เรื่องราวต่อเนื่องของประเด็นน้ำผึ้งหยดเดียวจาก Apple ที่ใช้ซอฟท์แวร์ในปรับลดความเร็วโทรศัพท์ iPhone ที่อยู่ในสภาพแบตเตอรี่เสื่อม เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเครื่องปิดตัวฉับพลัน ซึ่งได้ถูกตรวจสอบจากหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคใน ฝรั่งเศส, อิตาลี บราซิล และเกาหลีใต้ รวมไปถึงการฟ้องร้องเป็นคดีมหาชนในสหรัฐอเมริกาอีกกว่า 50 คดีความ ล่าสุดทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (U.S. Department of Justice) และ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (U.S. Securities and Exchange Commission) เปิดเคสเข้าตรวจสอบถึงพฤติกรรมดังกล่าวเป็นรายการล่าสุด
หน่วยงานภายใต้การกำกับของรัฐบาลสหรัฐทั้งสอง ระบุว่าต้องการที่จะตรวจสอบหากว่า Apple ได้กระทำการละเมิดกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ ว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลในการอัพเดตซอฟท์แวร์ที่จะทำให้เครื่องโทรศัพท์เกิดการทำงานช้าลงหรือไม่ โดยตัวแทนที่เข้าทำการตรวจสอบ ได้มีการเรียกข้อมูลสำหรับการตรวจสอบไปยังฝั่งบริษัท และดูเหมือนว่าจะเน้นไปที่การประกาศข้อมูลต่อสาธารณะจาก Apple ต่อกรณีดังกล่าวนี้ โดยการให้ข้อมูลของบริษัทที่อาจจะชี้นำไปสู่ความเข้าผิดของเหล่านักลงทุน เมื่อเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลงของโทรศัพท์รุ่นเก่า
ซึ่งทาง Apple ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการระบุถึงการเตรียมพร้อมที่จะให้ความร่วมมือต่อการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ อย่างเต็มที่ และรวมไปถึงฟังก์ชั่นการแสดงสถานะสุขภาพของแบตเตอรี่หากว่าอาจจะต้องเข้ารับบริการเปลี่ยนใหม่ เช่นเดียวกับเพิ่มปุ่มเปิด-ปิดการทำงานของฟังก์ชั่นประคองการใช้งานเครื่องในสภาพแบตเตอรี่เสื่อม ที่จะนำร่องเปิดตัวในระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่น iOS 11.3 สำหรับนักพัฒนาในเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทได้ยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่าไม่มีความตั้งใจและไม่เคยคิดที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ Apple ใดๆ มีอายุการใช้งานที่สั้นลง หรือลดประสิทธิภาพเพื่อที่จะทำให้ลูกค้าต้องจ่ายเงินรุ่นใหม่ เป้าหมายของบริษัทคือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าชื่นชอบ ทำให้โทรศัพท์ iPhone มีอายุการใช้งานได้นานที่สุดต่างก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลัก ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาระบบจัดการพลังงานที่ทำงานกับแบตเตอรี่ ที่ไม่อยู่ในสภาพจะจ่ายไฟเลี้ยงระบบได้ด้วยกำลังสูงสุด ให้ลดความเสี่ยงต่ออาการเครื่องปิดตัวฉับพลัน