Great Wall Motor หรือ GWM เปิดตัว All New HAVAL H6 Hybrid SUV ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการภายใต้แนวคิด “It’s time to change” พร้อมมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเข้าถึงรถยนต์และบริการหลังการขายอย่างลงตัว
HAVAL H6 นับเป็นรถ SUV ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศจีน ด้วยยอดขายมากกว่า 3,500,000 คันทั่วโลก ที่มาพร้อมดีไซน์ภายนอกอันโดดเด่น กระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ แบบ Classic Geometric Pattern แบบ 3 มิติ และไฟหน้า Intelligent LED เพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน พร้อมไฟท้าย LED Taillight Strip พาดยาวจากซ้ายจรดขวาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาดใหญ่กว่า 19 นิ้ว
ดีไซน์ภายใน มีการตกแต่งสไตล์ Minimalist ใช้สีแบบ Two-tone และมีหน้าจอที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ถึง 3 หน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจออัจฉริยะแบบ Touch screen ขนาด 12 นิ้ว หน้าจอ Multi information display ขนาด 10 นิ้ว และ Head Up Display ขนาด 9 นิ้ว ที่กระจกด้านหน้า และมาพร้อมชุดเกียร์ไฟฟ้าดีไซน์ล้ำสมัย มีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ห้องโดยสารยังออกแบบให้มีความกว้างขวางสะดวกสบาย และยังสามารถเพิ่มความโปร่งโล่งในห้องโดยสารด้วยการเปิดพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ และไร้กังวลด้วยระบบกรองอากาศ CN95 พร้อม Ionizer ซึ่งสามารถลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ให้ลดลงเหลือประมาณ 27 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้ห้องโดยสารสดชื่นอยู่ตลอดเวลา
HAVAL H6 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ/ลิตร พร้อมระบบ Turbo แปรผัน (VGT) ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร ระบบเกียร์ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดและกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร อ้างอิงจากระบบป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (ECO Sticker) นอกจากนี้ยังถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม GWM LEMON รองรับการออกแบบรถและเครื่องยนต์หลากหลายรูปแบบ ที่มาพร้อมความทนทานและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และโดดเด่นเหนือกว่ารถยนต์รุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน
พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเข้าถึงรถยนต์และบริการหลังการขาย
ด้วย GWM ถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหม่ในประเทศไทย การทำตลาดจึงต้องมีการนำเอาการตลาดในรูปแบบ O2O หรือ Online-to-Offline มาปรับใช้ในการขายรถยนต์ โดย HAVAL H6 จะถือเป็นกรณีแรกที่เป็นการขายรถยนต์แบบออนไลน์เต็มรูปแบบ ผ่านแอปพลิเคชัน GWM Application และเว็บไซต์ GWM ควบคู่กับตัวแทนจำหน่าย และร้าน GWM Store ที่จะกระจายตัวไปทั่วประเทศ
ปัจจุบัน GWM เปิดให้บริการ GWM Direct Store แล้ว 3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล บางนา / ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต / สีลมคอมเพล็กซ์ และเตรียมที่จะเปิด GWM Direct Store อีก 5 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์เกต / เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า / เซ็นทรัล พระราม 2 / สยามสแควร์วัน / ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ และ GWM Partner Store 3 แห่ง ได้แก่ จรัญสนิทวงศ์ พระราม 5 และอุดมสุขภายในเดือนกรกฎาคม และยังตั้งเป้าเปิด GMW Experience Center แห่งแรกนอกประเทศจีนที่ ไอคอนสยาม ภายในไตรมาสที่ 3 และ GWM Flagship Store & Service Center 1 แห่งใจกลางเมือง ภายในไตรมาสที่ 4 ทั้งนี้ GWM ตั้งเป้าเปิด GWM Direct Store และ GWM Partner Store ให้ได้ 30 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้ และ 50 แห่งทั่วประเทศภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 65
