ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวสั้น

“มือถือเก่าของท่านกรุณาทิ้งให้ถูกที่” กลุ่มเทสโก้ และ ดีแทค จับมือเปิดจุดรับทิ้งซากโทรศัพท์มือถือ เพื่อนำไปรีไซเคิล

นับตั้งแต่ประเทศไทยมีการประมูลคลื่นความถี่โดย กสทช. เมื่อ พ.ศ. 2555 ลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในไทย ทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือในแบบปีละเครื่องอย่างไม่ต้องสงสัย การเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้นย่อมสร้างผลทั้งในแง่บวกและแง่ลบตามมา แง่บวกเราได้เห็นการเติบโตของตลาดอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่โตขึ้นแบบก้าวกระโดดทุกวันๆ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ได้เห็น “ขยะอิเลคทรอนิกส์” มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นแบบปีต่อปี เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนั้น สองเอกชนรายใหญ่อันได้แก่ เทสโก้ โลตัส และ ดีแทค จึงได้จับมือร่วมกันออกแคมเปญรณรงค์ให้ผู้ใช้นำโทรศัพท์เครื่องเก่ามาทิ้งให้ถูกที่ เพื่อนำไปรีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ต่อไป

 

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะบ้านเรามีขยะอันตรายเยอะมาก

ข้อมูลจาก สำนักจัดการการของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ ระบุว่าในประเทศมีขยะอันตรายกว่า 600,000 ตันต่อปี โดยที่สามารถกำจัดขยะได้จริงเพียง 3-4% เท่านั้น ในขณะที่อีก 90% ที่เหลือไม่สามารถขจัดได้ทัน และเมื่อเจาะกลุ่มลงมาที่กรุงเทพมหานคร ข้อมูลจากกองจัดการขยะของเสียอันตรายและสิ่งปฏิกูล กรุงเทพมหานคร ระบุว่าในกรุงเทพมหานครมีอัตราการผลิตขยะสูงที่ 10,000 ตันต่อวัน และเป็นขยะอันตราย 3% ในขณะที่กรุงเทพมหานครจัดเก็บขยะอันตรายได้เพียง 2-3% ของจำนวนขยะอันตรายทั้งหมด สิ่งที่เกิิดขึ้นตามมาคือผลเสียที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพ เพราะขยะอันตรายถือเป็นขยะที่มีพิษ และสร้างผลเสียให้กับระบบนิเวศเป็นวงกว้าง

ขยะอันตรายส่วนใหญ่เป็นขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปต่อได้ เช่นถ่านไฟฉาย หรือหลอดฟลูออเรสเซนส์ แต่ที่มีสูงเป็นปรากฎการณ์ในช่วง 2-3 ปีนี้ คือขยะอิเลคทรอนิกส์ เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งซากโทรศัพท์มือถือก็็ถือเป็นหนึ่งในขยะอิเลคทรอนิกส์ที่มีอัตราผลิตสูง จากพฤติกรรมการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถืออย่างบ่อยและการเกิดขึ้นของอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ในปัจจุบัน

ขยะอิเลคทรอนิกส์ที่เป็นซากโทรศัพท์มือถือทั้งหมดนี้ถ้าไม่ได้รับการกำจัดอย่างถูกวิธี ก็ย่อมเกิดผลเสียตามมาอย่างที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ อย่างเช่นแบตเตอรี่ที่มีส่วนผสมของสารปรอท หรือชิ้นส่วนโลหะหนักที่อยู่ในตัวอุปกรณ์ ทั้งหมดล้วนก่อให้เกิดพิษและผลเสียต่อธรรมชาติ

 

