ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวสั้น

อัพเดตใหม่แอปฯ KPlus ปี 2018 “ธนาคารในมือที่ทำได้สะดวกขึ้น กับอีกก้าวของสังคมไร้เงินสด”

ในบรรดาแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการการเงิน หนึ่งในนั้นคงต้องนึกถึง KPlus จากธนาคารกสิกรไทย ที่ถือเป็น แอปฯ ที่ใช้ทำธุรกรรมทางการเงินได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมระหว่างคนหรือระหว่างการซื้อขายในแง่มุมต่างๆและได้รับความนิยมส่งผลให้เกิดพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปไม่แค่กับกสิกรไทยแต่หมายถึงทุกธนาคารเช่นกัน

เปิดปีใหม่ 2018 ก็ต้องมีอะไรใหม่ๆ ให้กับ KPlus สักหน่อยโดยความสามารถใหม่ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

 

เมื่อธนาคารในมือครอบคลุมความต้องการได้มากขึ้น

นอกจากความสามารถพื้นฐานของ KPlus ที่ใช้งานกันประจำอย่าง โอนเงิน / จ่ายบิล สิ่งที่เพิ่มมาใหม่สำหรับปีนี้ คือการเน้นความสะดวกให้เข้ากับลักษณะการใช้เงินของคนยุคนี้ ไม่ว่าจะเรื่องการซื้อหรือขายของบนออนไลน์ หรือการแก้ปัญหาการขาดเงินสดในมือเมื่อต้องการใช้งาน โดยความสามารถใหม่ที่ KPlus นำเสนอมีดังนี้

 

Quick Pay จ่ายเงินง่ายๆ แค่ QR Code

ความสามารถหลักของ KPlus เวอร์ชันใหม่ คือการรองรับการชำระเงินผ่าน QR Code เต็มรูปแบบ ทำให้ลูกค้าธนาคารสามารถชำระเงินผ่าน QR Code ไม่ว่าจากของธนาคารกสิกรไทยเอง หรือ QR Code ที่ออกโดยสถาบันการเงินอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น โดยนับตั้งแต่เปิดให้บริการ มีการทำธุรกรรมด้วย QR Code กว่า 1.3 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่าในการทำธุรกรรมที่ 811 ล้านบาท

 

LifePLUS เกตเวย์ความสุข ทำได้ทุกอย่าง

ความสามารถ LifePLUS ในเวอร์ชันนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่เกือบทุกจุด ตั้งแต่การเปลี่ยนฟีดการทำรายการมาเป็นแบบ Live Feed รองรับการ Push Notification ที่สำคัญๆ จากธนาคารเข้ามือโดยตรง และไฮไลต์สำคัญที่พลาดไม่ได้ นั่นคือ LifePLUS เวอร์ชันนี้จะรองรับการขอสินเชื่อเงินกู้แบบเร่งด่วนในยามที่เงินสดขาดมือ และรองรับการช้อปปิ้งจากร้านค้าใน KPlus Shop โดยตรง

ในเรื่องของการกู้สินเชื่อ ธนาคารจะพิจารณามอบสิทธิ์การขอสินเชื่อแบบรายบุคคลด้วยการทำ Data Analytics กับกลุ่มลูกค้าที่เปิดบัญชีรับเงินเดือนผ่านธนาคารกสิกรไทยเป็นหลัก ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องส่งมอบเอกสารเพิ่ม และมีเครดิตทางการเงินที่ค่อนข้างชัดเจนกับธนาคาร โดยเมื่อธนาคารเห็นชอบในการให้สินเชื่อ ก็จะส่ง Push Notification เข้าไปที่เครื่องเพื่อแจ้งสัญญาในการขอสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ย และจำนวนเงินที่ต้องผ่อนคืนโดยคิดจากระยะเวลาชำระคืน ถ้าลูกค้าสนใจก็สามารถกดตอบรับสัญญาจากในแอปฯ ได้ทันที และเงินก็จะเข้าบัญชีที่ผูกไว้กับ KPlus โดยตรงเช่นกัน และเมื่อถึงกำหนดชำระ ระบบก็จะตัดเงินจากบัญชีที่ผูกกับ KPlus เอาไว้โดยอัตโนมัติ เรียกว่าสะดวก จบ แทบไม่ต้องไปเยือนสาขากันเลยทีเดียว

อีกความสามารถหนึ่งคือการซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยธนาคารจะเปิดให้ร้านค้าใน KPlus Shop สามารถวางขายสินค้าผ่าน KPlus ได้โดยตรง เมื่อลูกค้าสนใจก็สามารถกดสั่งซื้อและทำรายการผ่าน KPlus ได้ทันที เพียงเท่านี้ก็นอนรอรับสินค้าจากที่บ้านได้เลย ทั้งนี้บริการดังกล่าวจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป

ในส่วนของสิทธิพิเศษ ธนาคารยังคงยึดมั่นมอบสิทธิพิเศษอีกมากมายสำหรับลูกค้า KPlus ผ่าน LifePLUS โดยตรงตลอดปีนี้

 

