหาร Wongnai ประกาศความสำเร็จครั้งแรกหลังจากการควบกิจการในเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 แสดงให้เห็นว่า Line Man Wongnai เป็นแพลตฟอร์มสัญชาติไทยที่มีความแข็งแกร่ง สามารถเชื่อมต่อ Ecosystem ระหว่าง LINE, Line Man, Wongnai เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว และการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ยังช่วยเสริมแกร่งให้บริษัทโตขึ้นถึง 5 เท่าในปีที่ผ่านมาอีกด้วย
ปีที่ผ่านมาของ Line Man Wongnai
ปีที่ผ่านมาของ Line Man Wongnai คุณยอด ชินสุภัคกุล CEO ของ Line Man Wongnai ยอมรับว่าเป็นปีที่ลำบาก แต่ก็เป็นปีที่ Line Man Wongnai เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะด้วยการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ทำให้ลูกค้าไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ การใช้งานฟู้ดเดลิเวอรี่จึงเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว ซึ่งวัดเฉพาะตัว Line Man เอง ในปี 2563 ในยอดสั่งซื้อมากกว่าในปี 2562 ขึ้นสูงถึง 5 เท่า
และด้วยความต้องการที่สูงมาก ทำให้ Line Man ตัดสินใจขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มเป็น 36 จังหวัดในปีที่ผ่านมา โดยมีร้านค้าและร้านอาหารทั้งเชนใหญ่ และร้านค้ารายย่อยเข้าร่วมจำนวนมาก ในจำนวนนี้ยังมีร้านค้าใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีสาขาในกรุงเทพฯ หรือไม่เคยอยู่บนแพลตฟอร์ม Line Man มาก่อนเพราะอยู่ในจังหวัดที่ Line Man ยังไม่เปิดให้บริการ ก็เข้ามาร่วมให้บริการบนแพลตฟอร์มอีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน และไม่ใช่แค่การขยายพื้นที่ให้บริการเท่านั้น Line Man ยังได้จัดตั้ง Line Man Kitchen เพื่อเสริมแกร่งและช่วยเหลือผู้ประกอบการในการนำร้านอาหารของตัวเองไปให้บริการกับลูกค้าได้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยมี PTTOR หรือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เป็นผู้สนับสนุนหลักของโครงการนี้ด้วยการสนับสนุนพื้นที่ของ PTT Station ในการตั้งครัว
ในปี 63 เอง ยังเป็นปีที่ Line Man เริ่มใช้ไรเดอร์ของ Line Man เองในการให้บริการ ซึ่งถือเป็นการสร้างอาชีพให้ประชาชนใน 36 จังหวัด โดยมีการสนับสนุนด้านคุณภาพชีวิต และการให้ประกันชีวิตแก่ไรเดอร์เหมือนเช่นแพลตฟอร์มอื่นอย่างครบถ้วนอีกด้วย
ในขณะที่ทางแอปฯ Wongnai ในปี 63 เป็นปีที่สร้างผลกระทบให้พอสมควร เพราะความที่ Wongnai เป็นแพลตฟอร์มร้านอาหาร และต้องอิงกับการให้บริการของร้านเป็นหลัก การแพร่ระบาดของ COVID-19 จึงทำให้ธุรกิจของ Wongnai ไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าสู่ช่วงล็อกดาวน์ Wongnai ก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วด้วยการให้ความช่วยเหลือในการนำร้านอาหารที่ไม่เคยเข้าแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ ให้เข้าสู่แพลตฟอร์มได้เต็มตัว รวมถึงช่วยแนะนำวิธีการปรับตัวของร้านอาหารเพื่อให้รอดพ้นจากวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ จนเมื่อเข้าสู่ช่วงคลายล็อก Wongnai ยังเข้าไปช่วยร้านค้าจัดทำโปรโมชัน เปิดขาย Voucher และร่วมจัดดีลให้ลูกค้าเลือกใช้งานอีกเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันแพลตฟอร์ม Wongnai POS ก็เติบโตขึ้นสูงถึง 3 เท่า ในปี 63 โดยเฉพาะช่วง COVID-19 ที่ร้านค้าหลายร้านปรับปรุงระบบร้านเพื่อรองรับการใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเช่นกัน
Line Man Wongnai ในปี 64
ในปี 2564 Line Man Wongnai ตั้งเป้าขยายธุรกิจเพื่อให้รองรับต่อเทรนด์ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ที่ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยแผนงานเบื้องต้น Line Man Wongnai จะขยายบริการ Line Man ให้ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยภายใต้สิ้นปี 63 โดยใช้จุดเด่นเรื่องค่าส่วนแบ่งของร้านอาหาร (GP/Non-GP) การเชื่อมต่อเข้ากับ Line และ Restaurant Solution ของ Wongnai เป็นตัวขับเคลื่อน และจะเริ่มรันแผนการตลาดภายใต้แผน “Line Man Food Hero” โดยมี “นายฮ้อย-ล่ามทรง” รีวิวไอคอนแห่งวงการอาหาร มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ชุดแรกของ Line Man Wongnai ภายใต้เอกลักษณ์ของทั้งนายฮ้อยและล่ามทรง ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง เป็นตัวแทนของคนธรรมดาที่เข้าถึงทุกความต้องการของลูกค้าทั่ว ๆ ไปได้อย่างลงตัว
และไม่ใช่แค่การใช้ นายฮ้อย-ล่ามทรง เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เท่านั้น Line Man Wongnai เตรียมแผนแคมเปญใหญ่ในชื่อว่า “Food Hero สู้ทุกมื้อ อร่อยทุกมื้อ” โดยร่วมมือกับร้านอาหารชั้นนำเพื่อจัดทำ “Exclusive Dish” ที่สามารถสั่งทานได้เฉพาะบน Line Man เท่านั้น เพื่อสื่อว่า Line Man เป็นคนจริงจังเรื่องอาหาร และเป็นการสื่อสารครั้งใหญ่ครั้งแรกภายหลังจากที่ Spin-off ออกมาเริ่มให้บริการแยกจาก LINE
นอกจาก Line Man แล้ว ในฝั่งของ Wongnai เองก็จะลงทุนธุรกิจและขยายแพลตฟอร์มเพิ่มเติม เพิ่มร้านค้าใหม่ ๆ เข้าในรายการจากเดิมที่มีมากกว่า 600,000 ร้าน รวมถึงลงทุนเพิ่มในธุรกิจ Wongnai POS เพื่อทำให้ Wongnai POS กลายเป็นแพลตฟอร์ม POS สำหรับร้านอาหารแบบครบวงจรอันดับ 1 ของไทย
ในส่วนภาพรวม Line Man Wongnai จะยังใช้ Ecosystem ร่วมกันภายใต้แนวคิด “Help Thai People Live Better” ด้วยการผสานความแข็งแกร่งของ LINE และ Line Man Wongnai เข้าด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย พัฒนาธุรกิจท้องถิ่นให้เติบโตมากขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้า คนทำงาน และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้โตขึ้นในโอกาสถัดไป