เป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจการผลิตสินค้าหลายๆ อย่างของญี่ปุ่นนั้นได้ถูกย้ายสายการผลิตนำออกมาดำเนินการนอกประเทศมาอยู่ในภูมิภาคเอเชียเป็นเวลาหลายสิบปี เนื่องจากการแข่งขันที่ต้องการควบคุมต้นทุนเป็นสำคัญ แต่ล่าสุดอ้างอิงจากการเปิดเผยของสื่อสำนักใหญ่ Asian Nikkei Review ระบุว่า ผู้ผลิตสินค้าบางราย เช่น Casio Computer กำลังนำสายการผลิตสินค้ากลับสู่บ้านเกิด ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาประยุกต์ใช้งานในการผลิตสินค้า
โดย Casio Computer ได้เปิดโรงงานสายการผลิตอัตโนมัติ ขึ้นในเมืองทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบปัญญาประดิษฐ์นั้น ได้ช่วยให้บริษัทสามารถผลิตนาฬิกาข้อมือราคาย่อมเยาขึ้นได้ในประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าการผลิตสินค้าราคาถูกก็สามารถกลับมาผลิตภายใต้แบรนด์ “Made In Japan” ได้อีกครั้ง เนื่องจากปัญหาด้านต้นทุนในด้านแรงงานในทวีปเอเชียที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลัง ยิ่งกระตุ้นเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ตามมา
การนำร่องของ Casio นั้นตามมาด้วย Honda Motors ที่ย้ายสายการผลิตมอเตอร์ไซค์ Super Cub จากประเทศจีนกลับมาเปิดที่โรงงานเมือง Kumamoto หรือทาง Canon ผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพได้นำสายการผลิตสินค้าจากเอเชียกลับมาเปิดที่โรงงานในเขตจังหวัด Miyazaki เช่นเดียวกับ Pioneer ที่นำเอาสายการผลิตระบบนำทางรถยนต์จากประเทศไทยกลับสู่โรงงานในเขตจังหวัด Aomori
และสำหรับโรงงานสายการผลิตอัตโนมัติของ Casio ที่เขตจังหวัด Yamagata เมื่อดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบในช่วงซัมเมอร์กลางปี 2018 ก็ทำให้บริษัทผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นได้เป็นสองเท่า จากเดิมที่พึ่งพากำลังผลิตจากโรงงานในประเทศจีนสองแห่ง ในประเทศญี่ปุ่นและไทยอีกอย่างละหนึ่งแห่ง เพื่อผลิตสินค้านาฬิกาข้อมือ 100,000 เรือนต่อเดือน โดยสายการผลิตใช้ต้นทุนไม่แตกต่างไปจากโรงงานในประเทศไทย และแม้ว่าจะต้องใช้เงินลงทุนหลักล้านเหรียญสหรัฐ แต่ภายในอีกสามปีก็เป็นที่คาดหมายว่า จะย้ายการผลิตในเอเชียอีกบางส่วนมาที่โรงงานอัตโนมัติในประเทศแห่งนี้ต่อไป
กระนั้นในช่วงที่ผ่านมาไม่นาน สำหรับประเทศไทยก็ยังมีการลงทุนด้านโรงงานผลิตจากแบรนด์สินค้าญี่ปุ่นมาเป็นลำดับ ไม่ว่าจะเป็นสายการผลิตสมาร์ทโฟนของ Sony หรือโรงงานผลิตโทรทัศน์จาก Sharp ที่กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง