การเปิดตัววางจำหน่ายของสมาร์ทโฟนเรือธง Apple iPhone XS / XS Max ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในกลุ่มตลาดหลักไปแล้ว ซึ่งก็เรียกว่าอาจจะเป็นความประทับใจแรกที่ไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ เพราะ คล้อยหลังไม่นานก็เกิดคำถามจากลูกค้ากลุ่มแรกๆ ผู้ซื้อเครื่องและออกมาเปิดประเด็นบนฟอรั่ม MacRumors ระบุว่าเรือธงปี 2018 ดูจะรับสัญญาณโทรศัพท์ไม่ได้ดีเท่ากับ iPhone X เมื่อปีก่อน มีการพูดคุยกันไปกว่า 15 หน้า
อย่างไรก็ดีข้อสรุปในเบื้องต้นนั้น ระบุว่าปัญหาที่ลูกค้าของ iPhone XS / XS Max กลุ่มแรกพบนั้นจะเป็นผู้ใช้บริการของ Verizon เครือข่ายอันดับหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลายๆ ระบุว่าการจับสัญญาณ 4G LTE นั้นได้ขีดน้อยกว่า iPhone X ในจุดทดสอบเดียวกัน ซึ่งอาจจะเป็นจุดพื้นที่ปลายสัญญาณ แต่เมื่อเมื่อสลับลงไปเป็นเน็ตเวิร์ค 3G CDMA แล้วกลับใช้งานได้ราบรื่น ในขณะที่ลูกค้าจากเครือข่ายอันดับสองอย่าง AT&T ระบุว่าไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากเรือธงทั้งสองปี
ซึ่งก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการตั้งคำถามว่า iPhone X ที่รับสัญญาณได้ดีกว่าบนเครือข่ายของ Verizon นั้นก็เป็นเพราะการเลือกใช้งานชิปโมเด็มจาก Qualcomm หรือไม่ ขณะที่เครื่องซึ่งวางจำหน่ายกับเครือข่าย AT&T นั้นเป็นรุ่นที่ใช้ชิปโมเด็มของ Intel มาอยู่ก่อนแล้ว เลยทำให้อาจจะไม่สังเกตุถึงความแตกต่างได้มากนัก แต่สำหรับ iPhone XS / XS Max นั้นเปลี่ยนมาใช้บริการชิปโมเด็มจาก Intel แล้วทุกโมเดล
นอกจากนั้นยังพบปัญหาจากลูกค้าอีกกลุ่มที่ระบุว่า iPhone XS / XS Max อาจจะรับสัญญาณเครือข่าย Wi-Fi บนคลื่นความถี่ 5GHz ได้ไม่ดีเท่ากับ iPhone X อีกเช่นกัน โดยดูเหมือนว่าจะมีปรับแต่งให้เรือธงประจำปี 2018 เลือกจับสัญญาณจากคลื่นที่แรงที่กว่าอย่าง 2.4GHz เป็นหลัก ก็ย่อมที่จะทำให้เกิดช่องว่างความแตกต่างของคุณภาพสัญญาณความเร็วอินเตอร์เนตขึ้นมาได้ ทั้งนี้ก็หวังว่า Apple จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้จากการอัพเดตซอฟท์แวร์ที่จะเกิดขึ้นตามมา
