เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ NEW MG ZS EV นับว่าเป็นรถ EV ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนี้ เป็นการเปิดโลกรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับลูกค้าคนไทย ณ วันนี้รุ่นปรับโฉมได้มาถึงประเทศไทยแล้ว มีรายละเอียดเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง รวมถึงโครงการในอนาคตที่เตรียมขยายสถานีชาร์จไฟให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นทั่วประเทศ รายละเอียดเป็นอย่างไรไปอ่านต่อด้านล่างได้เลยครับ
MG ZS EV เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ชูจุดเด่นเรื่องการใช้งานง่าย การดูแลรักษาง่าย การชาร์จไฟง่าย และการเป็นเข้าของก็ง่าย โดยที่ในรุ่นใหม่นี้ได้ถูกพัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหน้าตาใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบทั้งการใช้งานและสมาารถนะอย่างเข้มข้นผ่านโครงการ “EV Marathon” ที่นำไปวิ่งทดสอบทั่วประเทศกว่า 4,880 กิโลเมตร เพื่อแสดงให้เห็นว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถใช้งานได้อย่างเพียงพอในชีวิตประจำวัน และสามารถวิ่งทางไกลได้ ด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
รายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนเปลี่ยนโฉม นอกจากที่มีรายละเอียดเหมือนกับ MG ZS รุ่นปกติแล้ว กระจังด้านหน้าได้เปลี่ยนไปเป็นแผงแบบทึบ พร้อมเปลี่ยนตำหน่งของช่องสำหรับจ่ายไฟฟ้าเข้าในรถยนต์ พร้อมไฟแสดงสถานะการชาร์จที่ชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถจ่ายไฟจากแบตเตอร์รีในรถยนต์สู่อุปกรณ์ภายนอกได้ เช่น กาต้มน้ำ ไดร์เป่าผม หรือชาร์จไฟสกูตเตอร์ไฟฟ้าได้อีกด้วย และการชาร์จกลับเข้าไป สามารถชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรือชาร์จแบบธรรมดาผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที
ระบบขับเคลื่อนได้รับการปรับปรุงใหม่ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร แบตเตอร์รีมีความจุ 50.3 kWh ทำระยะทางได้สูงสุด 403 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC พร้อมระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอร์รี หมดปัญหา”ไฟเต่า”ขึ้นตลอดการใช้งาน
ภายในได้ปรับปรุงวัสดุให้มีคุณภาพมากขึ้นด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะหนังเดินตะเข็บสีแดง มาตรวัดแบบจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอ Infotainment ขนาด 10 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมทั้งยังมีแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน i-Smart ที่สามารถเช็คสถานะต่างๆ ของรถยนต์ สามารถเรียกบริการช่วยเหลือต่างๆ ค้นหาสถานีชาร์จ และสามารถปลดล็อครถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟนได้แล้ว และยังมีหลังคากระจก Panoramic Glassroof เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งสบายในห้องโดยสารเพิ่มเติมไดีอีก
ระบบความปลอดภัยยังเพิ่มเติมขึ้นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System)
ถือเป็นระบบใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาเป็นครั้งแรก โดยผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) และ LKA (Lane Keep Assist) เข้าไว้ด้วยกัน - ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
NEW MG ZS EV มีให้เลือก 2 รุ่นได้แก่ รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ได้แก่
สีน้ำเงิน (Como Blue)
สีเงิน (Cosmic Silver)
สีแดง (Scarlet Red)
สีดำ (Black Knight)
และสีขาว (Arctic White)
นอกจากที่ MG จะแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับตลาดประเทศไทยแล้ว ยังทำการขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และยังเตรียมงานพัฒนาสำหรับจัดการแบตเตอรี่แรงดันสูง ด้วยการจัดตั้งโรงงานผลิตและโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรในด้านต่างๆ ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเติบโตได้มากยิ่งขึ้น
เตรียมสัมผัสและเป็นเจ้าของได้ที่โชว์รูม MG ทั่วประเทศ และประกาศราคาในงาน Bangkok International Motorshow วันที่ 22 มีนาคมนี้ครับ