เปิดฉากกันไปอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับสัปดาห์งาน Worldwide Developers Conference (WWDC) ประจำปี 2018 ซึ่งในโอกาสดังกล่าวนี้ทาง Apple เลือกใช้เวทีแห่งนี้ในการเปิดเผยรายละเอียดในเบื้องต้นต่างๆ เกี่ยวกับซอฟท์แวร์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น iOS 12, macOS Mojave หรือ tvOS 12 และอีกหนึ่งพระเอกของงานที่ขาดไปไม่ได้เลย คือ watchOS ซึ่งในปีนี้เปิดตัวออกมาเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นที่ 5 สำหรับ Apple Watch
ความสามารถใหม่หลักๆ ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาใน watchOS 5 ก็น่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของสายออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์ Auto-workout detection จะใช้การตรวจจับการเคลื่อนไหวและอัตราชีพจรของผู้ใช้งาน ในการเก็บข้อมูลออกกำลังกายได้โดยอัตโนมัติ แทนที่จากเดิมเวอร์ชั่นก่อนๆ เราจะต้องกดเริ่มใช้งานกิจกรรมเหล่านี้ก่อน ซึ่งบางครั้งอาจจะพลาดหลงลืมทำให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ไปบ้าง และเช่นเดียวกันระบบจะมีการแจ้งเตือนให้ปิดแอปพลิเคชั่นหากว่าการออกกำลังได้เสร็จสิ้นไปแล้ว
โหมดกิจกรรมออกกำลังกายยังเพิ่มในส่วนของโยคะและเดินขึ้นเขา (Hiking) เข้ามาเป็นสองกิจกรรมล่าสุด สามารถรองรับการตรวจวัดอัตราชีพจรและระยะเวลา ระยะทาง จำนวนการเผาผลาญแคลอรี่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น และในส่วนของการออกกำลังด้วยการวิ่ง ก็จะแบ่งโหมดเป็นวิ่งแบบกลางแจ้งและในร่มได้แล้ว มีตัวช่วยในการนับก้าวและแจ้งเตือนข้อมูลประกอบต่างๆ เช่นความเร็วปัจจุบัน และความเร็วเฉลี่ยบนหน้าปัดนาฬิกา
อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่อย่างการใช้งาน Apple Watch เป็นอุปกรณ์วิทยุคลื่นสั้น Walkie-Talkie ได้ถูกเพิ่มเติมเข้ามาในระบบปฏิบัติการ watchOS 5 รวมไปถึงการใช้งานแอปพลิเคชั่น Podcasts, Music, Pandora และ Audible ในการซิงค์ฐานข้อมูลสำหรับการฟังแบบออฟไลน์ พร้อมกับการปรับปรุงในส่วนของการเรียกใช้งาน Siri ที่คล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทางลัดและข้อแนะนำ เช่น อากาศ เส้นทางการจราจร สุดท้ายแล้ว Apple Watch สามารถสนับสนุนการใช้งานทดแทนบัตรนักเรียนนักศึกษา ในการปลดล็อคประตูเข้าอาคารห้องเรียน จ่ายเงินค่าอาหารหรือค่าเครื่องซักผ้า ในเบื้องต้นระบบจะรองรับกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา เช่น Duke, Alabama, Oklahoma เป็นต้น