เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาทางกลุ่มชาติสหภาพยุโรปนั้น ได้มีการบังคับใช้กฏหมาย General Data Protection Regulation (GDPR) ซึ่งก็คือระเบียบการคุ้มครองข้อมูลผู้บริโภคไปอย่างเป็นทางการ ทำเอาบรรดาบริษัทเอกชนทั้งหลายที่ทำธุรกิจในภาคพื้นยุโรปต้องปรับตัวกันระลอกใหญ่ แต่ความเผลอเรอของ Nokia ซึ่งกำลังถูกเข้าตรวจสอบโดยหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค ตามข้อกล่าวหาที่ได้รับการร้องเรียน
โดยต้นเรื่องดังกล่าวนี้ มาจากสื่อ NRK ในประเทศนอร์เวย์ ได้เปิดเผยถึงคำร้องเรียนจาก Henrik Austad ผู้ซึ่งพบว่าโทรศัพท์ Nokia 7 ที่จัดจำหน่ายโดย HMD Global นั้นมีพฤติกรรมแปลกๆ ในการส่งข้อมูลพิกัดตำแหน่ง หมายเลขซิมการ์ด และหมายเลขตัวเครื่อง (Serial Number) โดยไม่เข้ารหัสกลับสู่เซิร์ฟเวอร์ในประเทศจีน และการตรวจสอบเพิ่มเติมนั้นพบว่า เซิร์ฟเวอร์ในจีนดังกล่าวจดทะเบียนภายใต้ชื่อ vnet.cn ซึ่งบริหารจัดการโดย China Telecom บริษัทโทรคมนาคมที่มีรัฐบาลจีนถือหุ้นใหญ่
ทาง HMD Global นั้นเป็นผู้รับมอบสิทธิ์ ในการบริหารและทำตลาดสมาร์ทโฟนแบรนด์ Nokia เป็นระยะเวลาสิบปี ได้ยอมรับว่าเครื่อง Nokia 7 ซึ่งในช่วงแรกเปิดตัวนั้นนำร่องทำตลาดในประเทศจีน มีความผิดพลาดในการส่งข้อมูลกลับประเทศต้นทางจริงดังข้อกล่าวอ้าง แต่ทางบริษัทได้แก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวผ่านการอัพเดตซอฟท์แวร์เดือนมกราคมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และย้ำด้วยว่าข้อมูลที่ส่งกลับเหล่านั้นจะไม่สามารถใช้เพื่อการยืนยันตัวเจ้าของได้แต่อย่างใด
กระนั้นเอง Reijo Aarnio หัวหน้าฝ่ายตรวจสอบการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภค ระบุว่า ความผิดพลาดดังกล่าวอาจจะเป็นถูกพิจารณาได้ว่ามีความผิดฐานละเมิดข้อบังคับ GDPR โดยจะต้องมีการตรวจสอบในประเด็นดังกล่าวนี้ ซึ่งอาจจะทำให้ทาง Nokia ต้องเป็นผู้ผลิตและให้บริการอีกหนึ่งราย ถัดจาก Google ซึ่งได้ถูกทางการฝรั่งเศสสั่งลงโทษปรับเงิน 50 ล้านยูโร เมื่อเดือนมกราคม 2019 ด้วยข้อกล่าวหา ที่ระบุว่านโยบายการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานนั้นไม่มีความโปร่งใส