ในที่สุดเสียงนกเสียงกาที่ว่า iPhone X ตั้งราคาแพงไปบ้าง ขายไม่ออกบ้าง กำลังจะเลิกผลิตที่กังวาลดังไกลมาตั้งแต่ต้นปี ป่านนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่ามุดหายไปไหนหมดแล้ว ภายหลังจากที่ Apple แถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของบริษัทระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ซึ่งพบว่ามีรายได้เพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ 2017 และยังเป็นผลประกอบการปิดไตรมาสมิถุนายนที่ดีที่สุดของบริษัทด้วย นอกจากนั้นก็ยังเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกันที่เลี้ยงอัตราการเติบโตด้วยระดับเลขสองหลัก
โดยผลงานปิดไตรมาสมิถุนายนของ Apple ประจำปี 2018 ทำรายได้เข้ามาทั้งหมด 5.32 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 4.54 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปีก่อน รายได้ในภาพรวมมีการเติบโตมากขึ้นทุกตลาด อเมริกาเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ จีนแผ่นดินใหญ่ เพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์ ตลาดเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น ยอดการจัดจำหน่ายโทรศัพท์ iPhone ทำออกมาได้อยู่ที่ 41.3 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 41.02 ล้านเครื่อง แม้ว่าจำนวนจะเท่ากันแต่รายได้จากกลุ่ม iPhone มีส่วนต่างเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์
ด้านของ iPad มียอดการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 11.5 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจาก 11.4 ล้านเครื่อง แต่รายได้ในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ และเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac มียอดจัดจำหน่ายอยู่ที่ 3.72 ล้านเครื่อง ลดลงจาก 4.29 ล้านเครื่อง ส่งผลให้รายได้ของแผนกลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามรายได้ในกลุ่มธุรกิจบริการ มีรายได้เข้ามาที่ 9.54 พันล้านเหรียญสหรัฐ และสินค้าอื่นๆ เช่น Apple Watch, AirPods, HomePod นั้นมีรายได้เข้ามาที่ 3.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งสองแผนกมีรายได้เติบโตขึ้นมาจากปีก่อน 31 และ 37 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