เมื่อหลายเดือนที่แล้ว คนที่มาเดิน CentralWorld คงจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของ Flagship Shop ของ AIS Shop กัน เมื่อ Shop เดิมที่โซน Central Court ติดป้าย “ประกาศปิดปรับปรุง” และให้ย้ายไปใช้ช็อปชั่วคราวบริเวณใกล้ ๆ กับร้าน JIB แทน ทุกคนคงจะมองภาพกันไม่ออกว่าหลังจากปรับปรุงแล้ว Shop ใหม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร วันนี้ AIS ได้ฤกษ์เผยโฉม Shop ใหม่อย่างเป็นทางการเรียบร้อย
จาก Flagship สู่ Digital Gallery ที่สมบูรณ์ที่สุดใจกลางเมือง
ร้านใหม่ที่ AIS เผยโฉมใหม่หมดจดในครั้งนี้ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า AIS Digital Gallery เป็นสาขาต้นแบบในยุค AIS Next-Gen ที่ AIS ได้เลือกนำมาใช้กับสาขา CentralWorld เป็นครั้งแรก ใช้งบลงทุนในการปรับปรุงสาขาครั้งนี้กว่า 40 ล้านบาท หลายคนที่มาถึงสาขานี้ครั้งแรกอาจจะตกใจได้ถึงความกว้างของร้านที่กว้างขึ้น แต่ไม่ใช่ครับ ร้านนี้มีพื้นที่เท่าเดิม แต่ AIS ได้เลือกใช้วิธีการออกแบบร้านให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างมากขึ้น ดูแล้วสบายตา และใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้มากที่สุด
อีกส่วนหนึ่งที่ปรับปรุงด้วย นั่นก็คือ Serenade Lounge โดยมีเป้าหมายในการปรับปรุงคือ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่พิเศษสุดสำหรับลูกค้า และนั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไม Serenade Lounge สาขานี้ ถึงดูมีความอบอุ่น ด้วยการตกแต่งด้วยไม้ และเคาท์เตอร์บริการด้วยหินอ่อน ต้นแบบนี้เป็นการนำแบบของ Serenade Club สาขาสยามพารากอนที่ปรับปรุงใหญ่ไปเมื่อปีก่อนมาปรับใช้ เพื่อเป็นต้นแบบของ Serenade Lounge และ Serenade Club สาขาใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อดีไซน์ที่ว่าแน่ ทำ AIS เอียน จนต้องรื้อทำใหม่
รูปแบบเดิมที่เราคุ้นเคยกัน คือร้านเล็ก ๆ มีโต๊ะวางสินค้าหลาย ๆ ตัว ในรูปแบบที่คล้ายกับร้าน Apple Store รูปแบบนี้เราเห็นกันได้ทั่วไปตามร้าน AIS Shop/DTAC Shop หรือแม้กระทั่ง True Shop แต่เมื่อดีไซน์เริ่มเกร่อจน AIS เอียน AIS เลยมีทางแก้ด้วยการออกแบบโต๊ะวางสินค้าใหม่หมดจดในชื่อ AIS Intelligent Unit โดยออกแบบมาในแนวคิดตู้โชว์งานศิลปะ และพร้อมรองรับการสับเปลี่ยนสินค้าได้ตลอดเวลา โต๊ะวางสินค้าใหม่นี้ยังมีลูกเล่นในการแสดงผลข้อมูลสินค้าแบบ Interactive สามารถบอกได้เลยว่าสินค้าที่หยิบขึ้นมาเล่นนั้นมีคุณสมบัติอย่างไร
พัฒนาเพื่อการเป็นที่หนึ่งในด้านการบริการด้วยใจ
นอกจากสาขาแล้ว AIS ยังคงมีทีมงานคุณภาพที่คอยดูแลการให้บริิการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในยุคใหม่นี้ ทัพพนักงานจะได้รับการเทรนเพื่อเข้าใจในความต้องการของลูกค้าเพิ่มอีกระดับ รวมถึงเทรนพนักงานขึ้นเป็น Digital Guru คอยแนะนำสินค้าและโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้า พร้อมด้วยการปรับลุคพนักงานให้เข้าใจใน Consumer Insight ว่าในยุคนี้ ลูกค้าต้องการอะไร และจะตอบรับต่อความต้องการของลูกค้าด้วยอะไรเป็นต้น นอกจากฝั่ง Offline ที่เน้นการเทรนพนักงานแล้ว ในฝั่ง Online AIS ยังได้พัฒนาให้แอปพลิเคชัน my AIS สามารถตอบคำถามคร่าว ๆ ของลูกค้าผ่านทาง ASK Aunjai ที่เป็นการนำเทคโนโลยีจำพวก AI และ Smart Knowledge มาพัฒนาร่วมกับ Chat Bot ทำให้ ASK Aunjai สามารถตอบคำถามแก่ลูกค้าได้ตรงใจ และยังเป็นเพื่อนคุยเล่นเวลาเหงา ๆ ได้อีกด้วย
