ดูเหมือนว่าปัญหาของ HTC จะกลายเป็นคลื่นมรสุมที่ถาโถมเข้าใส่ผู้ผลิตสินค้าจากไต้หวันลูกแล้วลูกเล่า โดยตั้งแต่ที่ได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลไต้หวัน ในการปล่อยขายกิจการสมาร์ทโฟนให้กับทาง Google ด้วยดีล 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐแล้วนั้น สถานการณ์ในเชิงรายได้ช่วงต่อมาของบริษัทก็ดูจะไม่สามารถกระเตื้องขึ้นมาได้เลย ซึ่งทำให้ปี 2017 นั้นมีรายได้รวมต่อปีต่ำที่สุดในรอบ 13 ปีมาแล้ว
และล่าสุดท่ามกลางกระแสข่าวเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน HTC U12 เรือธงประจำปี 2018 ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนก่อนการเปิดตัวที่จะเกิดขึ้น สถานการณ์ทางการเงินของบริษัทก็ยิ่งช้ำเลือดช้ำหนองมากขึ้น โดยรายได้ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2018 นั้น ถูกเปิดเผยว่าเป็นสัดส่วนตัวเลขที่ทำได้น้อยที่สุดในรอบ 13 ปี อีกเช่นเดียวกัน บริษัทมีรายได้เพียง 89.3 ล้านเหรียญดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ลดลง 23 เปอร์เซ็นต์ จากเดือนมกราคมที่ทำผลงานเอาไว้ 109.8 ล้านเหรียญดอลลาร์ไต้หวันใหม่ และลดลง 44 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ในปี 2017 ที่เคยมีรายได้ 128.5 ล้านเหรียญดอลลาร์ไต้หวันใหม่
รายได้หลักของบริษัทถูกประเมินว่ามาจากสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์สวมใส่ศรีษะ Virtual Reality ที่มีสัดส่วนค่อนข้างทรงตัว ในขณะที่สมาร์ทโฟนอย่าง U11+ ไม่สามารถช่วยสร้างรายได้อย่างที่คาดหวังจากการวางจำหน่ายสินค้าในจำนวนจำกัด เช่นเดียวกับ U11 Eyes ที่เปิดตัวมาแล้วร่วมเดือน แต่ดูผลงานแล้วอาจจะไม่เข้าตาอีกเช่นเดียวกัน ในขณะที่ทางเรือธงอย่าง U12 นั้นคาดหมายว่าจะเริ่มขายได้ในช่วงใดช่วงหนึ่งของเดือนเมษายน