ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพชิปเซ็ตของ Apple iPhone รุ่นใหม่จะยอดเยี่ยมมากๆ แล้ว แต่ดูเหมือนว่าทาง Apple ยังคาดหวังที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นไปกว่าอีก เมื่อมีการเปิดเผยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Apple สามารถบรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการแผนกพัฒนาแผงวงจรชิปเซ็ตของ Dialog Semiconductor ได้เป็นผลสำเร็จด้วยวงเงินมูลค่าราว 600 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการเข้าซื้อครั้งนี้จะเป็นในส่วนของทีมงานบุคลากรและสิทธิบัตรที่จำเป็น
ทางด้าน Dialog Semiconductor ออกแถลงการณ์ว่าพนักงานของบริษัทจำนวน 300 คน ที่ประจำอยู่ตามออฟฟิศในเมือง Livorno ประเทศอิตาลี Swindon ประเทศอังกฤษ และ Nabern กับ Neuaubing ในประเทศเยอรมนี ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 16 เปอร์เซ็นต์ในการจ้างงานทั้งหมดบริษัท จะย้ายไปทำงานกับ Apple โดยจะขึ้นตรงต่อ Johny Srouji รองประธานอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ ซึ่งอาจจะเป็นการขยับตัวที่น่าสนใจอีกครั้ง ถัดจากการประกาศยุติความสัมพันธ์กับ Imagination บริษัทผู้พัฒนาชิปประมวลผลกราฟิกจากอังกฤษเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา
Jalal Berherli เจ้าหน้าที่ประธานบริหารของ Dialog ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว Reuters ระบุว่าทาง Apple มองว่าเทคโนโลยีแผงวงจรฝังตัวของระบบควบคุมจัดการพลังงานของชิปเซ็ตนั้นมีความสำคัญ และต้องการเข้าควบคุมการพัฒนาได้โดยตรง เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงเป็นที่มาของการเข้าซื้อกิจการแผนกพัฒนาแผงวงจรของ Dialog ในครั้งนี้ เป็นไปได้ว่า Apple อาจจะมีไอเดียแผนการพัฒนาชิปเซ็ตในรุ่นถัดไปรออยู่แล้ว และดูเหมือนว่าจะไม่อยากเปิดเผยต่อบริษัทภายนอกโดยไม่จำเป็นอีกต่อไป