หลังจากมีข่าวลือหนาหูมาระยะหนึ่งถึงเรื่องของเครื่องเล่นเกมยุคถัดไปของ Sony (ที่เราลือ ๆ กันในตอนนี้ว่า PS5) ล่าสุด Mark Cerny วิศวกรระดับสูงของ Sony Interactive Entertainment ได้ให้สัมภาษณ์กับ Wired ถึงรายละเอียดเบื้องต้นของเครื่อง PlayStation Next เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Cerny อธิบายว่าปัจจุบัน SIE ได้เริ่มโครงการ PlayStation Next ที่จะกลายเป็น PS5 มาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยหลัก ๆ SIE โฟกัสไปที่เรื่องของการรักษาความเข้ากันได้กับ PS4 เนื่องจาก PS Next จะยังคงใช้สถาปัตยกรรม x86-64 แบบเดียวกับ PS4 ดังนั้นในด้านโปรแกรมและแอปพลิเคชันในยุค PS4 จะต้องใช้งานกับ PS Next ได้ทั้งหมด แต่จุดที่จะสร้างความแตกต่างระหว่าง PS4 กับ PS Next คือสเปคของเครื่องที่อัพเกรดมาให้อยู่เหนือปัจจุบันหนึ่งถึงสองระดับ เพื่อให้การออกรุ่นย่อยของ PS Next หลังจากนี้ รองรับการสับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์บางส่วนของเครื่องได้แบบตอนที่ PS4 เป็น PS4 Pro อัพเกรด GPU ใหม่นั่นเอง
สำหรับสเปคคร่าว ๆ ของ PS Next จะยังคงใช้ชุด APU จาก AMD แต่กระโดดมาใช้รุ่นปัจจุบันพอสมควร นั่นคือ CPU AMD Ryzen Gen 3 บนสถาปัตยกรรม Zen 2 ขนาด 7 นาโนเมตรแบบ 8 คอร์ 64 บิต GPU ใช้ AMD Navi รุ่นปรับแต่ง โดยเพิ่มการรองรับเทคโนโลยี Ray Tracing หรือเทคโนโลยีการสะท้อนภาพบนวัตถุแบบเรียลไทม์ (ที่ Radeon ปัจจุบันไม่รองรับ) และยังอัพเกรดให้ PSVR สามารถประมวลผลและแสดงรายละเอียดวัตถุภายในเกมได้ดีกว่าเดิม รวมถึงรองรับการอัพสเกลภาพจาก 4K เป็น 8K ที่ตัวเครื่อง และรองรับเทคโนโลยี 3D Sound มาตรฐานต่าง ๆ เช่น Dolby Atmos หรือ DTS:X เพื่อสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมรูปแบบใหม่ผ่านระบบเสียงแบบสามมิติที่จะเพิ่มความสมจริงมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ PS Next จะยังมาพร้อมกับการอัพเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์เป็น SSD หลังจากที่เกม Red Dead Redemption 2 สร้างปรากฎการณ์ “เกมทะลุ 100 กับ Blu-ray 2 แผ่น” และส่งผลให้การติดตั้งเกมผ่านแผ่น Blu-ray ใช้เวลานานถึงนานมาก ฉะนั้นใน PS Next Sony จะแก้ปัญหานี้ด้วยการเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์มาเป็น SSD แบบ PCI-Express 4.0 ด้วยความเร็วที่เหนือกว่า SSD ตัวที่ดีที่สุดที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน โดย Cerny ได้นำ PS4 Pro ที่เปลี่ยนมาใช้ SSD แบบนี้มาโชว์ให้ดู พร้อมกับรันเกม Marvel’s Spider-Man เทียบกันกับ PS4 Pro ที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ ผลก็คือเกมที่ติดตั้งอยู่บน SSD ใช้เวลารันแอปพลิเคชันเพียง 0.8 วินาทีเท่านั้น จากเดิมที่ใช้เวลาถึง 15 วินาทีกว่าจะได้เล่น
เรื่องสุดท้ายที่ Cerny พูดถึง คือระบบปฏิบัติการ ด้วยจุดหมายแรกที่ Sony ต้องการรักษาความเข้ากันได้กับ PS4 และ x86 ระบบปฏิบัติการของ PS Next อาจจะใช้ระบบปฏิบัติการของ PS4 (Orbis OS ที่ Fork ออกมาจาก FreeBSD) ต่อไปและนับเลขเวอร์ชันต่อจาก PS4 ทันที ผลที่ได้คือ PS Next จะรองรับการเล่นเกม PS4 ในโหมด PS4 Pro ทั้งหมด รวมถึงเกมที่จะเปิดตัวในงาน E3 ปีนี้ทั้งหมด ก็จะรองรับการเล่นบน PS Next ทันทีเช่นกัน โดยใช้เทคนิคการแบ่งประเภทเครื่องที่ซอร์สโค้ดของเกมเหมือนตอน PS4 กับ PS4 Pro ที่แยกระหว่าง normal mode กับ neo mode เพื่อให้เกมสามารถแยกได้เองว่าถูกรันอยู่บนเครื่องใด
อย่างไรก็ดี Cerny ไม่ได้ระบุว่า Sony จะเปิดตัว PS Next หลังงาน E3 2019 เพื่อให้ตัวเครื่องพร้อมขายในปีหน้าตามข่าวลือหรือไม่ แต่เขาก็ยอมรับว่า Stadia จาก Google และ Project xCloud จาก Microsoft ก็เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Sony ต้องเร่งผลักดันให้ PS Next เปิดตัวได้โดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาส่วนแบ่งในตลาดที่ PS4 ทำได้ดีไว้ต่อไป
