ภายหลังการถูกเปิดเผยและยอมรับถึงการใช้ซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการ iOS 10/11 ในการลดประสิทธิภาพการทำงานตัวเครื่องที่อยู่ในสภาพแบตเตอรี่เสื่อมของโทรศัพท์ iPhone ในช่วงปลายปีที่แล้ว เรื่องราวดังกล่าวได้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ทำให้ Apple ตกที่นั่งลำบากไปในทันที โดยหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคและรัฐบาลจากฝรั่งเศส อิตาลี สหรัฐอเมริกา เปิดฉากทำการตรวจสอบ รวมไปถึงการรวมตัวฟ้องร้องเป็นคดีมหาชนในสหรัฐอีกเกือบ 50 คดีความ
ซึ่งในความเคลื่อนไหวที่ขยี้เกลือลงไปบนแผลสดครั้งนี้ ทางสำนักอัยการเขตกรุงโซล ได้สั่งเปิดการตรวจสอบต่อทาง Apple ที่ถูกร้องเรียนจากหน่วยงาน Citizens United for Consumer Sovereignty (CUCS) แห่งประเทศเกาหลีใต้ ทำการยื่นฟ้องร้องต่อ Tim Cook เจ้าหน้าที่ประธานบริหารของ Apple และ Daniel Dicicco หัวหน้าบริการของ Apple เกาหลีใต้ โดยข้อร้องเรียนนั้นระบุว่า Apple ได้จงใจบังคับให้เจ้าของ iPhone ซื้อสินค้ารุ่นใหม่ จากการใช้ซอฟท์แวร์ปรับลดความเร็วเครื่องรุ่นเก่า เป็นข้อกล่าวอ้างที่ไม่ต่างไปจากคดีความอื่นๆ ที่มีอยู่ก่อนแล้ว
โดยความพยายามใช้ซอฟท์แวร์ปรับแต่งประสิทธิภาพเครื่องที่อยู่ในสภาพแบตเตอรี่เสื่อมของ Apple ตั้งแต่การอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 10.2.1 สำหรับโทรศัพท์ในตระกูล iPhone 6/6s และระบบปฏิบัติการ iOS 11.2 สำหรับโทรศัพท์ในตระกูล iPhone 7 นั้นกลายเป็นช่องว่างปลายเปิดไปสอดรับเข้ากับทฤษฏีที่กล่าวอ้างกันอย่างหนาหูว่า บริษัทใช้การอัพเดตซอฟท์แวร์ใหม่ทำให้เครื่องเก่าทำงานได้ช้าลง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อเครื่องใหม่ไปโดยพอดิบพอดี