ภายหลังจากที่เป็นประเด็นฉาวส่งท้ายปลายปี 2017 เมื่อทาง Apple ถูกค้นพบว่าใช้การอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 10/11 ทำให้โทรศัพท์ iPhone ทำงานได้ช้าลง ซึ่งมีผลกระทบต่อเครื่องที่อยู่ในอาการแบตเตอรี่เสื่อมเท่านั้น แต่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาเนื่องจาก Apple ไม่ได้แจ้งเตือนต่อผู้ใช้งานอย่างชัดเจน โดยในความเคลื่อนไหวล่าสุดบริษัทผู้ผลิต iPhone ถูกหน่วยงานตรวจสอบการค้าของประเทศอิตาลี Authority for Market and Competition ออกบทลงโทษด้วยการสั่งปรับเงิน 10 ล้านยูโร แบ่งเป็นสองกรณีคือ ใช้การอัพเดตทำให้โทรศัพท์รุ่นเก่าทำงานช้าลง 5 ล้านยูโร และไม่แจ้งข้อมูลสำคัญต่อผู้บริโภคอย่างตรงไปตรงมาอีก 5 ล้านยูโร
แต่ไม่ใช่แค่ทาง Apple ที่โดนสั่งปรับเงินในโอกาสนี้ เพราะว่ามีคู่แข่งคู่ทุกข์คู่ยากอย่าง Samsung ต้องคอตกร่วมวงไพบูลย์ด้วย เมื่อทาง Authority for Market and Competition ก็จัดการลงโทษสั่งปรับเงินผู้ผลิตเกาหลีใต้ เป็นเงิน 5 ล้านเหรียญยูโร เนื่องจากหน่วยงานตรวจสอบอิสระแห่งนี้ พบว่าเมื่อทาง Samsung จัดการปล่อยอัพเดตซอฟท์แวร์ตัวใหม่ ออกมาให้กับโทรศัพท์รุ่นเก่า หนึ่งในหลายๆ ครั้งเหล่านี้จะมีบางส่วนที่ทำให้เครื่องเกิดอาการทำงานผิดปกติ และลดประสิทธิภาพการทำงานตัวเครื่องลง ซึ่งเหมือนกับว่าเป็นการเร่งกระบวนการให้ผู้บริโภคต้องซื้ออุปกรณ์เครื่องใหม่ ทั้งนี้ Samsung ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงต่อกรณีดังกล่าว
ผู้ผลิตเกาหลีใต้มีชนักติดหลังที่ไม่ดราม่ากันหนักเหมือนเคส Apple BatteryGate แต่เป็นกรณีของการอัพเดตระบบปฏิบัติการ Android 6 Marshmallow ให้กับ Galaxy Note 4 ซึ่งทำให้การใช้งานเครื่องมีปัญหา เสียจนเกิดการรวมตัวของผู้ใช้งานโวยผ่านฟอรั่มอินเตอร์เนต แต่บริษัทก็ไม่สนใจที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงต่อลูกค้า เช่นเดียวกับที่ไม่สนใจที่จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถแก้ไขซอฟท์แวร์กลับไปเป็นรุ่นเก่าที่ทำงานได้สมบูรณ์มากกว่า ซึ่งถ้าหากไม่ลืมกันไปซะก่อน ในช่วงมรสุมของ Apple ที่ผ่านมาก็เป็นทาง Samsung และอีกหลายๆ แบรนด์ ได้ทีออกมาขี่แพะไล่ว่า บริษัทของตนไม่มีความตั้งใจที่จะใช้นโยบายอัพเดตซอฟท์แวร์ให้เครื่องโทรศัพท์รุ่นเก่าช้าลง