แม้ว่าช่วงไตรมาสที่ผ่านมาจะมีการเปิดเผยถึงข่าวดีสั้นๆ ของ HTC ที่สามารถกลับมาอยู่ในสถานภาพที่มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจอีกครั้ง อันเป็นผลมาจากข้อตกลงทางธุรกิจมูลค่า 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ที่ทาง Google เข้ามาซื้อตัวบรรดาวิศวกรและทีมงานออกแบบสมาร์ทโฟนไปเสริมขีดความสามารถของโปรเจคโทรศัพท์ตระกูล Pixel
อย่างไรก็ดีหากมองในแง่ของธุรกิจหลักของบริษัทในการขายสมาร์ทโฟนหรือแว่นตาจำลองประสบการณ์ใช้งานสามมิติ Virtual Reality ในตระกูล Vive แล้ว กลับยังไม่สามารถทำผลงานกระเตื้องได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยรายได้ในช่วงมิถุนายน เดือนแรกของการเปิดตัววางจำหน่าย HTC U12+ เรือธงประจำปี 2018 ก็ยังอยู่ในเกณฑ์หดตัวต่อเนื่อง มีรายได้เข้ามาเพียง 2.23 พันล้านเหรียญดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ลดลง 8.81 เปอร์เซ็นต์จากเดือนพฤษภาคม และลดลงมากถึง 67.6 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบปีก่อน
ทำให้ผลงานในภาพรวมไตรมาส 2 ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายนของ HTC มีรายได้รวมอยู่ที่ 6.77 พันล้านเหรียญดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ลดลงอย่างหนัก 58 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2017 ที่เคยมีรายได้ 1.61 หมื่นล้านเหรียญดอลลาร์ไตหวันใหม่ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการแถลงปรับโครงสร้างธุรกิจระลอกล่าสุดด้วยการปลดพนักงานที่เกี่ยวข้องกับสายการผลิตจำนวน 1,500 ตำแหน่ง ด้วยความหวังที่จะลดค่าใช้จ่ายและนำพาบริษัทกลับสู่เส้นทางของการทำกำไรอีกครั้ง ภายในสิ้นปี 2018