AIS จับมือ MVP ใส่เกียร์เดินหน้า “Thailand Game Expo by AIS eSports” ครั้งที่ 2 ร่วมกับงาน Thailand Mobile Expo 2020 ตอกย้ำภาพลักษ์และแนวทาง AIS eSports ให้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเก่า พร้อมยืนยันหนักแน่น AIS พร้อมทุ่มงบไม่อั้น เพื่อสร้าง E-Sport Ecosystem ที่ดีที่สุดเพื่อคนไทยทุกคน
ทำไม AIS ไฟเขียวให้เดินหน้าต่อ?
แน่นอนว่าทุกคนสงสัย ว่าทำไม AIS เดินหน้าจัดงานนี้ต่อ อย่างแรกที่ AIS บอกเราเลยคือ ตลาดเกมมันหอมหวานมาก และประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการเล่นเกมค่อนข้างเยอะ โดยมีจำนวนคนเล่นกว่า 27.8 ล้านราย คิดเป็น 41% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ และมีจำนวนเงินสะพัดในตลาดกว่า 2.3 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา โตขึ้นจากปี 2018 ถึง 16.6% ทั้งหมดเกิดขึ้นจากกลุ่มที่จ่ายเงินเพื่อเล่นเกมเป็นประจำกว่า 16.3 ล้านราย หรือคิดเป็น 24% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ตัวเลขที่ AIS เอามาโชว์ ก็บอกเป็นนัยว่าตลาดเกมบ้านเรานั้นร้อนระอุ และดุเดือดกว่าประเทศในแถบ Southeast Asia มากขนาดไหน แต่นั่นยังเป็นภาพรวมในระดับประเทศ แต่เมื่อเจาะลงมาที่ AIS กับ AIS eSports ที่ปลุกปั้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือคำว่า AIS eSports สร้างรายได้กลับมาให้ AIS แล้วกว่า 30% ของรายได้รวมในส่วน Content Revenue ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ New Business Division ที่ AIS เพิ่งจะปรับสัดส่วนองค์กรใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้
อีกเรื่องที่ทำให้ AIS ยอมไฟเขียว คือความสำเร็จของการจัดงานในรอบที่แล้ว โดย MVP ผู้จัดงานนี้ได้เผยตัวเลขงานรอบที่แล้วว่า มีผู้เข้าชมกว่า 700,000 ราย (เป็นตัวเลขรวมกับงาน TME 2019 รอบกลางปี) คิดเป็นเพศชาย 70% เพศหญิง 30% ส่วนใหญ่ของผู้เข้าชมมีอายุ 15-35 ปี รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 25-50 ปี หลัก ๆ เป็นเกมเมอร์ และกลุ่ม DIY Lover ซึ่งจากกลุ่มหลักที่ชมงานมีเม็ดเงินที่เกิดขึ้นเฉลี่ยหัวละ 25,000 บาท และเกิดขึ้นจากสินค้า DIY เป็นหลักด้วย รองลงมาคือโน้ตบุ๊คเกมมิ่ง และอุปกรณ์เสริมเป็นต้น
แล้ว... "New Business Division" ของ AIS คืออะไร?
