
One of many Qualcomm buildings is shown in San Diego, California November 3, 2015. REUTERS/Mike Blake
ความพยายามของ Broadcom Limited ที่ตามตื้อเข้าซื้อกิจการ Qualcomm มามาแล้วกว่าสามเดือนตั้งแต่ช่วงพฤศจิกายนของปีที่แล้ว จนดูเหมือนว่าทางบริษัทเอกชนสหรัฐจากเมืองซานดีเอโก้ กำลังจะใจอ่อนด้วยการแบะท่ายื่นข้อเสนอ 90 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ซึ่งอาจจะมีตีมูลค่าได้ไม่น้อยกว่า 1.61 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเกิดการควบรวมกลายเป็นอภิมหากิจการของผู้ผลิตพัฒนาชิปเซ็ต ก็คงจะต้องเป็นหมันไปเรียบร้อยแล้ว
โดยในช่วงวันจันทร์ที่ 12 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกาทางรัฐบาลของประธานาธิปดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งบล๊อคห้ามซื้อขายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระบุถึงสาเหตุที่หากเกิดดีลการควบรวมกิจการขึ้นมาแล้ว อาจจะเป็นการสร้างความสุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศขึ้นมาได้ ทั้งนี้ยังกำชับด้วยว่าทั้งสองบริษัท จำเป็นที่จะต้องยุติการเจรจาใดๆ ก็ตามที่อยู่บนโต๊ะลงอย่างถาวรในทันที
ในช่วงที่ผ่านมาดีลข้อเสนอเข้าซื้อกิจการ Qualcomm นั้นได้ถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมธิการที่ทำงานดูแลเกี่ยวกับการเข้ามาลงทุนของเอกชนต่างชาติ (Commitee on Foreign Investment in the United States / CFIUS) ซึ่งมีทางกระทรวงการคลังสหรัฐนั่งเป็นประธาน ได้แสดงความเป็นกังวลต่อข้อเสนอที่อาจจะเกิดช่องทางให้เงินทุนต่างชาติเข้ามาควบคุมการทำงานของธุรกิจในท้องถิ่น โดยเฉพาะความเสี่ยงที่ทาง Broadcom อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับทุนต่างชาติกลุ่มอื่นๆ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อเนื่องในการพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายสื่อสาร 5G ที่กำลังจะเป็นคลื่นขับเคลื่อนการลงทุนลูกต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ Steven Mnuchin ระบุว่าการตัดสินใจใช้คำสั่งบล๊อคการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวนี้ อยู่บนพื้นฐานของความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาเป็นสำคัญ และทาง Qualcomm ก็รับลูกคำสั่งจากทำเนียบขาวในทันที โดยระบุว่าบรรดาตัวแทนของ Broadcom ที่รับสมัครลงเลือกตั้งเข้าสู่คณะบอร์ดบริหารประจำวาระ 2018 นั้น ขาดคุณสมบัติไปโดยชอบธรรม