ของใหญ่ชิ้นที่สองที่ Apple เปิดตัวในงานนอกจาก iPad Pro แล้ว นั่นคือ iMac 24 นิ้ว รุ่นปรับโฉมใหม่หมดจด รอบนี้เป็นการปรับใหญ่ในรอบ 10 ปี จากดีไซน์เดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2011 เพื่อรับกับการ “เลิกใช้” ชิป Intel เจ้าปัญหานั่นเอง
เริ่มที่ดีไซน์ตัวเครื่อง Apple เล่าว่าดีไซน์ตัวเครื่องรอบนี้ ปรับใหญ่สองจุด ได้แก่การลดความบางของตัวเครื่องจากเดิมเหลือ 11.5 มิลลิเมตร ใช่ครับ ทั้งเครื่อง บาง 11.5 มิลลิเมตร หนักไม่ถึง 5 กิโลกรัม!! ถ้าถามว่า Apple ทำคอมพิวเตอร์ให้มีความบางและเบาเท่านี้ได้ยังไง คำตอบคือจุดที่สอง นั่นคือชุด Logic Board ที่ออกแบบใหม่หมด เพราะเปลี่ยนชิปเซ็ตมาเป็น M1 ตามการเปลี่ยนผ่านจาก Intel สู่ Apple Silicon ซึ่งตัวชิป M1 เองมีขนาดเล็กและบางมาก เมื่อตัวชิปมีขนาดเล็ก สามารถออกแบบตัวบอร์ดให้เล็กตามไปจนใส่ไว้ในส่วนล่างของหน้าจอได้แบบพอดิบพอดี และเมื่อชุด Logic Board มีขนาดเล็ก บาง และไม่ร้อน สิ่งที่ตามมาด้วยนั่นคือการถอดชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นอย่างพัดลมระบายความร้อนและฮีตซิงค์ออกไป จึงทำให้ดีไซน์ตัวเครื่องออกมาบางมาก เพราะพื้นที่ทั้งหมด นั่นคือชิ้นส่วนจอแสดงผลล้วน ๆ อย่างเดียว
ด้านสี รอบนี้แจกความสดใสด้วยตัวเลือกสีที่มากถึง 7 สี คือ ฟ้า เขียว น้ำเงิน ส้ม ม่วง ชมพู และสีเงิน จากเดิมที่ Apple ทำ iMac แค่สีเงินสีเดียวในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา และมีตัวเลือกสีดำสำหรับ iMac Pro ที่เพิ่งยุติการจำหน่ายไปหมาด ๆ การทำตัวเลือกหลายสีก็เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และทำให้ iMac เป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดี
และเช่นกัน อุปกรณ์เสริมทั้งหมด ทั้ง Magic Keyboard, Magic Mouse และ Magic Trackpad ก็มาพร้อมกับตัวเลือกสีถึง 7 สี และสายเสียบตัวเครื่องก็เช่นกัน ถูกออกแบบใหม่ให้เป็นพอร์ตแบบแม่เหล็ก ตัวสายรองรับการส่งทั้งไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตผ่านพอร์ต Ethernet ความเร็วสูงสุด 10 Gbps ที่ตัว Adaptor นอกจากนี้ตัวสายยังเป็นเป็นสายถักทั้งหมด และมีสีที่สอดคล้องกับตัวเครื่องอีกด้วย
ไหน ๆ ก็พูดถึง Magic Keyboard แล้ว รอบนี้ Magic Keyboard ที่เป็นออปชั่นเสริมยังมีของใหม่เป็น Touch ID แบบไร้สายโดยตัวคีย์บอร์ดจะมีชิป Secure Enclave สำหรับทำหน้าที่เก็บลายนิ้วมือ และส่งข้อมูลการยืนยันตนกลับ iMac ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Touch ID ในการปลดล็อกเครื่อง และทำรายการซื้อขายผ่าน Apple Pay ได้อย่างอิสระ แน่นอน Touch ID บน Magic Keyboard ยังรองรับการยืนยันตนได้หลายบุคคล และสามารถเปลี่ยน Space การทำงานเป็นของบุคคลนั้น ๆ ได้อย่างอิสระ เช่นเดียวกับบน MacBook Pro อีกด้วย
กลับมาที่ตัวเครื่องกันอีกครั้ง รอบนี้ iMac ใหม่ให้พอร์ตมา 4 พอร์ต คือพอร์ต USB-C 2 พอร์ต และ Thunderbolt 4 2 พอร์ต ใครที่ต้องการใช้งานพอร์ต USB-A หรือ SD Card รอบนี้ต้องหาอุปกรณ์เสริมมาต่อเพิ่มกันเอง ด้านหน้าตัวเครื่องยังมีของใหม่สองอย่าง คือกล้อง FaceTime Full HD Camera ความละเอียด 1080p และหน้าจอ 4.5K Retina Display ใหญ่ 4.5 นิ้ว ตัวเครื่องให้ไมโครโฟนมาเยอะถึง 6 ตัว รวมถึงมีลำโพง 6 ดอก ที่สามารถสร้างเสียงได้แบบรอบทิศทาง 360 องศา ตามมาตรฐานของ Dolby Atmos เรียกได้ว่าเครื่องนี้ ครบ และจบทุกความต้องการอย่างแท้จริง
iMac ใหม่จะเปิดให้จองล่วงหน้า 30 เมษายนนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม โดยมีตัวเลือกเครื่องดังต่อไปนี้
- CPU 8/GPU 7/256 GB/USB-C + Thunderbolt 4 x2/Magic Keyboard – 42,900 บาท
- CPU 8/GPU 8/256 GB/USB-C + Thunderbolt 4 x4/Magic Keyboard with Touch ID – 49,900 บาท
- CPU 8/GPU 8/512 GB/USB-C + Thunderbolt 4 x4/Magic Keyboard with Touch ID – 56,900 บาท
ทั้งสามรุ่นสามารถเลือกซื้อได้ทั้งรุ่นแบบมีขาตั้ง และรุ่นสำหรับขายึด Vesa Wall Mount ตามความต้องการของแต่ละบุคคลได้