นอกจากนี้ GWM ยังได้เนรมิตรูปแบบใหม่ของบริการหลังการขาย ด้วยการเชื่อมต่อข้อมูลผู้ใช้กับศูนย์บริการเข้าด้วยกันผ่าน GWM Application ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลสุขภาพรถยนต์ได้โดยตรงจากสมาร์ทโฟน และเมื่อถึงเวลาเช็คระยะตามกำหนด ระบบจะจัดจองศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุดไว้ให้ และแจ้งเตือนให้ผู้ใช้รับทราบทันทีว่ารถยนต์ถึงกำหนดเข้ารับบริการแล้ว หรือหากต้องการซ่อมบำรุง ก็สามารถจัดการคิวซ่อมบำรุง อนุมัติการซ่อม รับทราบค่าใช้จ่าย และชำระค่าบริการได้โดยตรงผ่านระบบออนไลน์ทันที โดยในส่วนของศูนย์บริการในปีนี้ จะมีให้บริการที่ GWM Partner Store ทุกแห่ง รวมแล้ว 256 ช่องซ่อมบำรุง 11 อู่ทำสี พร้อมคลังอะไหล่ที่พร้อมจัดส่งถึงรถยนต์คุณภายใน 24 ชั่วโมง และผ่านบริการ Express Delivery ภายใน 3 ชั่วโมงหลังได้รับแจ้ง
GWM Application ประตูสู่โลกของ GWM
นอกจากรถยนต์ ศูนย์บริการ และ GWM Store แล้ว GWM ยังได้เปิดตัว GWM Application ที่จะเป็นประตูสู่โลกของ GWM Ecosystem อย่างสมบูรณ์ โดยมีฟังก์ชันหลัก ๆ ดังนี้
- Community เชื่อมต่อกับผู้ใช้รถ GWM รายอื่น ๆ ได้โดยตรงผ่านโซเชียลมีเดียในตัว
- E-Commerce บริการด้านการเงินที่ให้ผู้ใช้จัดการเรื่องธุรกรรมการจัดซื้อรถยนต์ได้อย่างครบวงจร ทั้งการจองรถยนต์เพื่อทดลองขับ จองซื้อรถยนต์ ประเมินค่าใช้จ่าย จัดการยื่นไฟแนนซ์ ชำระเงิน และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินได้อย่างสบาย รวมถึงสามารถนัดรับรถยนต์ได้ทันทีที่หน้าบ้าน ทั้งหมดนี้ ทำได้ง่าย ๆ ผ่านระบบออนไลน์ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาที่ GWM Store เลย
- Car-Remote จัดการรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย ทั้งการล็อก ปลดล็อก ควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถยนต์ อัปเกรดเฟิร์มแวร์ เปิด-ปิดแอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย เพียงปลายนิ้วจากสมาร์ทโฟน
- Brand Store สำหรับสะสมคะแนนแลกรับของรางวัล สำหรับผู้ที่ซื้อสินค้า ของฝาก อะไหล่ หรือค่าจองรถยนต์
ราคาจับต้องได้ง่าย ไม่แพงจนเกินไป
HAVAL H6 เปิดราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในรูปแบบ “ONE PRICE” ราคาเดียวกันทุกช่องทางจำหน่าย ดังต่อไปนี้
- HAVAL H6 Pro – 1,149,000 บาท
- HAVAL H6 Ultra – 1,249,000 บาท
ทั้งนี้ GWM ยังมอบ Premier Deal จัดแคมเปญสุดพิเศษให้ลูกค้ามากมาย อาทิ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% สูงสุด 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปีเต็ม ฟรีแพ็กเกจบำรุงรักษา GWM PRO Service Inclusive (GPSI) 5 ปี หรือ 100,000 กิโลแมตร คะแนนสะสม GWM Point 15,000 คะแนน ฟรีบริการส่งมอบรถทั่วประเทศพร้อมน้ำมันเต็มถัง และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท
นอกจากนี้ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ทั้ง 2 รุ่น ยังมาพร้อมการรับประกันและรูปแบบของแพคเกจเซอร์วิสต่างๆ ที่จะทำให้ลูกค้าหมดกังวลกับการใช้รถและการดูแลรักษาในระยะยาว ด้วยการรับประกันคุณภาพตัวรถ (Factory Warranty & Roadside Assistance) ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอรี่แบบไม่จำกัดระยะทางนานถึง 8 ปีเต็ม
ผู้ที่สนใจ HAVAL H6 สามารถจองขับและจองซื้อรถยนต์ได้แล้ววันนี้ที่ www.gwm.co.th หรือที่ GWM Application ดาวน์โหลดได้ทั้ง AppStore และ Google Play