เผลอแป็ปเดียวโลกนี้ก็มี Apple Watch มา 5 ปีแล้ว การเป็นนาฬิกาไฮเทค เป็นจอที่สองของ iPhone คำถามเรื่องความนิยม การใช้งานของ Apple Watch ก็ยังรอคำตอบกันยาว ๆ การผลักดันให้ watchOS สมบูรณ์ เป็นนาฬิกาที่ได้ใช้ ใช้ได้ และใช้ได้ดี ยังเป็นภารกิจสำคัญต่อไป และกับปีนี้ watchOS 6 ที่หลังจากเห็นความสามารถแล้ว บอกได้เลยว่า เรื่องสุขภาพของผู้ใช้ กับการทำให้นาฬิกามีประโยชน์มากขึ้น คือหัวใจหลักของปีนี้ จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ
แอปฯ ใหม่ ๆ "อัดเสียง / เครื่องคิดเลข / Audiobooks"

ที่จริง อยากเขียนเรื่องหน้าปัดใหม่มาก่อน แต่อันนี้ผมว่าสำคัญมากจริง ๆ ความสามารถเบื้องต้น watchOS 6 ที่เพิ่มมา แล้วได้ใช้จริง ไม่ว่าจะเครื่องคิดเลขที่ฝังมาใส่ตัว หน้าตา ความสามารถแบบเครื่องคิดเลขใน iPhone ที่ใช้กันทุกวัน แถมคำนวณค่าทิปเวลาใช้บริการร้านต่าง ๆ ได้ (วัฒนธรรมอเมริกัน ค่าทิป เราต้องให้ต่างหาก) หรือจะหารค่าข้าว ก็ทำได้เลย อย่างต่อมาคือ เครื่องอัดเสียง ใช้นาฬิกาอัดเสียงตรง ๆ ได้เลย และอย่างสุดท้าย บรรดา Audibooks ที่อยู่ใน Apple Books ของผู้ใช้งาน สามารถฟังผ่านนาฬิกาได้โดยตรง เหมือนกับที่ใช้นาฬิกาฟังเพลงเดียว ๆ ตามปกติเช่นกัน
ใช้แอปฯ แบบไม่ต้องยุ่งกับ iPhone

ผู้ใช้ Apple Watch จะรู้กันว่า จะใช้แอปฯ ไรก็ตาม ต้องลงแอปฯ นั้นใน iPhone ก่อน แล้วค่อยไปติดตั้งตัวลูกที่นาฬิกาผ่านเมนู Watch App ของเครื่องอีกที แต่ watchOS 6 จะมี App Store ของนาฬิกาแยกต่างหาก สามารถโหลดได้โดยตรงจากนาฬิกา ลงแอปฯ ที่เราใช้เฉพาะในนาฬิกาเราเท่านั้น โดยแอปฯ นั้น ไม่จำเป็นต้องติดตั้งใน iPhone ด้วย และเป็นการเปิดโอกาสให้นักพัฒนา สามารถสร้างแอปฯ แค่นาฬิกาอย่างเดียวก็ได้
เสียงดังเกินไปหรือเปล่า?

ใน Apple Watch ทุกรุ่น มีไมค์ฯ รับเสียงติดตั้งมาอยู่แล้ว watchOS 6 จึงเพิ่มประโยชน์ของไมค์ฯ ให้ช่วยรักษาสุขภาพของผู้ใช้งานได้มากขึ้น ผ่านการตรวจจับเสียงรอบข้างได้ว่า ดังมากไปไหม? โดยค่ามาตราฐานที่ดีต่อสุขภาพ คือไม่เกิน 90 เดซิเบล ดังต่อเนื่องไม่เกิน 30 นาที และเพื่อความมั่นใจกับผู้ใช้ทุกคน Apple จะไม่เก็บบันทึกเสียงที่วัดผ่านความสามารถนี้เด็ดขาด
สุขภาพที่ดีขึ้น เป็นไปได้ด้วยข้อมูลในมือ

ข้อมูลวงแหวนสุขภาพที่ดูได้แค่สามอย่าง ไม่ว่าจะการเผาผลาญ เวลาที่ใช้ในการออกกำลังกาย การยืน ได้ยกระดับเป็น Activity Trend ที่สามารถลงลึกได้มากขึ้น เห็นภาพได้มากขึ้นว่า เมื่อเทียบกับวันที่ผ่านมา เราทำได้ดีขึ้นแค่ไหน หรือทำได้น้อยลงไปจากเดิมหรือไม่ และเป็นอานิสงค์ที่ทำให้เมนู Health ดูดี ใช้ง่ายได้มากขึ้นไปด้วย
ไม่หวั่น แม้วันมามาก

อันนี้สำหรับสาว ๆ ทุกท่านจริง ๆ นั่นคือ Cycle Tracking โดย watchOS 6 สามารถให้คุณผู้หญิง จดบันทึกประจำเดือนในแต่ละวันได้ที่เกิดขึ้นได้ว่า หนัก เบา แค่ไหน สามารถช่วยคำนวณรอบประจำเดือนได้ว่า จะถึงช่วงไหน หรือประจำเดือนขาดไปเท่าไหร่แล้ว

นอกนั้นแล้ว ก็เป็นการออกหน้าปัดนาฬิกาใหม่ อย่างตัวเลขที่ปรับฟอนท์ให้สวยขึ้น หน้าปัดตัวเลขแบบคลาสสิกที่ดูดีขึ้น ฯลฯ และเล็ก ๆ น้อย ๆ กับเสียงเตือนเวลาครบชั่วโมงแบบเสียงนกร้อง โดยการรองรับ watchOS 6 ต้องใช้คู่กับ iPhone 6s ขึ้นไป และต้องใช้ iOS 13 คู่กันด้วย สำหรับรุ่นที่ใช้ได้ Apple Watch ทุกรุ่นรองรับหมด (ยกเว้นรุ่นแรกสุด หรือ Series 0 ที่ตัดการรองรับออกไปแล้ว) ทั้งนี้บางความสามารถ อาจใช้กับรุ่นที่เก่ากว่า Series 4 ไม่ได้ ส่วนกำหนดการอัพเดท watchOS 6 อยู่ในช่วงกันยายน 2019 เช่นเดียวกับ iOS 13 เช่นกัน