นับจากวันประวัติศาสตร์ช็อคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมากว่าหนึ่งปี ในที่สุดวันที่ทั้งสองฝ่ายรอคอยมาถึง เพราะนับจากนี้ทั้ง TRUE และ dtac จะกลับมาเดินหน้าในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยอย่างเต็มภาคภูมิภายใต้ชื่อใหม่ “บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” และหุ้น TRUE จะกลับเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (3 มีนาคม 2566) เป็นต้นไป
วันนี้ (2 มีนาคม 2566) กลุ่มทรูเลยเหมาพื้นที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ถือโอกาสออกมาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ หลังจากซุ่มผ่าตัด ศัลยกรรม และแอบไปแต่งตัวใหม่ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา วันนี้เขากลับมาภายใต้สโลแกนหลักที่เราเอง ต่างก็ได้เห็นกันมาสักพักแล้ว นั่นคือ “Better Together ชีวิตที่ดีกว่าเมื่อมีกันและกัน” พร้อมประกาศนโยบาย (ที่ทำได้จริงแบบไม่เกินเลย) 7 ด้านให้ได้รับทราบกันด้วย นับเป็นการตอกเสาเข็มต้นแรกกลางอุตสาหรรมว่า หลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็น TRUE หรือ dtac เราก็ต่างคือ “คน ๆ เดียวกัน”
วันแห่งประวัติศาสตร์นี้ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เรามีเรื่องมาเล่าดังว่า . . .
ทวนความจำกันก่อน “ใครซื้อใครกันแน่?”

เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หลาย ๆ คนคิดไม่ตกกันตั้งแต่ประกาศควบรวมกิจการว่าเอ๊ะ ตกลงแล้วยังไง ใครซื้อใคร โดยเฉพาะวลี “พันธมิตรที่เท่าเทียมกัน” หรือ “Equal Partnership” เนี่ย มันช่างคลุมเครือเหลือเกิน ตกลงนี่ยังไงกันแน่น้า
ข้อมูลที่กลุ่มทรูส่งสารสนเทศแจ้งตลาดหลักทรัพย์ผ่านเอกสารกว่า 130 หน้าเมื่อวานนี้ สรุปชัดเจนว่า บริษัทนี้ (ทรูใหม่) เทเลนอร์ และกลุ่ม CP จะถือหุ้นร่วมกันในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 57.98 แบ่งเป็น Telenor Asia ถือหุ้น 19.64% กลุ่ม CP ประกอบด้วย บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และ/หรือบริษัทย่อย หรือบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ถือหุ้นรวมกัน 19.64% ซิทริน โกลบอล (บริษัทที่เทเลนอร์ กับ เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง ถือหุ้นเท่ากันที่ร้อยละ 50) และบริษัทย่อย ถือหุ้นรวมกัน 18.7% ซึ่งในจำนวนนี้ยังรวมหุ้นที่กลุ่มซิทรินขอเข้าซื้อจากผู้ที่คัดค้านการรวมกิจการด้วย ที่เหลืออีก 42.02% จะเป็นกลุ่มทุนอื่น ๆ รวมถึงกลุ่ม Free Float ซึ่งประกอบด้วย China Mobile, NT และผู้ถือหุ้นรายย่อยถือหุ้นร่วมกัน ฉะนั้นก็ชัดเจนว่า ทรูใหม่นี้ เป็น “การควบรวมบริษัทกันระหว่าง TRUE เดิมกับ dtac” ไม่ได้เป็นการซื้อกิจการกันอย่างที่เข้าใจ
ทำไม TRUE+dtac ถึงกลายเป็น “TRUE”?

เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ลูกค้า dtac (แอบ)ไม่พอใจสักเท่าไหร่นักตั้งแต่วันที่ประกาศมติที่ประชุมบริษัทฯ กลุ่มทรูตอบคำถามได้ชัดเจนว่าด้วยภาพลักษณ์และแบรนด์ของ “TRUE” มีความชัดเจน ครอบคลุม และครบครันในแง่ความเป็น Convergence มากกว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์ dtac ที่ทำแต่เทลโคมาโดยตลอด และด้วยเป้าหมาย 7 ด้านของบริษัท รวมถึงการเดินหน้าต่อในหลาย ๆ ด้าน อาทิ AI, Cloud, 5G-6G, Robotics, Machine Learning, IoT, Cybersecurity และ Ecosystem ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ การใช้แบรนด์ทรูเพื่อสื่อถึงภาพลักษณ์เหล่านั้นจึงตอบโจทย์มากกว่าการสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาอย่างชัดเจน

