ต่อเนื่องจากประเด็นร้อนส่งท้ายปี 2017 เมื่อมีการค้นพบคุณสมบัติในระบบปฏิบัติการ iOS 10 และ 11 ที่ทางบริษัทได้ยอมรับว่า ได้ปรับปรุงการทำงานเครื่องเพื่อรับมือกับอุปกรณ์ที่ยังใช้งานและอยู่ในสภาพแบตเตอรี่เสื่อม ซึ่งทำให้กำลังการจ่ายไฟขาดเสถียรภาพ และจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของชิ้นส่วนภายในต่างๆ โดยต่อมาทาง Apple ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงและแสดงการขอโทษ รวมไปถึงออกมาตรการเยียวยาให้เข้ารับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ในราคาพิเศษ
ในความเคลื่อนไหวล่าสุด Tim Cook ผู้บริหารสูงสุดของ Apple ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC News ระหว่างไปที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ในเมืองลาสเวกัส โดยได้ยอมรับอย่างเปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้วบริษัททำการเขียนโค้ดเพื่อปรับแต่งประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องที่แบตเตอรี่เสื่อม เพื่อไม่ให้ขาดการติดต่อฉุกเฉิน หรือพลาดการรอรับข้อความหรือโทรศัพท์สายสำคัญ พลาดการบันทึกภาพที่รอจังหวะพิเศษ โดยที่ Apple เรามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใช้งาน การตัดสินใจได้ถูกคำนึงบนพื้นฐานของลูกค้าเป็นสำคัญ เรารู้สึกว่าอาจจะดีกว่าถ้าลดประสิทธิภาพเครื่องลงบ้าง เพื่อแลกกับการป้องกันอาการเครื่องดับกระทันหัน
ในตอนที่เปิดตัวการใช้งานเราได้บอกถึงการทำงานของคุณสมบัติดังกล่าวนี้ไปแล้ว แต่อาจจะไม่ได้รับความสนใจมากเท่าไหร่ บางทีเราอาจจะผิดพลาดที่ไม่ทำการชี้แจงให้ชัดเจนเพียงพอด้วยเช่นกัน ซึ่งเราต้องขอโทษอย่างจริงใจต่อใครก็ตาม ที่อาจจะคิดว่าเราทำไปด้วยเหตุผลแรงจูงใจอื่น นอกเหนือไปจากทำเพื่อลูกค้าผู้ใช้งานสินค้าของเรา เพราะเป้าหมายสูงสุดของเราในสิ่งที่ทำมาตลอดก็เพื่อการตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ถัดจากนี้ไปเริ่มต้นที่ระบบปฏิบัติการทดสอบกลุ่มนักพัฒนาในเดือนกุมภาพันธ์ เราจะทำให้ระบบมีการแสดงผลสุขภาพของแบตเตอรี่ในตัวเครื่อง เพื่อความโปร่งใสชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่การทบทวนและเรียนรู้ได้จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เราต้องการแสดงออก ถึงแม้ว่าเราจะไม่แนะนำให้ปิดฟังก์ชั่นการพยุงการใช้งานเครื่องเมื่อแบตเตอรี่เสื่อม แต่หากไม่ต้องการ ผู้ใช้งานจะสามารถปิดการทำงานของคุณสมบัติการปรับแต่งประสิทธิภาพเครื่องได้ เพราะเราคิดว่าโทรศัพท์ iPhone เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของลูกค้า และในบางครั้งก็บอกไม่ได้ว่าเหตุการณ์ฉุกเฉินจะเกิดขึ้นตอนไหน การกระทำที่เราได้ตัดสินใจลงไปแล้วก็เพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้งานของเรา นั่นเป็นที่เรายึดมั่นและยืนยันมาโดยตลอด