วันนี้ Nokia โดย HMD Global ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโทรศัพท์มือถือชุดใหม่ประจำปี 2018 ต่อยอดความสำเร็จของ HMD Global ที่เริ่มทำธุรกิจโทรศัพท์มือถืออย่างเต็มตัวในปีที่แล้ว ปีนี้ HMD Global จะเดินหน้าไปในทิศทางไหน และจะมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ ที่เปิดตัวเพื่อขายในปีนี้อย่างไรบ้าง ลองอ่านดูกันต่อได้เลยครับ
ตำนานกล้วยคืนชีพ "Nokia 8110 with 4G"
เปิดตัวกันที่รุ่นแรก Nokia 8110 with 4G มือถือต่อยอดความสำเร็จของมือถือในตำนานของ Nokia อีกรุ่นอย่าง Nokia 8110 ที่เคยโด่งดังในอดีตจากการที่มันไปเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์ The Matrix การกลับมาในครั้งนี้ย่อมไม่ธรรมดา เพราะยิ่งอยู่ใน Series 8 ซึ่งถือเป็นซีรีส์สูง ๆ ของ Nokia อยู่แล้ว ก็ต้องยิ่งไม่ธรรมดาด้วยเช่นกัน
ตามธรรมเนียมมันคือ Feature Phone จอสีแบบ Nokia 3310 3G และ 4G ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า แต่เปลี่ยนดีไซน์กลับมาใช้แบบเดียวกับ Nokia 8110 ด้านความสามารถก็เหมือนกับ Nokia 3310 4G แทบทั้งสิ้น ทั้งการรองรับสองซิม รองรับ 4G และสามารถปล่อย Hotspot 4G ได้ ที่สำคัญมันยังมาพร้อมกับ Google Assistant ระบบผู้ช่วยส่วนตัวจาก Google พร้อมปุ่มคำสั่งพิเศษสำหรับเรียกใช้งาน Google Assistant โดยเฉพาะ
โดยมือถือตัวนี้จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคมนี้ ในราคาค่าตัวที่ 79 ยูโร หรือประมาณ 3,000 บาทนิด ๆ มีให้เลือกสองสีคือสีดำ Black และสีเหลือง Banana Yellow ครับ
Nokia 1 "น้องเล็กร่างเบาด้วย Android Go"
มือถือตัวที่สองที่เปิดตัวในงานก็ยังคงเน้นที่ตลาดมือถือระดับล่างที่เน้นไปที่ตลาดประเทศเกิดใหม่เป็นหลัก นั่นก็คือ Nokia 1 มือถือขนาดย่อมสำหรับตลาดประเทศเกิดใหม่โดยเฉพาะ
มือถือตัวนี้มาพร้อมกับ Android Oreo (Go Edition) ร่างเพรียวบางตัวใหม่ของ Android ที่ทำมาเพื่อมือถือสำหรับตลาดล่างโดยเฉพาะ ความที่มันเป็น Go Edition ทำให้เวลามีอัพเดตเวอร์ชันใหม่ ๆ ก็สามารถอัพเดตได้แทบจะทันที โดยไม่ต้องปรับแต่งตัวระบบปฏิบัติการให้มากความ
ด้านสเปคก็ไม่ได้วิเศษอลังเว่อวังมากนัก ตัวมันมาพร้อมหน่วยประมวลผลความเร็ว 1.1 GHz แรม 1 GB หน่วยความจำในตัว 8 GB หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด WQHD (854*480 พิกเซล) และกล้องดิจิทัลความละเอียด 5 ล้านพิกเซลแบบธรรมดาๆ
แต่ที่จะไม่ธรรมดาสำหรับมือถือตัวนี้ คือมันมาพร้อมกับหน้ากาก Xpress-on ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนหน้ากากด้านหลังได้อย่างอิสระ ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนไปใช้ โพลีคาร์บอเนต อลูมิเนียม หรือหน้ากากไม้ก็แล้วแต่ความต้องการของคุณได้โดยตรง