อ่านย่อหน้าที่แล้ว ทุกคนคงจะเกาหัวว่า “เอ๊ะ… AIS มี New Business Division กับเค้าด้วยหรอ?” วันนี้เราเลยได้รับคำตอบจากผู้บริหารคนแรกของ New Business Division หรือหน่วยธุรกิจพัฒนาธุรกิจใหม่ นั่นคือคุณอลิสแตร์ เดวิด จอห์นสตั้น
คุณอลิสแตร์เล่าว่า AIS ได้เริ่มปรับองค์กรภายในใหม่ ลดความสำคัญกับธุรกิจที่ไม่ใช่ Core Business ซึ่งก็คือมือถือ และเน็ตบ้าน AIS Fibre และจัดตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ขึ้นมาดูแล ซึ่งก็คือ “New Business Division (NBD)” นี้นั่นเอง พันธกิจหลักของหน่วยธุรกิจใหม่นี้คือ รวมเอาสิ่งที่ AIS กำลังทำอยู่และไปได้ดีทั้งหมด มาอยู่ภายใต้ร่มเงาเดียวกัน นั่นคือ AIS Play, AIS eSports, AIS Insurance Service, mPay, Rabbit Line Pay, AIS Startup เป็นต้น รวมถึงยังเป็นหน่วยงานแกนนำในการทำ Business Transformation และพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ต่อแนวทางของบริษัท และการเป็นผู้นำด้าน Digital Live Service Provider ต่อไป
นอกจากสองเรื่องหลักข้างต้นแล้ว สิ่งที่เป็นอีกภารกิจหลักของ NBD คือ การสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับ AIS เพื่อทดแทนรายได้จากบริการเสียง (Voice) ที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและลูกค้าต่อไป ซึ่งเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง มันก็จะเกิดรายได้กลับมาให้ AIS อย่างมั่นคง ซึ่งการตั้ง NBD ขึ้นมาดูแลภาพรวมเหล่านี้ทั้งหมด ส่วนหนึ่งก็ต้องบอกกันตรง ๆ ว่าเป็นนโยบายลดการใช้เงินลงทุนอย่างสูญเปล่าของ AIS แต่ถ้าบริการนั้น ๆ ทำแล้วรุ่งขึ้นมา (เช่น AIS eSports) AIS ก็พร้อมที่จะหว่านเงินลงเงินแบบไม่อั้น เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ และเก็บเกี่ยวเป็นรายได้หลักอีกช่องทางหนึ่ง
ปัจจุบันรายได้หลักของ NBD (ซึ่งถือเป็นรายได้ส่วนหนึ่งของ AWN และ AIS) เกิดขึ้นจาก AIS eSports, AIS Play และ Rabbit Line Pay ที่มีการพัฒนาบริการร่วมกับ Line และ BTS อย่างต่อเนื่อง
แล้ว TGE รอบนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
เมื่อเหตุผลชัดเจน บวกกับ AIS ไฟเขียว งานครั้งที่ 2 จึงกลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้การนำทัพโดย Com7, JIB, NetEase Games, PVP Esports, Tencent Games และ Twitch รวมถึงยังมีพาร์ทเนอร์ร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ให้อีกมากมาย ทั้งผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และตัวแทนเกมเป็นต้น
ภายในงานมีสิ่งที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
โปรโมชั่นแพ็กเกจมือถือแล
และเมื่อลงทะเบียนเข้าร่วมงานที่บูธ AIS eSports ลุ้นรับฟรีแรร์ไอเทมจากเกมยอดฮิต PUBG Mobile, MARVEL Super War, Call Of Duty Mobile, FIFA ONLINE4, Blade & Soul และ Black Desert พร้อมร่วมกิจกรรมกับค่ายเกมชั้นนำทุกแพลตฟอร์ม เช่น PlayStation ที่จับมือกับ Banana E-QUIP นำเกม Final Fantasy VII Remake มาให้ทดลองเล่นก่อนวางขายจริง
ร่วมกระทบไหล่เกมเมอร์, เหล่าแคสเตอร์ และอินฟลูเอนเซอร์คนดัง จาก Twitch และ Facebook Gaming กว่า 70 ชีวิต อาทิ Rubsarb, FPSThailand, Boyminoru, Fifatargrean, Gssspotted, CigaretteS และ เดียร์ลอง พร้อมเอาใจเกมเมอร์สายคอสเพลย์กับการแข่งขัน AIS eSports Cosplay Championship 2020 การแข่งขันคอสเพลย์ครั้งใหญ่ในประเทศไทย ชิงรางวัลมูลค่ารวม 60,000 บาท และชิงของรางวัลสุดพรีเมียมกับคอสเพลย์เกม Identity V
เปิดเวทีดวลความมันส์แบบไร้ขีดจำกัด! กับทัวร์นาเม้นท์อีสปอร์ตที่จัดเต็มตลอด 4 วัน ชิงรางวัลรวมกว่า 500,000 บาท ให้สาวกอีสปอร์ตและคอเกมเมอร์ทุกระดับได้ชมและเชียร์อย่างใกล้ชิด ได้แก่