ในแง่การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นประเด็นสำคัญและแบรนด์ต่าง ๆ นั้น ทรูยืนยันว่าต่อให้เราจะเป็นบริษัทเดียวกัน แต่ทั้งสองแบรนด์จะยังเป็นคู่แข่งกันตามเดิมตามข้อกำหนดของ กสทช. ที่ให้มีการคงแบรนด์และภาพลักษณ์ทางการตลาดของ True และ dtac ออกไปอย่างน้องอีก 3 ปี ฉะนั้นจะยังคงมีการแข่งขันกันในตลาดแบบ 3 เจ้าเหมือนเดิม เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกได้อย่างอิสระ ชอบแบรนด์ไหน (True/dtac) ก็เลือกได้ตามใจได้เลย เพราะไม่ว่าแบรนด์ไหน เราก็ยังคงเป็นบ้านเดียวกัน แต่ในบางเรื่องที่เราทำได้ทันที เราจะทำงานร่วมกันทันที นั่นคือ
- การแสดงชื่อเครือข่ายบนมือถือ นับจากวันนี้บนหน้าจอระบบ Android จะแสดงเป็น True-dtac (เดิม TRUE-H) และ dtac-True (เดิม dtac) ส่วนลูกค้า iOS รอ Carrier Update เปลี่ยนชื่อเครือข่าย อีกไม่นานเกินรอ
- คลื่นความถี่ใน Spectrum Profile ของทั้ง True และ dtac จะถูกนำออกมาใช้งานรวมกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่คลื่นต่ำ 700 MHz, 900 MHz ตลอดจนคลื่นสูง 1800 MHz, 2100 MHz, 2600 MHz และ 26GHz ทั้งหมดจะถูกนำออกมาใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพภายใต้ข้อกำหนดเฉพาะกิจของ กสทช. สิ่งที่จะเกิดขึ้น ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น ลูกค้า True จะเข้าถึงพื้นที่ได้กว้างมากขึ้นจาก 5G บนคลื่น 700 MHz ของ dtac ลูกค้า dtac จะสามารถสัมผัสประสบการณ์ความเร็วเต็มแม็กซ์จาก 5G บนคลื่น 2100 MHz และ 2600 MHz ของ True โดยปัจจุบันได้เปิดให้บริการแล้วบางส่วน จะครบทั้ง 77 จังหวัดประมาณกลางเดือนมีนาคมนี้
- การใช้งาน Wi-Fi ร่วมกัน ลูกค้า True สามารถใช้ dtac WiFi ผ่านเบอร์ TrueMove H ได้ทันที ลูกค้า dtac สามารถขอใช้ True ID เพื่อเข้าใช้ True Wi-Fi หรือ @TrueMove H ได้
- สิทธิพิเศษต่าง ๆ จากทั้ง TrueYou, dtac Reward, d Insurance, Gaming Nation หรือสิทธิพิเศษที่ศูนย์การค้า 101 True Digital Park ทั้งลูกค้า dtac และ True ก็จะสามารถรับสิทธิ์ได้เหมือนกันทั้งหมด โดยไม่แบ่งแยกลูกค้ากันอีกต่อไป
"ทรูใหม่ กับนโยบายทั้ง 7" ที่เราอยากจะบอก

นอกจากอนาคตของทั้งสองแบรนด์ วันนี้กลุ่มทรูยังประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัท นั่นคือการก้าวขึ้นสู่การเป็น “เทลโคที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก” เทียบเท่าระดับอินเตอร์แบรนด์อย่าง Verizon, T-Mobile หรือ AT&T เป็นต้น นั่นหมายความว่านับจากนี้ เทลโค จะเป็นเพียงแค่ขาที่ช่วยให้บริษัทเดินหน้าได้ แต่การที่จะให้บริษัทโตไปมากกว่านี้ บริษัทจะต้องปรับแนวทางการบริหารใหม่ยกบริษัทฯ ทั้งหมด!

