กลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้งกับมือถือค่าย ZTE ที่กลับมาคราวนี้จัดเต็มกับโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 รุ่น ครอบคลุมทุก Segment ตั้งแต่สมาร์ทโฟนราคาประหยัดไปจนถึงสมาร์ทโฟนสำหรับเกมมิ่ง พร้อมจัดจำหน่ายทุกช่องทางทั่วประเทศแล้วเร็วๆ นี้
การกลับมาทำตลาดอีกครั้งนี้ ZTE ได้เห็นจุดเด่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเติบโตขึ้นของโทรศัพท์มือถือใน Entry Level Segment, ความพร้อมของผู้จัดจำหน่าย ความครอบคลุมของบริการ 5G ในประเทศไทย รวมทั้งมีการเติบโตของตลาด E-Commerce ในไทยที่เติบโตรวดเร็วมากขึ้น ZTE จึงได้นำสมาร์ทโฟนในเครือจัดจำหน่ายถึง 5 รุ่น ผ่านพาทร์ทเนอร์ทั้ง 2 เจ้า ได้แก่ บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ที่จัดการเรื่องการวางจำหน่ายผ่านหน้าร้านและดีลเลอร์ในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันตก กรุงเทพฯ และปริมณฑล และบริษัท วายเอเซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ YAS ในกลุ่มเบญจจินดา ได้รับผิดชอบการจัดจำหน่ายและการจัดส่งสมาร์ทโฟนในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
สินค้าที่จะนำมาจัดจำหน่ายเป็นสมาร์ทโฟนจำนวน 5 รุ่น ได้แก่
1. ZTE Blade A31 Plus จอใหญ่ขนาด 6 นิ้ว กล้องหลัก 8MP AI พร้อม LED แฟลชกล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ 3000mAh รองรับการชาร์จ 10W รองรับ Google Assistant 2 ซิม (Nano SIM) 4GLT หน่วยความจำภายใน RAM 2GB ROM 32 GB ราคา 2,599 บาท
2. ZTE Blade A51 จอใหญ่ขนาด 6.5 นิ้ว HD+ กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 13MP + 2MP พร้อม LED แฟลช กล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ 3200mAh รองรับการชาร์จ 10W รองรับ Google Assistant 2 ซิม (Nano SIM) 4GLT หน่วยความจําภายใน Ram 3GB ROM 64 GB ราคา 3,699 บาท
3. ZTE Blade V30vita จอใหญ่ขนาด 6.75 นิ้ว 90Hz ความละเอียด HD+ จอหยดน้ำ กล้องหลัง 2 ตัว ความ ละเอียด 48MP + 2MP AI พร้อม LED แฟลชกล้องหน้า 8MP แบตเตอรี่ 6000 mAh รองรับการชาร์จ 22.5W ชาร์จไว รองรับ Google Assistant 2 ซิม (Nano SIM) 4GLT รุ่นหน่วยความจำภายใน ROM 4GB RAM 64 GB ราคา 4,999 บาท และรุ่นหน่วยความจำภายใน ROM 4GB RAM 128 GB ราคา 5,299 บาท
4. Axon 30 5G จอใหญ่ขนาด 6.92 FHD+ AMOLED มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon 870 ระบบปฏิบัติการ ZTE MyOS11 บน Android 11 กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 64MP + 8 MP + 5MP + 2MP พร้อมแฟลชกล้องหน้า 16MP แบตเตอรี่ 4200 mAh รองรับการชาร์จไว 55W 2 ซิม (Nano SIM) 5G ซึ่งคาดว่าจะนำมาจำหน่ายทั้งรุ่นหน่วยความจำภายใน ROM 8GB RAM 128 GB และรุ่นหน่วยความจำ ภายใน ROM 12GB RAM 256 GB ราคาประมาณ 12,990 บาท และ 17,990 บาท ตามลำดับ
5. Redmagic 7 จอใหญ่ขนาด 6.8 นิ้ว มีความเร็วในการเปลี่ยนภาพของหน้าจอถึง 165Hz พร้อมความเร็วในการตอบสนองต่อการกดของหน้าจอที่ 720 Hz ชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon 8 Gen 1 และมีระบบ ระบายความร้อนตัวเครื่อง แบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 65W 2 ซิม (Nano SIM) ที่ เหมาะกับสายเกมเมอร์ มี 3 รุ่น คือ รุ่น SUPERNOVA หน่วยความจำภายใน ROM 18GB RAM 256GB รุ่น PULSAR หน่วยความจำภายใน ROM 16GB RAM 256GB และรุ่น OBSIDIAN หน่วยความจำภายใน ROM 12GB RAM 128GB มาจำหน่าย ราคาประมาณ 31,990 บาท 28,990 บาท และ 24,990 บาท ตามลำดับ
นับว่าเป็นการกลับมาทำตลาดอย่างจริงจังของ ZTE ในประเทศไทย และทั้งหมดนี้พร้อมวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ และเตรียมพบกับสามาร์ทโฟนอีกหลายหลายรุ่นเพิ่มเติมในปี 2022 นี้ครับ