อีกหนึ่งประเด็นความขัดแย้งที่น่าสนใจในช่วงส่งท้ายปลายปี 2018 เป็นเรื่องราวระหว่าง Netflix บริการภาพยนตร์สตรีมมิ่งออนไลน์ตัวพ่อและเจ้าของแฟลตฟอร์มอย่าง Apple ซึ่งมีข้อค่อนขอดกันมาแล้วอยู่พักใหญ่ๆ ว่าทางร้านค้าออนไลน์ iOS App Store นั้นเก็บส่วนต่างค่าต๋งแพงในเรตปกติที่ 30 เปอร์เซ็นต์ และ 15 เปอร์เซ็นต์ สำหรับลูกค้าที่สมัครแพ็คเกจในระยะยาว โดยหักจากค่าบริการที่ทาง Netflix เรียกเก็บรายเดือนจากลูกค้าที่สมัครบอกรับบริการ
ซึ่งในความเคลื่อนไหวล่าสุดทาง Netflix ได้ขยับตัวยกเลิกการสมัครสมาชิกบอกรับบริการรายเดือนของลูกค้าใหม่ ด้วยวิธีการผ่านการซื้อและเรียกเก็บเงินผ่านแอปพลิเคชั่นบนแฟลตฟอร์ม iOS App Store อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเริ่มทยอยอัพเดตสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลกมาแล้วตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ในกลุ่มของลูกค้าเก่าที่สมัครบริการในระบบเก่ามาก่อนแล้ว ทาง Netflix ชี้แจงว่าจะดำเนินการเรียกเก็บเงินผ่านระบบ iOS App Store ไปตามปกติ แต่ถ้าหากขาดสมาชิกภาพหรือยกเลิกบริการไป ก็จะต้องไปดำเนินการบอกรับสมาชิกผ่านหน้าเว็บไซต์เหมือนกับลูกค้าใหม่เช่นเดียวกัน
โมเดลการหักส่วนแบ่งรายได้ดังกล่าวดูจะไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบนัก เพราะส่งผลต่อรายได้และกำไรของผู้บริการโดยตรง หากไม่เช่นนั้นแล้วก็ต้องเรียกเก็บเงินในราคาที่แพงขึ้น และอาจจะเสียฐานลูกค้าบางส่วนไป ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ทาง Netflix ที่ยกเลิกการสมัครบอกรับบริการรายเดือน ผ่านระบบการซื้อภายในแอปพลิเคชั่นบนร้านค้า iOS App Store แต่ทาง Spotify คู่แข่งโดยตรงของ Apple Music เองก็นำร่องนโยบายคล้ายๆ กันนี้ไปก่อนตั้งแต่กลางปี 2018 แล้ว