ข่าวสั้น

Netflix มีหนาว!! เปิดตัว “Disney+” บริการสตรีมมิ่งน้องใหม่จากบ้าน Disney ด้วยค่าบริการถูกกว่าครึ่ง

วันนี้ The Walt Disney Company ใช้โอกาสในงานแถลงผลประกอบการประจำปีของบริษัทฯ เปิดตัวแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งน้องใหม่ที่เผยชื่อมาได้ระยะหนึ่งอย่าง Disney+ อย่างเป็นทางการ

สำหรับ Disney+ จะเป็นบริการ VoD จากบ้าน Disney ซึ่งจะเต็มไปด้วยคอนเทนต์ต่าง ๆ จากบ้าน Disney รวมถึงบ้าน FOX และ National Geographic ทั้งหมด ซึ่งในช่วงเริ่มเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายน Disney+ จะมีภาพยนตร์กว่า 500 เรื่อง ซีรีส์และสารคดีกว่า 7500 ตอน และ Exclusive Program ทั้งซีรีส์ ภาพยนตร์ และสารคดีอีกกว่า 35 ไตเติลพร้อมใช้งานในทันที ซึ่งเนื้อหาในแพลตฟอร์มทั้งหมดจะพร้อมให้บริการบนความละเอียด 4K พร้อม HDR ทั้ง Dolby Vision และ HDR10 โดยมีไฮไลต์จากแต่ละบ้านย่อยดังนี้

  • บ้านภาพยนตร์ ภาพยนตร์ของทั้ง Walt Disney Studios Motion Pictures และ 20th Century Fox ที่ออกฉายในปีนี้ทั้งหมดนับตั้งแต่ Captain Marvel เป็นต้นไป จะมีให้รับชมย้อนหลังเฉพาะบน Disney+ เท่านั้น จะไม่มีในแพลตฟอร์ม VoD อื่น ๆ อีก แม้กระทั่ง HBO Now และ Netflix
  • บ้าน Marvel จะมีซีรีส์ที่น่าสนใจหลากหลายเรื่อง อาทิ
    • The Falcon and Winter Soldier เรื่องราวการผจญภัยของ Sam Wilson หรือ The Falcon และ Bucky Barnes หรือ Winter Soldier กับภารกิจการทลายกลุ่ม Hydra ที่ยังหลงเหลืออยู่บนโลก
    • WandaVision ซีรีส์พิเศษสำหรับคู่จิ้น Wanda และ Vision ที่หลายคนสงสัยว่าทั้งสองมารักกันได้ยังไงใน Avengers: Infinity Wars
    • Marvel’s What If…? แอนิเมชันแนวทดลอง กับการเปลี่ยนตัวแปรบางอย่างในคอมิคเพื่อหาผลลัพธ์ที่แท้จริง เช่น ถ้าคนที่ได้รับ Super Serum ไม่ใช่ Steve Roger แต่เป็น Peggy Carter อะไรจะเกิดขึ้น?
    • Loki ซีรีส์เดี่ยวครั้งแรกของจอมวายร้ายผู้น้องใน Thor
  • บ้าน Walt Disney Animation Studios มาพร้อมกับสารคดี Into the Unknown: Making Frozen 2 สารคดีที่เปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังในการผลิตภาพยนตร์ Frozen 2 ที่จะออกฉายในปีนี้
  • บ้าน Pixar มาพร้อมกับแอนิเมชัน Forky Ask a Question ที่อยู่ในโลกเดียวกับ Toy Story, ซีรีส์ Spin-off จาก Monster Inc. Monster at Work, ภาพยนตร์สั้น Lamp Life และซีรีส์สั้นอีกหนึ่งเรื่อง
  • บ้าน National Geographic มาพร้อมกับสารคดีสองเรื่องคือ The World According to Jeff Goldblum และ Magic of the Animal Kingdom
  • บ้าน Disney Television Animation มาพร้อมกับภาพยนตร์แอนิเมชัน The Phineas and Ferb Movie, ซีรีส์ High School Musical: The Musical: The Series, Diary of Female PresidentLady and the TrampNoelleTogoTimmy Failure และ Stargirl
  • บ้าน Star Wars มาพร้อมกับซีรีส์และภาพยนตร์หลากเรื่อง อาทิภาพยนตร์ The Mandalorian และซีรีส์เดี่ยวของตัวละครเอกจาก Rogue One
  • บ้าน Fox กับซีรีส์ The Simpsons ทั้ง 30 Seasons รวมถึงภาพยนตร์ The Sound of MusicThe Princess Bride และ Malcolm in the Middle

ในช่วงเริ่มแรก Disney+ จะมีแอปฯ พร้อมให้บริการทั้งบน Windows 10 (+ Xbox One), macOS, Apple TV (พร้อมฟังก์ชัน Apple TV Channel รวมถึงสมาร์ททีวีที่มี Apple TV app), iOS, Android, PlayStation 4, Nintendo Swtich, Roku, และ Amazon Fire TV รวมถึงยังรองรับ Android TV, AirPlay และ Chromecast อีกด้วย เรียกว่ารองรับแทบจะทุกอุปกรณ์ที่ชมทีวีได้ในวันแรกที่เปิดให้บริการ

ในส่วนของการให้บริการ Disney+ ตั้งค่าบริการรายเดือนเอาไว้ที่ 6.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งทางตรงอย่าง Netflix กว่าครึ่งหนึ่ง (Netflix เก็บค่าบริการแพ็คเกจ 4K ที่ 15.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ) โดยจะเริ่มให้บริการจากในสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ และจะขยายพื้นที่ให้บริการอย่างรวดเร็วภายในปี 2020 โดย Disney ตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 2 ปี บริการจะต้องครอบคลุมทุกประเทศกลุ่มหลักของแต่ละภูมิภาคทั้งหมด

สำหรับบ้านเราสามารถลงชื่อแสดงความสนใจได้แล้ววันนี้ที่ preview.disneyplus.com

คณะแกดกวน #teamgadguan

อริญชย์ ชวะโนทัย (iBehemortHz)

เด็ก ป.โท ผู้สนใจในโลกดิจิทัลและสังคม และคอยเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงผ่านสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า "หน้าจอ" :)