Nokia 1 จะทำตลาดพร้อมกันทั่วโลกในเดือนเมษายนนี้ ในราคาค่าตัวที่ 69 ยูโร หรือ 2,600 บาท
Nokia 6 (2018) "ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นท็อปฮิต"
ตัวที่สามที่เปิดตัวในงานคือ Nokia 6 (2018) รุ่นต่อยอดความสำเร็จของ Nokia 6 ในปีที่แล้ว ซึ่งปีนี้ Nokia 6 มาพร้อมกับตัวเครื่องที่เปลี่ยนแนวการออกแบบจากขอบเงินเป็นขอบทองแดง เปลี่ยนกล้องมาใช้เลนส์ Zeiss และย้ายตัวอ่านลายนิ้วมือมาอยู่ด้านหลังเครื่องตามพิมพ์นิยมสมัยนี้ ด้านสเปคยังคงใช้ Qualcomm Snapdragon 630 แรม 4 GB หน่วยความจำ 32/64 GB แทบไม่ต่างจากปีที่แล้ว
แต่ที่ต่างจากปีที่แล้ว คือเปลี่ยนระบบปฏิบัติการจากเดิมที่ใช้ Android เต็มตัว มาเป็น Android One ซึ่งเป็น Android เวอร์ชันคลีนสุดจาก Google พร้อมรองรับการอัพเกรดเป็นเวอร์ชันใหม่ทันทีเมื่อ Google ปล่อยออกมา
Nokia 6 จะเริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกในเดือนเมษายนนี้ ในราคา 279 ยูโร หรือประมาณ 10,700 บาท
Nokia 7 Plus "จอใหญ่ไซส์ยาว ครั้งแรกของ Nokia"
ตัวที่สี่เป็นตัวรองท็อป Nokia 7 Plus เป็นรุ่นรองเรือธงของ Nokia ในปีนี้ ตัวเครื่องได้รับการออกแบบในทรง 18.5:9 ความกว้าง 6 นิ้ว ซึ่งเป็นหน้าจอทรงยาวเป็นครั้งแรกของ Nokia และยังมาพร้อมด้วยกล้องคู่จาก Carl Zeiss ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล หน่วยประมวลผล Snapdragon 660 แรม 4 GB ความจุเครื่อง 64 GB และยังรัน Android One เป็นตัวที่สองของ Nokia
Nokia 7 Plus จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้ ที่ราคา 399 ยูโร หรือ 14,000 บาท
Nokia 8 Sirocco "Android One ที่แพงสุดเท่าที่เคยมีมา"
ตัวสุดท้ายที่เปิดตัวคือ Nokia 8 Sirocco เป็นรุ่นเรือธงประจำปีนี้แทน Nokia 8 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ด้านดีไซน์ตัวเครื่องมาพร้อมขอบจอแบบ Edge ตามพิมพ์นิยม และยังมาพร้อมกับสเปคที่เรียกว่าแรงสุดของ Android One ก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น Snapdragon 835 แรม 6 GB ความจุตัวเครื่อง 128 GB หน้าจอ OLED ความละเอียด Quad HD กล้องสองตัวความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ลำโพงสเตอริโอพร้อมแอมป์ฯ สำหรับจูนเสียง และไมโครโฟนรับเสียงสามตัวเป็นต้น
นอกจากนี้มันยังมีฟังก์ชันที่ทัดเทียมรุ่นเรือธงอีกหลายๆ จุด ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ Fast Charge, Wireless Charging และความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นเป็นต้น เรียกว่าจัดเต็มสมกับเป็นเรือธงของ Nokia ในปีนี้จริงๆ
Nokia 8 Sirocco จะเริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกในเดือนเมษายนนี้เช่นกัน ที่ราคาแพงหน่อย 749 ยูโร หรือ 28,000 บาท!!!!!!!!!