ภายหลังจากที่ระหองระแหงแคลงใจกันมากว่า 3 ปีความสัมพันธ์ของ Apple และ Qualcomm ก็กลับมาอยู่ในเส้นทางที่เคยเป็น ซึ่งว่ากันว่า เพราะ Apple ติดบ่วงในเทคโนโลยี 5G และไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่า นอกที่จะยอมกล้ำกลืนความเกรี้ยวกราด ซึ่งนำไปสู่การยอมความและยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้กับ Qualcomm ด้วยข้อเสนอสัญญาการใช้งานสิทธิบัตรและเทคโนโลยี 6 ปี และออปชั่นต่อเพิ่มได้อีก 2 ปี
ในเบื้องต้นไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดใดๆ อย่างเป็นทางการออกมา แต่ทาง Timothy Acuri นักวิเคราะห์ตลาดจาก UBS ออกมาให้ทัศนะผ่านสำนักข่าวใหญ่ CNBC ระบุว่า Apple อาจจะต้องจ่ายเงินทั้งค่าเข้าใช้งานสิทธิบัตรของ Qualcomm และค่าชดใช้ในการดำเนินคดีความต่างๆ เบ็ดเสร็จทั้งสิ้นแล้วกว่า 5-6 พันล้านเหรียญสหรัฐ รวมไปถึงต้องจ่ายเงิน 8-9 เหรียญสหรัฐ เป็นค่าต๋งเกี่ยวกับการใช้งานสิทธิบัตรเหล่านั้น ต่อการขายโทรศัพท์ iPhone ที่เกิดขึ้นทุกๆ เครื่อง จากเดิมที่สัญญาก่อนหน้าเริ่มต้นการฟ้องร้องเมื่อปี 2016 Apple เคยต้องจ่ายเงินต่อการขายเครื่องอยู่ที่ 7.50 เหรียญสหรัฐ
โดยการเจรจาต้าอ่วยระหว่าง Apple และ Qualcomm ในครั้งนี้เป็นที่เชื่อได้ว่า มาจากแผนการพัฒนาโมเด็ม 5G ของ Intel ที่เกิดความล่าช้าและยังไม่สามารถส่งมอบฮาร์ดแวร์รุ่นต้นแบบให้กับ Apple ได้ทันตามกำหนดการ ซึ่งอาจจะส่งผลให้การเปิดตัวของ iPhone 5G นั้นต้องล่าช้าไปจากกำหนดการปี 2020 และครั้นจะหันไปหาตัวเลือกอื่นก็ดูอาจจะไม่มีความคุ้นเคยหรือสามารถไว้วางใจได้มากพอ ซึ่งความสำเร็จของ Qualcomm ดังกล่าวนี้ส่งผลให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ถีบตัวขึ้นเน้นๆ 38 เปอร์เซ็นต์ และทาง Intel ประกาศยุติแผนการพัฒนาชิปโมเด็ม 5G ในกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟนทันที