เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนตัวแรกที่ใช้ชิป Kirin 980 อย่าง Huawei Mate 20 Series ซึ่งครั้งนี้ Huawei พาพี่น้องตระกูล Mate 20 มาร่วมเปิดตัวกันถึง 4 รุ่น!!! ซึ่งทั้ง 4 รุ่นจะมีอะไรเด็ดๆ ที่เป็นจุดขายบ้างนั้น มาไล่ดูกันได้เลย

Huawei Mate 20 "ฉลาดกว่าในขนาดเล็ก"

รุ่นแรกที่เปิดตัวก็คือ Mate 20 ที่เป็นรุ่นเล็กสุดของตระกูล แต่ขนาดและความใหญ่แทบไม่ต่างจากรุ้นอื่น ๆ ที่เปิดตัวมาพร้อมกัน โดย Mate 20 มีสเปคโดยสรุปดังนี้
- หน้าจอขนาด 6.53 นิ้วบนความละเอียด FHD+ เป็นหน้าจอแบบ IPS Display รองรับค่าสี Wide Gamut ที่ระดับ P3
- กล้องหลัก Leica Triple Camera มาพร้อม 3 เลนส์ เลนส์ Wide Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ค่ารับแสง f/1.8 เลนส์ Leica Ultra Wide Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารับแสง f/1.4 และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารับแสง f/2.4 รองรับ Optical Zoom ที่ 3 เท่า AI Digital Zoom สูงสุด 10 เท่าโดยไม่เสียความละเอียด และรองรับ Huawei AIS ช่วยลดการสั่นของภาพได้เป็นอย่างดี
- บอดี้เป็นกระจกผิวมันแบบ Huawei Nova 3 และมีตัวอ่านลายนิ้วมืออยู่ด้านหลังเครื่อง
- แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อมรองรับ Huawei SuperCharge
Huawei Mate 20 Pro "ฉลาดขั้นสุด กับเทคโนโลยีขั้นสูง"

รุ่นต่อมาที่เปิดตัวพร้อมกันเลยคือ Mate 20 Pro เป็นรุ่นใหญ่สุดของตระกูล อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ที่คิดและพิถีพิถันอย่างดีที่สุด มีสเปคและความแตกต่างจาก Mate 20 รุ่นเล็กดังนี้
- หน้าจอขนาด 6.39 นิ้วแบบ Dual Edge (ขอบโค้งข้างแบบเดียวกับ Samsung) บนความละเอียด QHD+ เป็นหน้าจอแบบ OLED Display รองรับค่าสี Wide Gamut ที่ระดับ P3 พร้อมรองรับมาตรฐาน HDR10
- กล้องหลัก Leica Triple Camera มาพร้อม 3 เลนส์ เลนส์ Wide Camera ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ค่ารับแสง f/1.8 เลนส์ Leica Ultra Wide Camera ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ค่ารับแสง f/1.4 และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารับแสง f/2.4 รองรับ Laser Focus/PDAF/Contrast Focus รวมถึงยังรองรับ Optical Zoom ที่ 3 เท่า AI Digital Zoom สูงสุด 10 เท่าโดยไม่เสียความละเอียด และรองรับ Huawei AIS
- ระบบความปลอดภัยชั้นสูงที่รักษาความปลอดภัยได้อย่างรัดกุม เริ่มตั้งแต่เซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือฝังอยู่บนหน้าจอ ระบบ 3D Face Unlock ที่ใช้กล้องหน้าร่วมกับเซ็นเซอร์อินฟราเรด และ Dot Projector ตรวจจับความตื้นลึกของใบหน้าได้
- แบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh รองรับ Huawei SuperCharge ด้วยหัวชาร์จ 40 วัตต์!! สามารถชาร์จไฟกลับเข้าเครื่องได้สูงถึง 70% ในเวลาเพียง 30 นาที
- รองรับ Fast Wireless Charging ที่กระแสไฟสูงสุด 15 วัตต์ รวมถึงเป็นมือถือตัวแรกของโลกที่รองรับ Wireless Reverse Charging สามารถชาร์จไฟกลับไปให้กับอุปกรณ์อื่น (เช่น iPhone XS) แบบ Wireless Charging ได้
- ตัวกล้องหน้ารองรับเทคโนโลยี 3D Depth Sensing สามารถใช้สแกนวัตถุภายนอกเพื่อสร้างเป็นวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ด้วยเทคโนโลยี AR
- รองรับเทคโนโลยีกันน้ำสูงสุดที่ IP68 ลงน้ำได้ลึกถึง 2 เมตร นาน 30 นาที และเมื่อใส่เคส Huawei Snorkeling Case สามารถลงน้ำได้ลึกถึง 5 เมตร ทำให้สามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้อย่างอิสระ
Porsche Design Mate 20 RS "ฉลาดในแบบหรูหรา"

ตัวที่ 3 เป็นรุ่นอัพเกรดของ Mate 20 Pro ที่มาพร้อมความหรูหราในทุกสัมผัสจาก Porsche Design โดยเปลี่ยนรูปแบบการออกแบบหลังเครื่องจากกระจกเป็นหนังแท้ผสมกับแก้วอย่างดี และพิถีพิถันในทุกรายละเอียดในการประกอบเพื่อให้มีความมั่นคงและแข็งแรงมากที่สุด สมกับความหรูหราของตัวเครื่องที่ถูกคัดสรรเพื่อคนพิเศษโดยเฉพาะ
สำหรับสเปคทั้งหมด ยืนพื้นที่ Mate 20 Pro ทุกจุด เว้นแต่ Mate 20 RS ได้ตัดทอนความสามารถในการกันน้ำออกไป (ลงน้ำไม่ได้) และปรับ UX ภายในจากเดิมที่เป็น EMUI9 เป็น EMUI for Porsche Design ที่เปลี่ยนรายละเอียดการออกแบบซอฟต์แวร์ภายในให้เหมาะสมกับความเป็น Porsche Design ตัวนี้
Huawei Mate 20 X "ฉลาดสำหรับเกมเมอร์!"

ตัวสุดท้ายเป็นรุ่นพิเศษที่ Huawei ได้พัฒนาขึ้นเพื่อตอบรับต่อตลาดเกมเมอร์โดยเฉพาะ ซึ่งเดิม Huawei ได้ใช้ Honor Play บุกตลาดนี้ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ Huawei ออกรุ่นเรือธงแยกสำหรับกลุ่มนี้โดยเฉพาะ และต่อกรกับเครื่องคอนโซลอย่าง Nintendo Switch โดยตรง
สำหรับสเปคทั้งหมด Huawei ยืนพื้นที่ Mate 20 Pro เช่นเดียวกับตัว Mate 20 RS แต่เปลี่ยนรายละเอียดภายในบางจุด ดังต่อไปนี้
- หน้าจอขนาด 7.2 นิ้วแบบ 2.5D บนความละเอียด FHD+ เป็นหน้าจอแบบ OLED รองรับค่าสี Wide Gamut ที่ระดับ P3 พร้อมรองรับมาตรฐาน HDR10 และรองรับปากกา Huawei M-Pen เขียนบนหน้าจอได้โดยตรง
- ลำโพงสเตอริโอคู่พร้อมเทคโนโลยีจำลองเสียงแบบ 7.1 CH พร้อมรองรับ Dolby Atmos ทั้งขณะใช้งานแบบ Speaker Mode และแบบ Headset Mode
- มาพร้อมระบบระบายความร้อน Huawei SuperCooling โดยใช้ Liquid Metal Cooling แบบ Multi Dimensional รวมถึงใช้ Vapour Chamber ร่วมกับ Graphene Film ทำให้ช่วยระบายความร้อนที่เกิดขึ้นจากการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
- ระบบรักษาความปลอดภัยลดเหลือเพียงตัวอ่านลายนิ้วมือด้านหลังเครื่องกรีดลายเพื่อให้จับได้อย่างถนัดมือมากที่สุด
- แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5000 mAh พร้อมรองรับ Huawei SuperCharge
พร้อมวางขายเมื่อใด?
Huawei Mate 20/Mate 20 Pro และ Mate 20 X จะพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนนี้ ถึงช่วงต้น ๆ เดือนพฤศจิกายนนี้ เนื่องจากตัวเครื่องผ่านการตรวจสอบจาก กสทช. เรียบร้อยแล้ว คาดว่าน่าจะพร้อมวางจำหน่ายในไทยได้พร้อม ๆ กับประเทศกลุ่มแรกของโลก โดยจะมีสีและรุ่นย่อย ๆ ให้เลือกดังต่อไปนี้
- Mate 20 มาพร้อม 3 สี ได้แก่ Midnight Black/Midnight Blue และ Twilight โดยมีให้เลือกสองรุ่นย่อย ได้แก่รุ่นแรม 4GB กับแรม 6GB บนความจุเดียวคือ 128GB
- Mate 20 Pro มาพร้อม 4 สีเช่นกัน คือ Midnight Black/Midnight Blue/Twilight และ Emerald Green มีให้เลือกสองรุ่นย่อย คือรุ่นแรม 6GB ความจุ 128GB และรุ่นแรม 8GB ความจุ 256GB
- Mate 20 X มาพร้อม 2 สี คือ Phantom Silver กับ Midnight Blue มีให้เลือกเพียงรุ่นแรม 6GB ความจุ 128GB เท่านั้น
ส่วนตัวสุดท้ายอย่าง Porsche Design Mate 20 RS ในไทยจะมีให้เลือกสีเดียวคือ Black on Black ซึ่งเป็นสีที่ใช้วางจำหน่ายทั่วโลก (ในจีนมีสี Red on Black ซึ่งใช้หนังสีแดงวางขายเพิ่มอีกหนึ่งสี) ส่วนรุ่นย่อยมีให้เลือกสองความจุ คือ 256GB และ 512GB ทั้งคู่มาพร้อมแรม 8GB และอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบโดย Porsche Design ทั้งหมด แต่รุ่นนี้จะเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากยังไม่ได้รับการตรวจสอบจาก กสทช. แต่อย่างใด