ทรูใหม่ ภายใต้การนำของ คุณมนัสส์ มานะวุฒิเวช และคุณชารัด เมห์โรทรา จึงได้ประกาศ “นโยบาย” 7 ข้อหลัก ที่เราสามารถทำได้จริงนับจากวันนี้เป็นต้นไป ซึ่งนโยบายทั้ง 7 ที่เราอยากบอก ก็คือ
Network and Digital Infrastructure Leader

เรื่องแรกก็ชัดเจนและตรงตัวเลย คือการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านโทรคมนาคมและโครงข่ายพื้นฐาน เดิมที True และ dtac เอง ต่างก็มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในด้านโทรคมนาคมอยู่แล้ว แต่นับจากนี้บริษัทใหม่เราจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จากทั้งโครงสร้างพื้นฐานทั้งฝั่ง Mobile ของ True และ dtac โครงข่าย Fiber และ Broadband ของ True ที่แข็งแกร่งและมีพื้นที่ให้บริการมากกว่า 90% ของพื้นที่ ทั้งสองนี้จะช่วยต่อยอดให้ทรูใหม่สามารถเดินหน้าในธุรกิจอื่น ๆ ได้ อย่างเต็มที่ อาทิ การจัดตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและประสิทธิภาพ การวางระบบ Cloud Computing ขนาดใหญ่ที่ได้รับการรองรับมาตรฐานสากลจาก Google Cloud และไม่ใช่แค่นั้น การมีพื้นฐานที่ดี รวมถึงพันธมิตรที่ดีอย่าง Telenor กับ China Mobile จะยังช่วยให้ทรูใหม่สามารถก้าวเข้าสู่ธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ AI, IoT, Machine Learning, Cyber Security ที่ทั้งหมดจะช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อในสังคมดิจิทัลได้อย่างราบรื่น
Growth Beyond the Core

เมื่อมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เราก็พร้อมที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาเสริมธุรกิจมือถืออย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล, Ecosystem ใหม่ ๆ, การขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเท่าเทียมกันทางสังคม ที่ทั้งหมดจะไม่ช่วยให้แค่ลูกค้าเท่านั้นที่รู้สึกดี แต่จะยังช่วยให้ธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ พร้อมเดินหน้าต่อไปได้อย่างเต็มที่
Set New Bar for Customer Experience

โครงสร้างพื้นฐานที่ดี ก็ต้องมาพร้อมกับบริการที่ดีกว่าเดิม โดยหลังจากนี้ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีมากขึ้น จากแพ็คเกจที่หลากหลายมากขึ้น การออกแบบแพ็คเกจใหม่จะไม่น่าเบื่อกว่าแต่ก่อน และยังมีการนำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ออกแบบแพ็คเกจ นำเสนอสินค้าและบริการ มอบสิทธิพิเศษ ตลอดจนบริการหลังการขาย ช่องทางการเข้าถึง O2O และบริการในรูปแบบใหม่ ๆ นับจากนี้ ซึ่งทั้งหมด ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจ ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และราบรื่นมากยิ่งขึ้น
Enhance Smart Life

นอกจากประสบการณ์ในการใช้บริการแล้ว ประสบการณ์ในด้าน Smart Life ก็จะได้รับการตีบวกให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก นับจากนี้ลูกค้าจะถูกยกระดับวิถีชีวิตให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ๆ มากยิ่งขึ้น อาทิไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่จะมาช่วยสร้างความสุขใหม่ ๆ ในชีวิต การดูแลรักษาสุขภาพ เทรนเนอร์ออนไลน์ คุณหมอออนไลน์ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการใช้พลังงานต่าง ๆ อย่างคุ้มค่าที่สุด ทั้งหมดนีจะไม่ได้ถูกผูกมัดไว้กับลูกค้าชาวเมืองที่มีกำลังซื้อเท่านั้น ลูกค้าคนไทยทุกคนจะสามารถเข้าถึงประสบการณ์ Smart Life ทั้งหมดนี้ได้อย่างเท่าเทียมกันมากที่สุด
Raise the Enterprise Standard

ไม่ใช่แค่กลุ่มลูกค้าบุคคลเท่านั้น กลุ่มลูกค้าองค์กรเองก็จะยังได้ประโยชน์จากการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ อาทิ IoT, Robotics, AI Analytics, BI, Blockchain ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทั้งหมดนอกจากจะช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างเต็มที่แล้ว ยังเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย ยกระดับประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างความแตกต่างและความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมด้วย
Be the Best Place to Work

