การเปิดตัววางจำหน่ายของโทรศัพท์ iPhone X รุ่นพิเศษครบรอบสิบปีการทำตลาดแบรนด์ไอโฟน กลายเป็นจุดสนใจของตลาดมาตลอดทั้งปี จนกระทั่งการประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทในรอบปีปฏิทินการเงิน 2018 ซึ่งตรงกับช่วงไตรมาส 4 ระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคมของปฏิทินปกติ โดยก็ไม่ถือว่าผิดคาดหมายเมื่อทาง Apple ประกาศผลรายได้ 8.83 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 7.84 หมื่นล้าน) และกำไรที่ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ 2.01 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 1.79 หมื่นล้าน)
สำหรับยอดขายอุปกรณ์ในช่วงไตรมาสปลายปี 2017 เมื่อเทียบกับปี 2016 ที่ผ่านมานั้น iPhone มีจำนวน 77.3 ล้านเครื่อง (ลดลงจาก 78.3 ล้านเครื่อง) iPad มียอดขาย 13.2 ล้านเครื่อง (เพิ่มขึ้นจาก 13.1 ล้านเครื่อง) และสินค้ากลุ่ม Mac มียอดขาย 5.1 ล้านเครื่อง (ลดลงจาก 5.4 ล้านเครื่อง) ทำให้สินค้ากลุ่มโทรศัพท์ทำรายได้หล่อเลี้ยงบริษัทอยู่กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สินค้ากลุ่มบริการไต่ลำดับขึ้นมาในอันดับสองมีสัดส่วนรายได้ 10 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรายได้จากธุรกิจ Mac และกลุ่มสินค้า iPad มีรายได้แบ่งตามสัดส่วนอยู่ที่ 8 และ 7 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
ทางด้าน Tim Cook เจ้าหน้าที่ประธานบริหารสูงสุด Apple ได้ให้สัมภาษณ์ระบุแสดงถึงความตื่นเต้นต่อผลประกอบการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple โดยเฉพาะรายได้จากสินค้ากลุ่ม iPhone ที่ยังสามารถทำผลงานเติบโตขึ้นกลายเป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้ง ด้านของ iPhone X ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่เปิดตัววางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายน นอกจากนั้นแล้วในช่วงเดือนมกราคม 2018 โทรศัพท์ iPhone มีการเปิดใช้งานอยู่ทั่วโลกแล้วกว่า 1.3 พันล้านเครื่อง หรือคิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ในรอบ 2 ปีหลังสุด แสดงได้ถึงความนิยมต่อตัวสินค้า ความพึ่งพอใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้า