เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดเหตุสะเทือนตลาดวงการโทรคมนาคมอีกครั้ง เมื่อทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศขึ้นเครื่องหมาย C ให้กับหุ้น JAS หลังจากที่ JAS ออกงบการเงินไตรมาสแรกปี 2566 และพบว่าส่วนของผู้ถือหุ้นหายไปแล้วกว่า 50%
ทาง JAS จึงได้ออกแถลงการณ์ด่วนโดยระบุว่าสาเหตุที่ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากการที่ธุรกิจบรอดแบนด์หรือ 3BB ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ นั้นทำรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลจากการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างรุนแรง ซึ่งสวนทางกับค่าใช้จ่ายในการเช่าโครงข่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากการปรับอัตราค่าเช่าโครงข่ายของ JASIF ที่ก่อนหน้านี้ทาง AIS ได้เป็นตัวแทนเข้าเจรจาขอลดค่าเช่าลงกับผู้ถือกองทุนแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ประกอบกับการขายกิจการ 3BB หรือ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) ไม่สำเร็จตามที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 1 ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ กสทช. ยังไม่มีคำสั่งอนุมัติการเข้าทำรายการของ AWN จึงทำให้ JAS ไม่สามารถฟื้นสภาพกิจการได้ตามที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ JAS คาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถจำหน่ายเงินลงทุนใน 3BB ให้กับ AWN ได้ภายในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ซึ่งหลังจากที่บริษัทขาย 3BB ออกไปได้สำเร็จแล้ว บริษัทจะสามารถฟื้นสภาพคล่องได้อย่างรวดเร็ว และสามารถลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ได้ตามเป้าหมาย อาทิธุรกิจพลังงานสะอาด ธุรกิจการให้บริการและดูแลสุขภาพแบบดิจิทัล ตลอดจนการลงทุนของกลุ่ม JTS อันได้แก่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และเทคโนโลยีโซลูชันที่เกี่ยวเนื่อง อาทิการทำเหมืองบิทคอยน์ หรือการทำ Solar Farm ขนาด 3.8 MW เพื่อใช้ในการสนับสนุนการทำเหมืองบิทคอยน์ และธุรกิจ FinTech ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นตัวขับเคลื่อนเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม JAS จะจัดการประชุมผู้ถือหุ้นและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่ออธิบายสถานการณ์ของบริษัทฯ ในวันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคมนี้ ผ่านระบบออนไลน์ โดยผู้ที่สนใจสามารถอ่ายรายละเอียดการประชุม และเข้าร่วมการประชุมได้ผ่านหนังสือเชิญชวนฉบับนี้