แม้ก่อนการควบรวม True เป็นหนึ่งในบริษัทที่เด็กรุ่นใหม่ใฝ่ฝันอยากจะร่วมงานเป็นอันดับที่ 32 ในปี 2023 (จากข้อมูลของ WorkVenture) หลังการควบรวม บริษัทใหม่จะยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นองค์กรนายจ้างที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มุ่งเน้นการสร้างคนเก่งทางด้านดิจิทัลและคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ดึงดูดจิตวิญญาณสร้างความเป็นเจ้าของกิจการในตัวพนักงาน สร้างและสนับสนุนความหลากหลายของคนจากทั่วทุกมุมโลก สถานที่ สิ่งแวดล้อม ที่ดีต่อคน ตอบโจทย์ทุกความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นวัยไหน และเพศไหนก็ตาม ผ่านการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในกระบวนการทำงาน ผสานความเก่งกาจและความสามารถของบุคคลได้อย่างชัดเจน
หนึ่งในนโยบายที่ทรูประกาศต่อหน้าพนักงานทั้งฝ่าย True และ dtac กว่า 20,000 คน คือการปรับสวัสดิการพนักงานใหม่ทั้งหมด ปรับสิทธิ์การลาคลอดของพนักงานหญิง จากเดิมที่ True ให้ลาได้ 3 เดือน จะถูกปรับเป็นลาได้ 6 เดือน เพิ่มสิทธิ์พนักงานกลุ่ม LGBTQ+ ให้สามารถแสดงความเป็นตัวเองได้มากขึ้น ไม่จำกัดการแสดงออกทางเพศสภาพอีกต่อไป สนับสนุนสิทธิ์และสวัสดิการให้เหมาะสมกับกลุ่ม LGBTQ+ มากขึ้น อาทิ การลาและการสนับสนุนการแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็น ชาย-หญิง, ชาย-ชาย, หญิง-หญิง, การมอบประกันสุขภาพแบบกลุ่มที่ไม่จำกัดสิทธิ์ทางเพศ และการสนับสนุนการแสดงออกทางเพศสภาพในแบบที่ไม่ต่างจากพนักงานเพศชาย หรือหญิง สนับสนุนการทำงานจาก Remote Office รวมถึง Co-Working Space เพราะถึงแม้ทรูใหม่จะมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อาคารทรู ถนนรัชดาภิเษก แต่พนักงานทั้งหมดสามารถเข้าทำงานแบบ Remote Office ได้จากทั้งอาคารทรูทาวเวอร์ 2 ถนนพัฒนาการ, อาคาร True Digital Park Office ถนนสุขุมวิท หรืออาคารจตุรัสจามจุรี ถนนพระราม 4 ที่จะยังคงเป็นฐานบัญชาการของฝ่าย dtac ก็จะยังอยู่ต่อไปตามเดิม

นอกจากสิทธิ์ข้างต้นแล้ว พนักงานทั้งสองกลุ่มจะได้รับสิทธิ์และสวัสดิการเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงอาคารสำนักงานซึ่งจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ อาทิ การเพิ่มห้อง Nap Room ให้พนักงานพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย ห้อง Fitness Room คุณภาพระดับโลก พร้อมคลาสและกิจกรรมต่าง ๆ และการพบแพทย์ออนไลน์ขณะที่อยู่ที่ห้องพยาบาลผ่านแอปฯ True Health และ Mordee by True Health เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นการเสริมแกร่งในด้าน Well Being และ Work-Life-Balance ที่กลุ่มทรูมุ่งมั่นที่จะก้าวเข้าไปด้วยเช่นกัน
Be Sustainable Organization

เป้าหมายสูงสุด "คือการมอบสิ่งที่ดียิ่งกว่าเดิมให้ผู้บริโภค"

นโยบายทั้ง 7 รวมถึงการเปลี่ยนแปลงแบบกระทันหันที่เกิดขึ้นในวันนี้ จุดประสงค์ที่แท้จริง คือการส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้กับเพื่อนพนักงาน ลูกค้า และผู้บริโภคอย่างเท่าเทียมกัน ภายใต้คำมั่นสัญญาว่าลูกค้าจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐาน โทรศัพท์เคลื่อนที่ โทรทัศน์บอกรับสมาชิก บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์พื้นฐาน และบริการดิจิทัล ทั้งหมดนี้ลูกค้าจะต้องรู้สึกดีขึ้นอย่างแน่นอนนับจากนี้
แต่สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับตั้งแต่วันนี้ นั่นก็คือ…
MERGER GIFT! ฉลองควบรวมบริษัท ให้ลูกค้าสนุกได้มากกว่า!

