ท่ามกลางกระแสข่าว iPhone ยอดขายตกที่ถาโถมเข้ามาตั้งแต่การเปิดตัวทำตลาดของ iPhone X เมื่อปีที่แล้ว ออกมาจดหมายแถลงอย่างเป็นทางการ ถึงบรรดาผู้ถือหุ้น Apple ในตลาดหลักทรัพย์ โดย Tim Cook ก็เหมือนยิ่งกับการราดน้ำมันลงบนกองไฟที่กำลังโหมหนักมากขึ้น โดยทาง Apple ทำการประเมินปรับลดแนวโน้มรายได้ของบริษัทในช่วงปลายปี 2018 / Holiday Quarter ลงมาเหลือเพียง 8.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐจากที่เคยออกเกณฑ์ประเมินรายได้เอาไว้ในช่วง 8.9 – 9.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ปัจจัยที่ถูกระบุว่าส่งผลกระทบโดยตรงต่อการปรับลดรายได้ของบริษัทดังกล่าวนี้ มาจากสาเหตุการชะลอตัวของเศรษฐกิจในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ ตลาดที่เป็นแรงขับเคลื่อนรายได้จำนวนมากของ Apple มาตั้งแต่ช่วง iPhone 6 ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018 โดยตัวเลข GDP ของประเทศจีนนั้น เติบโตน้อยที่สุดเป็นอันดับสองในรอบกว่า 25 ปี นอกจากนั้นรายได้ในกลุ่มตลาดประเทศเกิดใหม่ ก็อยู่ในเกณฑ์ลดลง เมื่อประกอบเข้ากับผลกระทบที่เกิดจากความตึงเครียด ในนโยบายการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ผ่านมา ยิ่งสร้างผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจของ Apple
และปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามามีส่วนกระตุ้น เช่น การเปลี่ยนแบตเตอรี่รุ่นเก่าในราคาพิเศษตลอดทั้งปี 2018 อัตราการแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวแข็งค่ามากขึ้น และรวมไปถึงปัญหาในระบบซัพพลายเซนการผลิตชิ้นส่วน ที่ล่าช้าทำให้การวางจำหน่ายสินค้าอย่าง iPad Pro, AirPods, Apple Watch หรือ MacBook Air รุ่นปรับปรุงใหม่ ทำได้ไม่ค่อยราบรื่น นอกจากนั้นแล้วแนวโน้มการบริโภคของตลาดก็เริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม เช่นการทิ้งช่วงอัพเกรดเครื่องที่นานขึ้น และช่องทางในการจัดจำหน่ายเครื่อง iPhone ผ่านการสนับสนุนของผู้ให้เครือข่ายที่น้อยลงในช่วงปีที่ผ่านมา
ด้วยปัจจัยข้างต้นเหล่านี้ทำให้ทาง Apple ภายใต้การบริหารของ TIm Cook ต้องปรับแนวโน้มการประเมินรายได้ในช่วง Holiday Quarter (ไตรมาส 1/2019 ตามปฏิทินการเงินของบริษัท) ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง อย่างไรก็ดีรายได้ในกลุ่มสินค้าอื่นๆ นอกจาก iPhone นั้นยังมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยรวมกันอยู่ที่ราวๆ 19 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นมาจากขวบปีก่อน โดยเฉพาะในส่วนของ Services เช่น Apple Music, Apple Pay และ iCloud ที่ต่างทำสถิติใหม่ในเชิงรายได้ทั้งหมด โดยการแถลงประกอบการอย่างเป็นทางการของ Apple จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 29 มกราคา 2018