KPlus Shop กับการออกบิลเรียกเก็บเงินที่ง่ายและสะดวกกว่าเดิม

นอกจากฝั่ง KPlus ที่มีฟีเจอร์ใหม่ๆ แล้ว ฝั่งร้านค้าก็ยังม่ีความสามารถใหม่ๆ อย่างการออกบิลเรียกเก็บเงินได้ด้วยตัวเอง โดยร้านค้าสามารถออก QR เรียกชำระเงินจากลูกค้าได้ด้วยตัวเอง และส่ง QR นั้นให้ลูกค้าทำรายการ ฝั่งลูกค้าเพียงเปิดแอปฯ KPlus และเลือกรูป QR Code ที่ได้รับ ตัวแอปญ จะอ่าน QR Code และเปิดหน้ายืนยันการโอนเงินให้ในทันที เรียกว่าเพิ่มความสะดวกสบายอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเลยทีเดียว

 

มีของใหม่ยังไงก็ต้องทำให้แมส

แม้ว่าเรื่องของ Mobile Banking ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของคน Gen Y แต่จากสถิติของ BrandMaker ณ เดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ก็ชี้ให้เห็นว่าแอปฯ KPlus ของธนาคารกสิกรไทย เป็นแอปฯ มหาชนที่มีคนใช้สูงเป็นอันดับที่ 5 จากแอปฯ ทั้งหมดที่มีในโลก รวมถึง ณ ตอนนี้ ก็มีลูกค้าเข้าใช้งานกว่า 7.5 ล้านราย แต่เพื่อให้จำนวนผู้ใช้งานก้าวขึ้นไปถึงหลัก 10 ล้านราย ธนาคารจึงได้ออกแคมเปญประชาสัมพันธ์ตัวใหม่ โดยได้ผู้กำกับภาพยนตร์สุดติสท์ “เต๋อ – นวพล ธำรงค์รัตนฤทธิ์” มาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้

ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ใช้ความแมสของแอปฯ KPlus เป็นจุดขาย โดยชี้ให้เห็นได้ชัดว่า แอปฯ KPlus นี้เหมาะสมสำหรับผู้คนทุกเพศทุกวัย เข้าถึงง่าย ใครๆ ก็ใช้ เอาไปคุยกับใครก็รู้เรื่อง อีกทั้งยังช่วยพลัสสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ทำให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น

ทั้งนี้ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะเริ่มออนแอร์ทางโทรทัศน์ตั้งแต่คืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป

 

ความสำเร็จที่ต้องก้าวต่อ

ธนาคารกสิกรไทยเผยข้อมูลสถิติของ KPlus นับตั้งแต่เปิดตัวในชื่อ K-Mobile Banking มาจนถึงตอนนี้ ว่าเรามีผู้ใช้งานในระบบกว่า 7.5 ล้านราย มียอดการทำธุรกรรมที่ 3,000 ล้านรายการต่อปี ซึ่งถือเป็นยอดการทำธุรกรรมกว่า 60% ของยอดทั้งหมด และเป็นยอดที่ถล่มทลายกว่าการทำธุรกรรมผ่านสาขาที่มียอด 180 ล้านรายการต่อปีหรือคิดเป็นเพียง 5% ของยอดทั้งหมดเท่านั้น (อีก 35% เป็นยอดการทำธุรกรรมผ่านตู้ ATM) รวมถึงมีมูลค่าในการทำธุรกรรมทั้งหมด 6.3 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ธนาคารเริ่มเปิดให้บริการในหมวด Mobile Banking

ดังนั้นใน พ.ศ. 2561 ธนาคารจึงตั้งเป้าการทำธุรกรรมให้เพิ่มขึ้นเป็นอีกเท่าตัวจากการเปิดตัวฟังก์ชันใหม่ๆ ข้างต้นนี้ ด้วยยอดการทำธุรกรรมที่ 6,000 ล้านรายการ และตั้งเป้าจำนวนยอดผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นถึง 10.8 ล้านราย โดยที่กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มลูกค้าบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทยทั้งแบบออมทรัพย์และกระแสรายวัน ซึ่งปัจจุบันลูกค้า Gen Y ส่วนใหญ่ (คิดเป็น 55% ของลูกค้า KPlus ทั้งหมด) มีบริการ KPlus กันเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงกลุ่มลูกค้าที่เป็น Baby Boomer หรือกลุ่มลูกค้าที่สภาพคล่องในระดับดีมากบางรายที่ยังเข้าไม่ถึง หรือไม่มีความจำเป็นในการใช้งานเป็นต้น

ในส่วนของ KPlus Shop เองก็มีร้านค้าที่ร่วมใช้งานกว่า 800,000 ร้านค้า มีจำนวนรายการในปีที่ผ่านมาที่ 1.4 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่าธุรกรรม 1,100 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของ Mobile Banking ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ไม่เว้นเฉพาะลูกค้าบุคคลทั่วไป ในอนาคตธนาคารจะพัฒนาฟังก์ชันของ KPlus Shop เพื่อตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้านี้ในระยะยาว

สำหรับแผนงานในอนาคตของ KPlus ธนาคารจะเริ่มเปิดให้บริการ KPlus สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบยอดที่ใช้ไป วงเงินคงเหลือผ่านแอปฯ KPlus โดยไม่ต้องผ่านการเปิดบัญชีได้โดยตรง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มยอดลูกค้าที่ใช้งาน KPlus ให้โตขึ้นตามเป้าในระยะยาวได้อีกด้วย

คณะแกดกวน #teamgadguan

อริญชย์ ชวะโนทัย (iBehemortHz)

เด็ก ป.โท ผู้สนใจในโลกดิจิทัลและสังคม และคอยเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงผ่านสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า "หน้าจอ" :)