ถือเป็นการเดินหมากพลาดของ Qualcomm ที่ตัดสินใจหักกับ Apple เมื่อช่วงต้นมกราคม 2017 ซึ่งเป็นกรณีที่ทั้งสองบริษัท ไม่สามารถเจรจาส่วนแบ่งค่าใช้จ่ายในการเข้าใช้งานสิทธิบัตรโทรคมนาคมได้เป็นที่น่าพอใจ เพราะล่วงเลยมากำลังจะขึ้นปีใหม่ 2019 ในอีกไม่กี่อึดใจ ก็ดูเหมือนว่ายังไม่มีแนวโน้มที่จะเจรจาผลประโยชน์ของทั้งสองฝั่งฝ่ายได้อย่างลงตัว จากการฟ้องร้องค้าความรวมกันกว่า 100 คดีที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก
ในการเปิดเผยล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 7 พฤศจิกายน อ้างอิงโดยแหล่งข่าวจาก Reuters ระบุว่า Apple ไม่มีความสนใจในการเจรจานอกรอบกับทาง Qualcomm เรียกว่าไม่มีการสื่อสารที่เป็นรูปธรรมใดๆ ระหว่างทั้งสองฝ่าย อันรวมไปถึงการเจรจายุติความขัดแย้ง ดูเหมือนว่าฝ่ายกฏหมายของ Apple จะมุ่งหน้าสู่การพิจารณาไต่สวนคดีอย่างเต็มกำลัง
ซึ่งท่าทีล่าสุดนั้น ช่างสวนทางกับกระแสข่าวในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา โดยทาง Steve Mollenkopf ประธารบริหารสูงสุดของ Qualcomm เปิดเผยต่อนักลงทุนว่า ทั้งสองบริษัทกำลังอยู่ในช่วงของการเจรจา กรุยทางสู่การหาข้อยุติการดำเนินการทางกฏหมาย ซึ่งมีมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดีเหมือนกับหลายๆ กรณีที่ผ่านมา แต่กระนั้นในช่วงต่อมาในเดือนกันยายน ก็เป็นทาง Qualcomm ใช้จิตวิทยากดดันอย่างต่อเนื่อง ด้วยการกลับราดน้ำมันเข้ากองไฟกับข้อกล่าวหาใหม่ที่ว่า Apple นำเอาความลับการค้าของบริษัทไปเพิ่มประสิทธิภาพให้กับชิปโมเด็มของ Intel
ด้าน Apple เองถึงไม่พูดออกสื่อในกรณีนี้มากนัก แต่อ้างอิงจากการเปิดเผยของทนายความฝั่ง Qualcomm ซึ่งกล่าวอ้างว่า มีความพยายามกดดันทางการเงินร่วมกับบรรดาโรงงานคู่ค้าผู้ผลิต iPhone, iPad ด้วยการรวมหัวยื้อการจ่ายเงินค่าเข้าใช้งานสิทธิบัตร มาจนถึงปัจจุบันแล้วเป็นความเสียหายกว่า 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งความขัดแย้งระหว่างทั้งสองบริษัท ได้นำไปสู่การเปลี่ยนผ่านที่ iPhone XR / XS / XS Max กลายเป็นสินค้าสามรุ่นแรก ที่ไม่มีการใช้งานชิปโมเด็มจาก Qualcomm โดยสมบูรณ์