ภายหลังจากที่ทางหน่วยงานความมั่นคงตัวพ่อตัวแม่แห่งสหรัฐอย่าง FBI, CIA ได้ออกมา เรียกร้องให้ดำเนินการสั่งแบนการใช้งานอุปกรณ์โทรคมนาคมในภูมิภาคอเมริกาเหนือไปอย่างจ้าละหวั่น เมื่อช่วงต้นถึงกลางปี 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งก็ดูเหมือนว่าประสบความสำเร็จในการสกัดกั้นการทำตลาดของ Huawei Mate 10 Pro ในสหรัฐ โดยให้สาเหตุว่าอุปกรณ์โทรคมนาคมจากแดนมังกร อาจจจะถูกใช้เป็นเครือข่ายดักสอดแนมข้อมูล โดยเฉพาะช่วงสำคัญของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี 5G นอกจากนั้น ZTE ที่ทำการค้ากับอิหร่านก็โดนปรับเงินมหาศาล และสั่งห้ามเอกชนอเมริกาข้องแวะอยู่ช่วงหนึ่ง
เปิดเผยความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เยอรมนีผ่านสำนักข่าว Reuters โดยตัวแทนหน่วยงานรัฐบาลระดับสูงได้ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อมวลชนระบุว่า กำลังมีความพยายามล๊อบบี้ผลักดันให้คณะผู้บริหารประเทศ พิจารณาออกคำสั่งแบนจำกัดการทำธุรกิจกับ Huawei หรือ ZTE สองยักษ์ใหญ่แดงมังกรที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันสร้างระบบเครือข่าย 5G ในประเทศ ท่ามกลางกระแสความเป็นกังวลเกี่ยวกับข้อมูลความมั่นคงภายในประเทศและรวมไปถึงภูมิภาคยุโรปโดยภาพรวม
ประเด็นดังกล่าวนี้ถือเป็นความน่ากังวลใจอย่างมาก และถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้เราก็อาจจะต้องดำเนินการตามรอยเดียวกับที่ทางสหรัฐอเมริกา ที่สั่งดำเนินการแบนไม่ให้ทาง Huawei และ ZTE เข้ามามีส่วนร่วมกับการพัฒนาโครงข่าย 5G ทั้งนี้เองบริษัทจากแดนมังกรทั้งสองราย ต่างก็แสดงความสนใจในตลาดยุโรปตะวันตกอย่างมาก โดยระบุว่าเป็นตลาดที่สำคัญต่อการเติบโตเชิงรายได้ ถ้าหากหน่วยงานโทรคมนาคมเยอรมนีสั่งแบนจริง ก็ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีผลกระทบในเชิงธุรกิจตามมา
อย่างไรก็ดีด้วยต้นทุนของเอกชนประเทศจีนทั้งสองราย ที่มีการประเมินว่าถูกกว่าคู่แข่งอย่างสหรัฐและยุโรปอยู่ไม่น้อยกว่า 20-30 เปอร์เซ็นต์ การขัดขวางไม่ให้ Huawei และ ZTE เข้ามาร่วมทำตลาดก็ย่อมจะส่งผลกระทบ ทำให้ต้นทุนในการดำเนินการของผู้บริการเครือข่ายเครือข่ายในการเปิดตัวให้บริการ 5G เพิ่มขึ้นไปเป็นเงาตามตัวเช่นกัน