ดูจะเป็นธรรมเนียมไปแล้ว ที่ Apple จะปล่อยรุ่นใหม่ของ Apple Watch ออกมาทุกปี ในปีที่แล้ว Series 4 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ที่กลายเป็นขวัญใจใครหลายคน จากการที่นาฬิกาเตือนความผิดปกติของหัวใจ จนช่วยชีวิตคนได้มาก รวมถึง Apple มีความยินดีที่จะบอกว่า ความสามารถ Hearing Study วัดความดังของเสียงรอบข้าง ได้รับการรับรองรวมถึงความร่วมมือจาก WHO (องค์การอนามัยโลก) อีกด้วย ฉะนั้นแล้ว ถ้าสำหรับปีนี้ การเติมเต็ม Series 4 ให้สมบูรณ์มากขึ้น ดูจะเป็นจุดขายหลักของรุ่นใหม่
Apple Watch Series 5 ปรับให้หน้าจอในส่วนหน้าปัดนาฬิกา แสดงผลตลอดเวลา จากเดิมที่เป็นจอดำ ๆ เวลาไม่ได้ใช้งาน จะติดต่อเมื่อเรายกข้อมือขึ้นมาดู ในรุ่นล่าสุดนี้ มีการนำเทคโนโลยี LTPO มาใช้กับหน้าจอ ทำให้การแสดงผลหน้าปัด สามารถทำได้ตลอดเวลา เมื่อเราไม่ได้ยกข้อมือใช้งาน หน้าจอจะตัดแสงออก และลด Refresh Rate เหลือ 1 Hz เท่านั้น ทำให้เห็นแค่ว่า หน้าตาหน้าปัดนาฬิกาที่ใช้เป็นอย่างไร เมื่อยกข้อมือมาดู หน้าจอจะเปิดไฟให้ รวมถึงรายละเอียดบนหน้าปัด ก็จะติดขึ้นให้ทั้งหมด ช่วยให้ในบางอิริยาบถ ที่เราเห็นหน้าจอของนาฬิกา แต่ไม่สะดวกที่จะสะบัดข้อมือให้ได้ระนาบ ก็สามารถดูนาฬิกาได้เหมือนนาฬิกาข้อมือทั่วไป หรือบางกิจกรรมที่ใช้กับ App ก็สามารถดูรายละเอียดคร่าว ๆ ได้ทันที โดยหน้าจอที่ติดตลอดนี้ ยังคงให้การใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมง อันเป็นมาตราฐานของ Apple Watch ทุกรุ่นที่ผ่านมา
อย่างต่อมา นี่คือ Apple Watch รุ่นแรก ที่ใส่เข็มทิศมาให้ในตัว รองรับการบอกทิศแบบเข็มทิศจากข้อมือได้ทันที รวมถึงเป็นครั้งแรกที่ระบบโทรออกเบอร์ฉุกเฉิน มีเบอร์หน่วยงานฉุกเฉินทั่วโลก และสามารถกดโทรออกได้ทั่วโลกโดยที่เครื่องไม่จำเป็นต้องปลดล็อครหัส
ในส่วนคอเลกชั่นนาฬิกา วัสดุหลักอย่าง อลูมิเนียม 7000 Series / สเตนเลส ก็ยังอยู่กันเหมือนเดิมครบทุกสี ทั้งสีเงิน เทา และทอง ที่เพิ่มมาใหม่คือไทเทเนียม ที่มีทั้งสีไทเทเนียม / ไทเทเนียมดำ และขอต้อนรับการกลับมาของเซรามิก หลังจากใน Serires 4 หายไป รวมถึงเป็นครั้งแรกที่ในรุ่น Hermes มีสเตนเลสสีดำให้เลือกด้วย
สำหรับประเทศไทย Apple Watch Series 5 จะวางจำหน่ายที่ราคาเริ่มต้น 13,400 บาท สำหรับรุ่น GPS (40mm สาย Sport Band) และ 16,900 บาท สำหรับรุ่น GPS+Cellular (40mm สาย Sport Band) โดยกำหนดการวางจำหน่ายในไทย ให้ติดตามอีกครั้งในภายหลัง