บริษัทผู้ให้บริการต่างๆ บนอินเตอร์เนตรายใหญ่อย่าง Google อาจจะได้รับข่าวดีเกี่ยวกับผลการสำรวจตลาดที่ระบบปฏิบัติการ Android สามารถควบคุมส่วนแบ่งก้อนใหญ่เอาไว้ได้ทั่วโลก แต่บางครั้งก็กลายเป็นเรื่องปวดหัวขึ้นมาได้เหมือนกัน เมื่ออ้างอิงการเปิดเผยจากหนังสือพิมพ์ Financial Times ระบุว่าทาง Google เตรียมจะถูกสอบสวนในข้อกล่าวหาที่ว่ามีดำเนินธุรกิจด้วยพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการผูกขาดตลาด ซึ่งอาจจะถูกสั่งปรับเงินหลักพันล้านยูโร
ในเบื้องต้นข้อกล่าวหาเกี่ยวข้องกับระบบการค้นหาข้อมูล ที่จะแสดงผล Google Shopping เป็นผลการค้นหาลำดับแรกสุดโดยตลอด ซึ่งอาจจะเข้าข่ายพฤติกรรมที่มีความพยายามผูกขาดตลาด สุ่มเสี่ยงต่อการถูกปรับเงิน อีกทั้งต้องปรับปรุงการแสดงผลการค้นหา ด้วยการลดระดับเรตติ้งลิ้งค์ของตนเองลงมา และนอกจากนั้นยังถูกสอบสวนในประเด็นของการบังคับผู้ผลิตเครื่องให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่นของ Google มาตั้งแต่โรงงาน และอีกทั้งการใช้เครือข่ายโฆษณาที่ถูกใช้งานอย่างไม่เป็นธรรม ก็อยู่ในขอบข่ายการพิจารณาทั้งสิ้นสามคดีหลักๆ
ทางด้านของ Google กล่าวอ้างว่าตลาด Online Shopping นั้นมีการแข่งขันสูง และได้ให้ทัศนะว่า Amazon คือผู้เล่นที่ครองตลาดการค้นหาสินค้าจากเครื่องมือสืบค้นได้มากถึงสามส่วน ในขณะที่ Google มีส่วนแบ่งเพียง 14 เปอร์เซ็นต์ อาจจะดูน่าเชื่อถือแต่คำกล่าวอ้างนี้ได้ถูกฝ่ายตรวจสอบปัดตกไป ค่าปรับถูกประเมินเอาไว้ที่ 1.2 พันล้านเหรียญยูโร อาจจะดูเยอะแต่ถือว่าน้อย เมื่อเทียบกับบทลงโทษสูงสุดในข้อหาผูกขาดตลาดที่สั่งปรับ 10 เปอร์เซ็นต์จากเงินรายได้ทั้งปี ซึ่งนั่นหมายถึงเงินอย่างน้อย 7.6 พันล้านยูโร เลยทีเดียว
ทั้งนี้ Google ยังมีโอกาสในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลยุติธรรม European Court of Justice ได้อยู่เพื่อชะลอความเสียหาย ซึ่งกระบวนการพิจารณาบทลงโทษอาจจะต้องกินเวลานานไปอีกหลายปี