เวลาช่างผ่านไปไวเสียจริง นับตั้งแต่มีกระแสสตาร์ทอัพเข้ามาในไทย จนกระทั่งตอนนี้บ้านเราอยู่กับวงการสตาร์ทอัพมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ปี ซึ่ง dtac accelerate ก็เป็นอีกหนึ่งหน่วยธุรกิจจากบริษัทโทรคมนาคมที่เข้ามาดำเนินการด้านสตาร์ทอัพ แถมยังรั้งตำแหน่งที่หนึ่งด้าน accelerator house ในไทยเสียด้วย และเพื่อเป็นการเดินหน้าต่อ dtac accelerate batch 6 “THE REAL” จึงเกิดขึ้นในปีนี้ ด้วยความฝันที่ยิ่งใหญ่กว่าปีก่อน ๆ คือการดันสตาร์ทอัพไทย ให้ไปไกลถึงระดับยูนิคอร์น
6 ปีแล้ว… ที่ผ่านมา dtac accelerate ทำอะไรบ้าง
5 ปีที่ผ่านมา โครงการ dtac accelerate ได้ปั้นสตาร์ทอัพไทยให้เกิดขึ้นมาไม่น้อยกว่า 34 รายจากที่มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 2,000 ราย และกว่า 70% ของผู้ที่เข้าโครงการทั้งหมด ยังได้รับการ funding หรือได้รับโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น Finnomena, ClaimDi, Giztix หรือ T2P ที่ได้รับการ funding ในระดับ Series A ด้วยเงินทุนไม่น้อยกว่าหลักล้าน หรือ Piggipo สตาร์ทอัพด้าน fintech ที่ขยายตลาดออกไปได้ทั้งในไทยและอาเซียน หรือแม้แต่ blogging อย่าง Storylog ที่ประสบความสำเร็จในการ exit ด้วยการถูกซื้อกิจการทั้งบริษัทเป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นการตอกย้ำความสำเร็จในการพัฒนาวงการสตาร์ทอัพในไทยของโครงการ dtac accelerate
แต่โอกาสก็ต้องมีอุปสรรค์ เพราะปัจจุบันสตาร์ทอัพไทยยังไม่สามารถก้าวไปถึงระดับ Series B หรือ Series C ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นสตาร์ทอัพระดับ Pre-seed กันแทบทั้งหมด ถ้านับเฉพาะ dtac accelerate เอง มีสตาร์ทอัพที่ได้รับการ funding ในระดับ Series A เพียงแค่ 3 ราย จากทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการ และอีก 8 บริษัทได้รับการระดมทุนในระดับ Seed เท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นว่าศักยภาพในการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพยังสามารถเติบโตได้อีก แม้ว่าในภูมิภาคเองจะมีสัดส่วนการลงทุนด้านสตาร์ทอัพเพียง 20% เท่านั้น
ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของคอนเซปท์ใหม่ของการแข่งขัน dtac accelerate batch 6 “THE REAL” ในปีนี้ เพื่อตอกย้ำ DNA ในการพัฒนาวงการสตาร์ทอัพในไทย ให้สามารถก้าวไปได้ไกล ถึงระดับยูนิคอร์น ถึงขั้นที่คุณเหน่ง สมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ dtac accelerate ได้ลั่นวาจาออกมาเลยว่า “ผมจะไม่หยุด ถ้าสตาร์ทอัพไทยยังไม่ถึงยูนิคอร์น”
ปีนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
สำหรับปีนี้ก็เหมือนในทุก ๆ ปี คือ dtac จะเปิดรับสตาร์ทอัพที่สนใจ หรือผู้ที่มีแนวคิดในการทำสตาร์ทอัพ มาทำการ Pitching แข่งกันเสนอไอเดีย เพื่อหาทีมที่ดีที่สุดเข้าร่วมโครงการ dtac accelerate และรับโอกาสในการรับเงินลงทุนสูงสุดหนึ่งล้านห้าแสนบาทจาก dtac พร้อมโอกาสในการเติบโตผ่านกลุ่มลูกค้าของ dtac และ telenor กว่า 214 ล้านราย ซึ่งปีนี้ dtac accelerate จะเน้นภายใต้กรอบแนวคิด “Anything Mobile, Anything Internet” เพื่อตอบรับต่อกระแส IoT, Blockchain, AI หรือแม้แต่ Machine Learning ที่กำลังมาแรงใน พ.ศ. นี้
ที่พิเศษกว่าคือในปีนี้ dtac accelerate ยังได้รับการคัดเลือกจาก Google APAC ให้เป็น Exclusive Partner ของ Google Launchpad Accelerator ซึ่งจะทำให้สตาร์ทอัพที่ชนะการคัดเลือกในปีนี้ จะได้รับโอกาสในการขยายและรับเงินทุนจากนักลงทุนทั่วโลกผ่านโครงการ Google Launchpad Accelerator อีกด้วย อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับ LINE ประเทศไทย เพื่อผลักดันให้ผู้ผ่านการคัดเลือกสามารถเข้า Fast Track ของโครงการ LINE Scaleup โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพเฉพาะทางของ LINE อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจ สามารถเรียกใช้ API ของ LINE เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันให้ตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้าของ LINE กว่า 42 ล้านราย และได้รับโอกาสในการเติบโตในประเทศกลุ่มเป้าหมายหลักของ LINE ได้อีกด้วย
อยากเข้าร่วมต้องทำไง?