เพื่อเป็นการต้อนรับลูกค้าทั้งสองบ้านสู่บ้านใหม่อย่างเต็มภาคภูมิ TRUE มีของขวัญพิเศษที่รอต้อนรับลูกค้าดังต่อไปนี้
ลูกค้า True และ dtac รับ Merger Gift ฟรี ได้แก่ เล่นฟรี อินเทอร์เน็ต 10 GB 7 วัน ดูฟรี กับสิทธิ์การรับชมฟุตบอล Premier League และความบันเทิงครบครันจาก True ID 30 วัน และกินฟรี กับเครื่องดื่มยอดฮิตจาก Dakasi, All Cafe, Koi The รับสิทธิ์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคมนี้ ที่ True ID และ dtac Application


แพ็คเกจใหม่สำหรับลูกค้ารายเดือน dtac 5G Better และ True 5G Together ให้เล่นเน็ต 5G ผ่าน 2 โครงข่ายประสิทธิภาพสูง ในราคาเริ่มต้น 499 บาท ต่อเดือน สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่า ใดๆ ในโลก "ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร"

เชื่อว่าการควบรวมของ 2 บริษัทที่หลายคนไม่อยากให้ควบรวม ส่วนหนึ่งมันก็เกิดขึ้นจากการพ่ายแพ้ในสงครามประมูลคลื่นของทั้งคู่ อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าตั้งแต่ปี 2558 สิ่งที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรม คือการเติบโตอย่างรวดเร็วของ AIS ล้วนทำให้เกิดช่องว่างทางอุตสาหกรรมที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถอุดไว้ได้อีกต่อไป ความเพลี่ยงพล้ำในกลสงครามประมูลคลื่นครั้งแล้วครั้งเล่าของ dtac ประกอบกับการเติบโตที่ล่าช้าค่อนข้างมากในยุค 5G ของทั้งสอง หนทางรอดทางเดียวที่ทั้งสองมองเห็นตรงกัน ก็คือการควบรวมบริษัทเพื่อสร้างความแข็งแกร่งแบบก้าวกระโดดอย่างชัดเจน

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น คือบริษัทฯ ใหม่นี้ มีมูลค่าสูงกว่า 294,000 ล้านบาท หรือ 20.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นการควบรวมกิจการที่มีมูลค่าสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังสูงกว่า Celcomdigi (Celcom + digi ของเทเลนอร์เหมือนกัน) ที่เพิ่งจะควบรวมกันเสร็จเมื่อปีที่แล้วอีกด้วย และในด้านจำนวนลูกค้า ก็ถือว่าพลิกขึ้นมาแซง AIS อย่างไม่เห็นฝุ่นด้วยจำนวนลูกค้ากว่า 55 ล้านราย (True 33.8 ล้านราย, dtac 21.2 ล้านราย) เรียกได้ว่า นาทีนี้ไม่มีบริษัทไหนแข็งแกร่งไปกว่าทรูอีกแล้ว
แต่ความไม่ชัดเจนของแนวทางการดำเนินการ (เช่นเรื่องแบรนด์ หรือการประมูลคลื่นหลังจากนี้) นอกจากนโยบาย 7 ข้อข้างต้น ทำให้หลายคนรวมถึงลูกค้าเองเกิดข้อสงสัยว่า “ถ้ารวมกันแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น แล้วจะรวมกันทำไม” ขึ้นมาทันที เรื่องนี้ยังไงก็ต้องให้เวลาทรูทำการบ้านกันอีกสักหน่อย อย่างน้อยคือหลักปีว่าสุดท้ายแล้วทรูจะเดินหน้าไปในทิศทางไหน และเราจะได้เห็นอะไรจากทรูในอนาคตกันแน่ ฉะนั้นก็.. รอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์กันต่อไปครับ 🙂