ท่ามกลางกระแสมรสุมของ Uber ที่ต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งของข้อกฏหมายในแต่ละประเทศที่เข้าไปบุกเบิกทำตลาดจำนวนมาก รวมไปถึงปัญหาส่วนตัวของผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Travis Kalanick ที่ต้องถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งประธานบริหาร และอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวไม่สู้ดียังเกิดขึ้นตามมาในช่วงสัปดาห์กลางเดือนมิถุนายน เมื่อมีการประกาศว่า Uber จะถอนตัวจากการให้บริการในตลาดประเทศรัสเซียอย่างเป็นทางการ ภายหลังจากเปิดบริการครั้งแรกปี 2014 โดยตามหลังการถอนตัวจากตลาดเมืองจีน ด้วยการควบรวมกิจการกับบริษัท Didi Chuxing
โดยหน่วยธุรกิจ Uber ในรัสเซียนั้นจะเดินหน้าเข้าควบรวมกิจการกับ Yandex เครือธุรกิจยักษ์ใหญ่ในท้องถิ่นที่มีบริการในลักษณะเดียวกัน กลายเป็นบริษัทใหม่ในตลาดที่มีมูลค่า 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐทันที ซึ่งการให้บริการจะครอบคลุม 127 เมือง ในกลุ่ม 6 ประเทศ ตั้งแต่รัสเซีย อาเซอร์ไบจาน อาร์เมเนีย เบลารุส จอร์เจีย และ คาซัคสถาน ก้าวต่อไปจากนี้ทาง Uber จะร่วมลงทุน 225 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือหุ้นเป็นจำนวน 36.6 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ Yandex จะร่วมลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือหุ้นเป็นจำนวน 59.3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะให้บริการทั้งรถแท๊กซี่ออนไลน์เป็นธุรกิจหลัก เช่นเดียวกับบริการ UberEATS บริการจัดส่งอาหารคาดหมายว่าจะดำเนินการลุล่วงภายในช่วงสิ้นปี 2017
จำนวนผู้ใช้บริการแท๊กซี่ออนไลน์ต่อปีของ Yandex Taxi นั้นมีมูลค่ารวมกัน 1.01 พันล้าเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ทาง Uber มียอดรวมในรัสเซียอยู่ที่ 566 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนั้นทางกลางการประสบภาวะขาดทุนในตลาดอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Uber ก็ยังตกเป็นข่าวว่าอาจจะเดินหน้าแผนการควบรวมกิจการกับบริษัท Ola และ Grab ตามลำดับ