แม้คืนกำไร แต่ก็ยังไม่ดีพอ

ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมต้องร่วมด้วยช่วยกันหาทางออกเพื่อช่วยลดปริมาณขยะอิเลคทรอนิกส์ที่เกิดขึ้น ข้อมูลจากดีแทคระบุว่า ปัจจุบันดีแทคมีการออกแคมเปญมือถือเครื่องเก่าแลกเครื่องใหม่ เพื่อเป็นการคืนส่วนลดหรือคืนกำไรให้กับลูกค้า พร้อมทั้งเปิดจุดรับฝากโทรศัพท์มือถือภายใต้โครงการ “Think Smart” เพื่อนำขยะทั้งหมดไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธีที่ดีแทคฮอลล์และดีอินฟินิททั้ง 49 สาขาทั่วประเทศ แต่การดำเนินการข้างต้นยังเก็บรวบรวมได้เพียง 380,000 เครื่องในปี 2559 ด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือลูกค้าไม่ส่งต่อให้ญาตินำไปใช้งานต่อ ก็เก็บเอาไว้เล่น ๆ เพราะเสียดายข้อมูลที่ไม่สามารถนำออกมาได้ หรือไม่ก็ไม่ทราบวิธีในการกำจัดขยะอย่างถูกวิธี หรือเอาไปแอบทิ้งไว้ตามถังขยะต่าง ๆ เป็นต้น

 

เทสโก้ โลตัส คือคำตอบใหม่ของดีแทค

ด้วยเป้าหมายและความรับผิดชอบในส่วนได้ส่วนเสียที่ทำให้เกิดปริมาณขยะอิเลคทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ดีแทคมองหาพันธมิตรใหม่ที่จะช่วยรับฝากโทรศัพท์มือถือ และเทสโก้ โลตัส ก็เป็นผู้ประกอบการที่สนับสนุนโครงการนี้ของดีแทคอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เทสโก้ โลตัสให้เหตุผลว่าเทสโก้ โลตัส กับ ดีแทค ได้มีความร่วมมือในการดำเนินการเรื่องการกำจัดขยะอิเลคทรอนิกส์กันอยู่แล้ว แต่ขาดการสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐฯ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐฯ กับเอกชน เพื่อเป็นการสนองต่อวาระแห่งชาติที่ต้องการลดขยะ และกำจัดขยะที่เกิดขึ้นอย่างถูกวิธี

ทั้งนี้ เทสโก้ โลตัส จะเปิดจุดรับฝากโทรศัพท์มือถือที่เทสโก้ โลตัส 6 สาขาได้แก่ บางแค, พระราม 4, บางนา, ลาดพร้าว, บางกะปิ, และ สุขาภิบาล 1 ก่อนเปิดเพิ่มใน เทสโก้ โลตัส ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมด ดีแทคจะเก็บรวบรวมแล้วนำไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธีผ่านเทส-แอมต่อไป ซึ่งดีแทคกล่าวว่าโทรศัพท์ที่นำไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธีนั้น จะได้ผลผลิตออกมาหลายชิ้นส่วนไม่ว่าจะเป็นแก้ว เหล็ก ทองแดง และทองคำบริสุทธิ์ ซึ่งการรีไซเคิลโทรศัพท์ 20,000 เครื่อง จะได้ทองคำบริสุทธิ์สูงถึงหนึ่งกิโลกรัมเลยทีเดียว โดยที่ผลผลิตทั้งหมด ดีแทคจะจำหน่ายออกไปเพื่อนำเงินทุนกลับมาหมุนเวียนในการรีไซเคิลครั้งต่อไป และส่วนหนึ่งจะนำไปทำบุญผ่านมูลนิธี หรือผ่านโครงการทำดีทุกวันจากดีแทคต่อไป

 

สรุป “เรื่องนี้ไม่ใช่เล่น ๆ มันคือความรับผิดชอบของทุกคน”

การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี อัตราการเติบโตและตลาดสมาร์ทโฟน ย่อมทำให้เกิดผลทั้งในแง่บวกและลบ สิ่งที่สำคัญคือลูกค้าจะสามารถกำจัดขยะที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้อย่างถูกวิธีหรือไม่ ซึ่งการที่ดีแทคและเทสโก้ โลตัส เริ่มโครงการแนวนี้ ย่อมสื่อให้เห็นถึงทางสว่างว่าในอนาคตเราน่าจะได้เห็นปริมาณขยะอิเลคทรอนิกส์ในจำนวนที่ลดลงไม่มากก็น้อย

แต่สิ่งสำคัญเหล่านี้คือลูกค้าจะปรับตัวอย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ข้างต้น แต่ก็เชื่อว่าลูกค้าน่าจะได้ตระหนักถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น และน่าจะปรับตัวได้เป็นอย่างดีต่อไป

คณะแกดกวน #teamgadguan

อริญชย์ ชวะโนทัย (iBehemortHz)

เด็ก ป.โท ผู้สนใจในโลกดิจิทัลและสังคม และคอยเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงผ่านสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า "หน้าจอ" :)