ที่สำคัญ AIS ยังได้ปรับปรุงตู้ Digital Pay ใหม่ทั้งหมด มีลูกเล่นเพิ่มมากขึ้น และสามารถฝากเงินเข้าบัญชี Beat Banking และกระเป๋าเงิน mPay Wallet ผ่านตู้นี้ได้โดยตรง นอกจากความสามารถเดิมอย่างการจ่ายบิลมือถือ Fibre เติมเงิน และจ่ายค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ เป็นต้น
เร่งเครื่องเดินหน้าสู่ยุค NEXT G GENERATION เต็มตัว
การปรับปรุงสาขา CentralWorld ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำตัวตน NEXT G GENERATION อันเป็นยุคใหม่ของ AIS ในปี 2017 นี้ ซึ่ง AIS ยังคงมุ่งหน้าตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิตอล ตอบสนองต่อทุกความต้องการที่ลูกค้าต้องการ ด้วยการอัพเกรดพื้นที่จัดแสดงสินค้าไม่ใช่แค่โทรศัพท์มือถืออีกต่อไป แต่ยังมีพื้นที่สำหรับจัดแสดง Gadget ที่น่าสนใจอีกหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นโดรนความเร็วสูงจาก Parrot ที่ไม่มีจำหน่ายที่ไหนนอกจาก AIS เป็นต้น
แต่การเป็น NEXT G GENERATION ของ AIS ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น AIS ยังเดินหน้าเปลี่ยนแปลงในอีกหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น Next G Team กับการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ยกทีม เช่น แบงค์ ธิติ, แพรวา ณิชาภัทร, ทอม Room 39 หรือแม้แต่เป็ก ผลิตโชค พร้อมทั้งปรับทัพพนักงานให้มีความรู้เชิงดิจิตอลเพิ่มมากขึ้น เข้าใจใน Consumer Insight ทุกประการ Next G Xperiences กับการอัพเกรดการให้บริการทั้งแบบ Offline และ Online ใหม่ทั้งหมด รวมถึงพลิกรูปแบบสาขาเพื่อชีวิตในยุคดิจิตอล Next G Economy กับการผลักดันให้ธุรกิจไทยก้าวขึ้นเป็นธุรกิจแห่งการแบ่งปัน พร้อมทั้งผสานเทคโนโลยี IoT เพื่อตอบรับต่อไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น และสุดท้ายกับ Next G Network ที่สุดของเครือข่ายกับการแหกกฎครั้งแรกของความเร็วที่พุ่งสูงถึง 1 Gbps บนมือถือ ตอบรับต่อไลฟ์สไตล์ของคนยุค NEXT G GENERATION ที่มีความต้องการด้านความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ไม่สิ้นสุด
รายละเอียดคร่าว ๆ ของ Next G Network คือเป็นการนำสัญญาณของสองโครงข่ายคุณภาพจาก AIS คือ AIS 4G Advanced (LTE-A) และ AIS Super Wi-Fi (Wi-Fi AC) มัดรวมและส่งไปพร้อมกันด้วยเทคโนโลยี Multipath TCP เบื้องต้นสามารถใช้งานได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เฉพาะลูกค้า AIS ที่ถือเครื่อง Galaxy S7/Galaxy S7 edge/Galaxy S8 และ Galaxy S8+ และใช้งาน AIS 4G รายเดือนในแพ็คเกจ 4G Max Speed Unlimited 1099 บาทขึ้นไป หรือสมัครแพ็คเกจเสริิม Next G 159 บาท ได้ทั้งลูกค้ารายเดือนและ 1-2-Call 3G รายละเอียดเชิงลึกของ Next G Network ทางทีมงานจะนำเสนอให้ได้อ่านกันในโอกาสถัดไปครับ
ทัพพรีเซ็นเตอร์ใหม่ AIS Next G Team จากซ้ายไปขวา แพรวา ณิชาภัทร, วี วิโอเล็ต, แต้ว ณฐพร, เจมส์ จิรายุ, เต้ย จรินทร์พร, ทอม Room 39, มิว นิษฐา และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย
