วันนี้ Acer ประเทศไทย ได้จัดงานแถลงทิศทางการตลาดในประเทศไทยประจำปี 2018 สิ่งที่น่าตกใจคือ ผมรู้จักคอมพิวเตอร์ยี่ห้อนี้และได้ใช้เป็นเครื่องแรกในชีวิตตั้งแต่สมัย ม.5 จนตอนนี้ Acer เดินทางมาไกลกว่าที่คิด จากสมญานามเดิมที่เคยได้ยินเสียงบอกกล่าวกันว่า ใช้ Acer ระวังเครื่องพังแบบปีต่อปี จนวันนี้ Acer กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ PC ยอดนิยมของเมืองไทย ความสำเร็จนี้จะต่อยอดให้ Acer เดินไปในทิศทางไหน วันนี้ Acer ประเทศไทยจะมาเล่าให้เราฟังกันครับ
ในวันที่ตลาด PC ซา เรายังคงรั้ง “อันดับหนึ่ง”
เริ่มด้วยการสรุปข้อมูลในปีที่แล้วกันก่อน Acer บอกให้เราทราบว่าในปีที่แล้วมูลค่าตลาดของ PC นั้นโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญเมื่อเทียบกับจำนวนเครื่องที่มีในระบบ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่แล้วคือกระแส PC ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด จำนวนผู้ใช้งานไม่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิม แต่ทิศทางที่เปลี่ยนไปคือผู้ใช้หันมาใช้คอมพิวเตอร์แบรนด์เนม คุณภาพดี ราคาสูงกันมากขึ้น และในเฉพาะสองสามปีให้หลังที่ตลาด Gaming มาแรงอย่างดุเดือด มันก็ทำให้มูลค่าตลาดโตขึ้นไปอย่างเห็นได้ชัดด้วย เมื่อตลาดยิ่งโต ก็ยิ่งทำให้เราได้เห็นผู้ผลิตทำอะไรใหม่ ๆ ออกมากันมากขึ้น
กลับมาที่ Acer ในปีที่แล้วก็เป็นอีกปีที่ Acer ทำผลงานได้ดี เพราะเมื่อเทียบ Market Share ในทุกเซกเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นเซกเมนต์ PC ธรรมดาสามัญ โน้ตบุ๊คใช้งานทั่วไป Thin & Light และ Gaming ก็ทำได้ดีทั้งหมด จนตอนนี้ Acer ขึ้นนำเป็นอันดับหนึ่งในตลาด PC และโน้ตบุ๊คอย่างที่แบรนด์อื่น ๆ เทียบไม่ได้ ซึ่งเมื่อแยกในกลุ่มที่เป็น Focus Group สองกลุ่มหลักที่ทำได้ดี ก็มีรายละเอียดดังนี้
- กลุ่ม Thin & Light มีส่วนแบ่งในเซกเมนต์ที่ 31.9%
- กลุ่ม Gaming มีส่วนแบ่งในเซกเมนต์ที่ 32.2%
เพื่อเป็นการเสริมแกร่งในตลาดนี้ Acer ก็ยังคงออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มาเสริมแกร่งในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ค Swift 7, Swift 5, Switch 7 Black Edition สำหรับตลาด Thin & Light และ Predator Orion 9000, Nitro 5 และอุปกรณ์เสริมแบรนด์ Predator สำหรับตลาด Gaming ซึ่งทั้งหมดนี้จะเริ่มขายในช่วง Q2-Q3 2018 เป็นต้นไป
ตลาด PC ไม่พอสำหรับเรา อนาคตต้อง “Smart City”
อีกหนึ่งตลาดที่ Acer สนใจอย่างมากในปีนี้คือตลาด Smart City และ IoT ก่อนหน้านี้ในมุมของ AIS ก็ได้พูดถึงความสำคัญของการมี IoT ในประเทศแล้ว มุมของ Acer ก็ไม่ต่างกัน Acer ใช้วิธีการซื้อบริษัท IoT หลาย ๆ บริษัทเข้าพอร์ทของตัวเอง แล้วนำทั้งหมดมาพัฒนาให้กลายเป็น Smart City Solution ที่พร้อมจะเปลี่ยนโลกในอนาคต
โดย Acer มุ่งเน้นไปที่ 5 ด้านหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
- Smart Living : Acer ตอบสนองความต้องการพื้นฐานในการใช้ชีวิต ด้วยโซลูชันที่รองรับการใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์ โดยอุปกรณ์ตัวอย่างในโซลูชันนี้คือเรื่องของ Air Monitor & Smart Plug ซึ่งพัฒนาให้รองรับกับการใช้งานร่วมกับ Cloud และ Smart Phone อย่างเต็มตัว
- Smart Mobility : Acer ตอบสนองความต้องการในการแก้ปัญหาการเดินทาง ด้วยการนำโซลูชันและความสามารถทางเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารและจัดการ และตอบสนองในการจัดหาที่จอดรถ หรือความเสี่ยง โอกาส และความเป็นไปได้ในการเข้าถึงของผู้โดยสาร สำหรับผู้ให้บริการรถสาธารณะเป็นต้น
- Smart Economy : Acer ตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการจะนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจ โดยเริ่มจากธุรกิจ Retail และโฆษณา รวมถึงยังได้พัฒนาหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับ AI เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการวิเคราะห์ลูกค้าเพื่อทำ CRM วิเคราะห์ตลาด คำนวณต้นทุน กำไร และคาดการณ์ความชื่นชอบของลูกค้าเป็นต้น
- Smart People : Acer ตอบสนองความต้องการในการพัฒนาบุคลากรด้วย Cloud Professor ที่จะสอนให้ผู้ใช้งานได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT และ Cloud อย่างเต็มที่ เพื่อที่บุคลากรที่ผ่านการอบรมจะได้นำความรู้ไปพัฒนาต่อจนเป็นรูปร่างและสามารถนำมาปรับใช้ในวิถีชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
- Smart Goverment : Acer ตอบสนองความต้องการในการพัฒนาประเทศในหลาย ๆ ด้าน ด้วยโซลูชันต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับภาครัฐ และการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่ได้นำ IoT มาปรับใช้อย่างลงตัว ส่งผลให้ผู้ใช้งานและผู้ให้บริการสามารถใช้งานโซลูชันต่าง ๆ เหล่านี้ได้อย่างลงตัวและยั่งยืน
อนึ่ง Acer ทดลองผลิตภัณฑ์ IoT แนวคิด Smart City และ Cloud Solution หลาย ๆ อย่างในประเทศไต้หวันซึ่งแข็งแกร่งมากสำหรับ Acer และเชื่อว่าประเทศไทยก็จะเป็นรายต่อไปที่ Acer จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนา Smart City อย่างหนักหน่วงในประเทศ
สรุป
เชื่อว่าตลาด PC ในวันนี้ก็มาถึงจุดอิ่มตัวของตลาดแล้ว ดังนั้นการออกนอกกรอบเพื่อหาแนวความคิดใหม่ ๆ ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่คำถามคือต่อจากนี้ ใครจะทำได้สำเร็จก่อนกัน เชื่อว่า Acer เองก็คงมีอะไรอยู่ในหัวเยอะพอสมควร และน่าจะได้เห็นแนวคิดแบบนี้ชัดเจนขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน