กระแสเหตุการณ์ของ Huawei ในช่วงครึ่งหลังของปี 2018 ที่ผ่านมานั้นต้องบอกว่า เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของบริษัทยักษ์ใหญ่แดนมังกร โดยบรรดารัฐบาลชาติตะวันตกมหาอำนาจต่างตบเท้าประสานเสียง สั่งห้ามระงับการจัดซื้อหรือเข้าร่วมการประมูลสร้างระบบเครือข่ายโทรคมนาคม 5G กันอย่างพร้อมเพรียง ภายใต้การชูธงของสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ตามมาด้วย เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น ไปจนถึงการสั่งแบนห้ามขายหรือใช้งานโทรศัพท์ Huawei, ZTE ในหน่วยรัฐบาล ด้วยคำกล่าวอ้างที่แสดงความเป็นกังวลต่อการดักสอดแนมข้อมูล
ซึ่งทางฝ่ายเอกชนจีนนั้นดูจะพยายามแบ่งรับแบ่งสู้ในทุกๆ เคสที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด แต่ในการให้สัมภาษณ์ต่อนักข่าว ที่เวทีงานสัมมนาเศรษฐกิจระดับโลก เมือง Davos ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ล่าสุดนั้น Liang Hua ประธานบอร์ดบริหารของ Huawei ได้กล่าวถึง สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวด้วยท่าทีที่แตกต่างออกไป โดยระบุว่า บริษัทอาจจะพิจารณาย้ายการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีโทรคมนาคม 5G ออกไป จากบรรดากลุ่มประเทศที่ไม่ต้อนรับเทคโนโลยีจีน จากความพยายามในการออกมาตรการสกัดกั้นการทำธุรกิจต่างๆ สู่กลุ่มประเทศที่ต้อนรับและยินดีสอดประสานความร่วมมือไปด้วยกัน
และในโอกาสดังกล่าวนี้ ยังกล่าวย้ำชัดยืนยันว่า Huawei ปฏิบัติตามกฏหมายข้อบังคับของหน่วยกำกับดูแลงานโทรคมนาคม ในแต่ละประเทศที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ พร้อมยืนยันว่า บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับรัฐบาลจีน อย่างที่ถูกกล่าวหามาโดยตลอด หรือหากต้องการตรวจสอบแล็บเทคโนโลยีของบริษัท ที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ สุดท้ายแล้วการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวนี้ ยืนยันว่าจะให้ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจว่า พวกเขายังต้องการใช้เทคโนโลยีจีนต่อไปหรือไม่ โดยเฉพาะการที่ประเทศอังกฤษนั้นกล่าวอ้างว่าพวกเขาเป็นตลาดการค้าเสรีที่เปิดกว้าง ภายหลังจากช่วงธันวาคม 2018 ที่ผ่านมาทาง British Telecom จะประกาศตัวเริ่มทยอยถอนการติดตั้งอุปกรณ์เครือข่าย Huawei ออกจากระบบโครงข่าย EE ไปอย่างเป็นทางการ