ใครที่อยากเข้าร่วมโครงการ dtac accelerate นั้นไม่ยาก โครงการเปิดรับสมัครสตาร์ทอัพที่สนใจแล้วตั้งแต่วันนี้ – 11 เมษายนนี้ โดยผู้ที่สนใจสามารถเลือก Track ที่ต้องการสมัครได้ถึงสองแบบดังนี้
- INCUBATION TRACK : มาแค่ตัว หัวใจ และสไลด์ที่ใช้นำเสนอเท่านั้น ถ้าไอเดียโดน dtac accelerate ก็พร้อมผลักดันให้เกิดขึ้นจริง
- ACCELERATION TRACK : อยากโตมากกว่านี้ นำเสนอไอเดียและโครงการที่ทำอยู่ เพื่อรับคำแนะนำในการต่อยอดอย่างก้าวกระโดดผ่าน dtac accelerate ที่จะปั้นให้สตาร์ทอัพมีความเข้มข้นพร้อมสยายปีกสู่ระดับยูนิคอร์นอย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากการเปิดรับสมัครทั้งสอง Track แล้ว dtac accelerate เองยังได้เปิด Track ที่ 3 คือ GLOBAL EXPANSION TRACK ซึ่งเป็น Track พิเศษที่ dtac accelerate มองเห็นโอกาสในการเติบโตในระดับโลก ด้วยหลักสูตรการปั้นสตาร์ทอัพระดับเข้มข้น ทั้งลึก แน่น รู้จริง เพื่อเป็นตัวจริงในสากลโลก Track นี้ไม่ต้องสมัคร ไม่ต้องทำอะไรนั้น ถ้าคุณดีจริง dtac accelerate จะเข้าไปหาคุณและเชิญเข้าร่วม Track นี้เอง
เข้าร่วมแล้วจะได้อะไรบ้าง
สิ่งที่สตาร์ทอัพทุกรายจะได้จาก dtac accelerate คือโครงการฝึกอบรมระดับเข้มข้นจากปรมาจารย์ด้านสตาร์ทอัพและพันดาวันกว่า 17 ท่าน ซึ่งทั้ง 17 ท่านจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 ทีม ดังต่อไปนี้
- #TeamBi คุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย และ ทอม ปตินันต์ วชิรมน ผู้ร่วมก่อตั้ง ScoutOut
- #TeamDonnie คุณอิศราดร หะริณสุต ผู้ร่วมก่อตั้ง Omise ระบบชำระเงินออนไลน์ และ นพ.คณพล ภูมิรัตนประพิณ ผู้ก่อตั้ง Health at Home
- #TeamJack คุณกิตตินันท์ อนุพันธ์ CEO & Founder of ClaimDi และ โหน่ง สิทธิศักดิ์ วงศ์สมนึก ผู้ร่วมก่อตั้ง Giztix
- #TeamMoo คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ CEO Ookbee และ ปิปโป้ เปรมวิทย์ ศรีชาติวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Fictionlog
- #TeamNokJune คุณมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SEA (Garena) ประเทศไทย และ จุฑาศรี คูวินิชกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและ Ex-Director, Grab ประเทศไทย และ มีอิง ดารินทร์ สุทธพงษ์
- #TeamBote คุณไผท ผดุงถิ่น ผู้ก่อตั้ง Builk และ เบล พงษ์ลาด พะเนียงเวทย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Freshket
- #TeamShannon คุณชาริณี “แชนนอน” กัลยาณมิตร และ กั๊ก สุพิชญา สูรพันธุ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Piggipo
- #TeamWai คุณธนาวัฒน์ มาลาบุปผา CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง priceza.com และ บอย สุวัฒน์ ปฐมภควันต์ ผู้ก่อตั้ง Skootar
นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมโครงการยังจะได้รับโอกาสในการเข้าร่วม Bootcamp เสริมทักษะและพัฒนาความสามารถไปกับไฮไลต์กูรูระดับโลก ที่จะเข้าร่วมบรรยายในหัวข้อต่าง ๆ ให้ได้รับพังกันดังต่อไปนี้
- Nir Eyal, Product Design “ผู้เขียนหนังสือ Hooked: How to Build Habit-Forming Products”
- Jacom Greenspan, UI/UX Expert “เจ้าพ่อ UI/UX แห่ง Google Launchpad Accelerator”
- Hai Habot, OKR “ปรมาจารย์ทางด้าน OKR ระดับสูงจากซิลิคอนวัลเลย์”
- Scott Bales, Lean Startup “ผู้เขียนหนังสือ Mobile Ready และหนึ่งในกูรูผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับศาสตร์ด้าน Lean Startup และ Customer Validation”
- กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล “เจ้าพ่อสตาร์ทอัพเมืองไทย ผู้นำแนวคิดและวิธีการเริ่มต้นทำธุรกิจ Tech Startup จากซิลิคอนวัลเลย์มาใช้ในประเทศไทย”
ที่สำคัญที่สุด ผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินสนับสนุนการลงทุนมูลค่าสูงสุดกว่า 1,500,000 บาท และสิทธิ์ในการเข้าใช้ Hangar Co-working Space ที่ชั้น 2 อาคารจามจุรีสแควร์ รวมถึงสิทธิ์ในการเข้าถึง API สำคัญ ๆ ระดับโลก สิทธิ์ในการทำตลาดร่วมกับลูกค้า dtac, telenor และ LINE กว่า 250 ล้านราย และสิทธิ์ในการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ dtac accelerate จะนำมาเสนอให้อย่างต่อเนื่อง และผู้ที่ชนะโครงการนี้ จะยังได้รับโอกาสในการเติบโตอีกมากมายจากทั้ง dtac accelerate และพันธมิตร ดังต่อไปนี้
- สิทธิ์ในการเข้าร่วมงาน Google Launchpad Accelerator ที่ซิลิคอนวัลเลย์ สหรัฐอเมริกา
- สิทธิ์ในการเข้าร่วมงานและออกบูธ Web Summit 2018 ณ กรุงลิสบอน โปรตุเกส
- สิทธิ์ในการเข้าร่วมงานและร่วมออกบูธในงาน Techcrunch Distupt San Francisco 2019 ณ ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
- สิทธิ์ในการเข้าร่วมงาน Line Developer Day 2018 ที่สำนักงานใหญ่ของ LINE ในประเทศญี่ปุ่น
สรุป “อยากไปไกล ต้องไม่ใช่แค่ฝัน”
เชื่อว่าวงการสตาร์ทอัพไทยยังสามารถไปได้อีกไกลมาก ยิ่งช่วงนี้กระแส Digital Disruption มาแรง นอกจากองค์กรที่ต้องขับเคลื่อนให้ประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงตามได้แล้วนั้น สตาร์ทอัพเองก็มีส่วนช่วยที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สามารถไปได้ไวกว่าที่คิด เชื่อว่าสตาร์ทอัพจำนวนไม่น้อยก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ไปด้วยกันผ่านโครงการ dtac accelerate ในครั้งนี้
แต่เชื่อว่ามีคนอีกไม่น้อยที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่จะช่วยเหลือในการพัฒนาสตาร์ทอัพไทย ถ้าคุณพร้อม ถ้าคุณกล้าก็อย่ารอช้า มาร่วมโครงการ dtac accelerate batch 6 “THE REAL” ในปีนี้ แล้วคุณจะได้ไอเดียดี ๆ ที่จะกลับไปต่อยอดธุรกิจของคุณอีกไม่น้อยครับ