- การแข่งขัน เทคเคน ชาริตี้ชิล ไทยแลนด์ เนชั่นแนลทีม โดยนักกีฬาเกม Tekken 7 ทั้ง 4 คน จากสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย นำโดย บุ๊ค-นพรุจ เหมภมร ผู้สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองกีฬาอีสปอร์ตเหรียญแรกให้ทีมชาติไทยในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 30
- การแข่งขัน Tekken 7 Pre-season ประเภทโอเพ่น ชาย และ หญิง โดย สมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย ชิงรางวัลมูลค่ารวม 100,000 บาท พร้อมโอกาสสู่การเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพ
- การแข่งขัน AIS eSports Corporate League 2020 ทัวร์นาเม้นท์การแข่งขันประลองฝีมือของชาวออฟฟิศสายเกมเมอร์ พร้อมร่วมชมและเชียร์รายการแข่งขันนัดพิเศษ Pre-season AIS eSports Corporate League 2020 จาก 40 บริษัทชั้นนำในเกม PUBG Mobile
- การแข่งขัน AIS eSports PUBGM Battle Challenge รอบ Grand Final ของคอเกม PUBG Mobile ที่ผ่านรอบคัดเลือกจากการแข่งขันที่ AIS Shop 20 สาขา เพื่อชิงรางวัลมูลค่ารวม 104,000 บาท
- การแข่งขัน Marvel Super War Show Match โดย Influencer ชื่อดัง ชิงไอเทม และของรางวัลสุดพิเศษจากเกม Marvel Super War
- การแข่งขัน Call of Duty Mobile Special Match ของเหล่า 4 ทีม Pro Player ชื่อดัง คือ EVOS ESPORT, TokioStriker.1s1k, ILLUMINATE.HAWK ชิงรางวัลมูลค่ารวม 50,000 บาท
- การแข่งขัน AIS eSports Blade & Soul Legends Arena รอบ Grand Final การแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยของเกม Blade & Soul ชิงรางวัลมูลค่ารวม 100,000 บาท
- การแข่งขัน AIS eSports FIFA ONLINE 4 รอบ Grand Final พบนักแข่ง 16 คนสุดท้าย ที่ฝ่าฝันผู้เข้าแข่งขันในรอบคัดเลือกกว่า 1,000 คน เพื่อร่วมชิงรางวัลมูลค่ารวม 150,000 บาท
Mini Concert แบบจัดเต็มจากศิลปินชั้นนำ ตลอด 4 วันเต็ม นำโดย เป๊ก ผลิตโชค, SBFive, Sweat16, คริส พีรวัส, สิงโต ปราชญา, กัน อรรถพันธ์ และ ออฟ จุมพล
นอกจากกิจกรรมหลักแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกอีกมากมายจากพาร์ทเนอร์ทั้งค่ายเกม ร้านค้า ค่ายมือถือ และผู้ผลิตอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก อัดแน่นจัดเต็มตลอด 4 วัน เรียกได้ว่าชมฟรี มาฟรี แถมยังได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย แต่หากไม่สะดวกที่จะมาร่วมงานจริง ๆ AIS ก็ยังเปิดช่องทางให้รับชมบรรยากาศงานได้ฟรีตลอด 4 วัน ที่ Facebook AIS eSports และทาง AIS Play ทั้งบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และกล่อง AIS Playbox
แล้วเราจะได้เจอกันบ่อยขึ้น...
อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่าการจัดงาน Thailand Game Expo ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของ AIS eSports ที่ต้องการสร้าง eSports Ecosystem แบบครบวงจรเพื่อคนไทย แต่ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน และประชาชนที่มาร่วมสร้างสีสันอย่างโดดเด่นในงาน Thailand Game Expo รอบที่แล้ว
และในปีนี้เราจะได้เห็น AIS eSports บุกตลาดอย่างหนักหน่วงมากขึ้น ทั้งการจัด Tournament ที่ถี่ขึ้น ลงไปในสเกลที่เล็กมากขึ้น รวมถึงการร่วมมือกับสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย หรือ TESF ในการสนับสนุนการดำเนิินการของสมาคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของสมาคม ในหมวดการสื่อสารและโทรคมนาคม (Official Telecommunication Sponsor of TESF) และยังร่วมกับสมาคมในการจัดการแข่งขัน E-Sport เพื่อคัดเลือกนักกีฬาอีสปอร์ตเข้าค่ายฝึกฝนอย่างเข้มขัน ก่อนส่งแข่งขันในนามทีมชาติไทย และรับเงินเดือนพร้อมสวัสดิการเช่นเดียวกับนักกีฬาประเภทอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการสร้างภาพจำให้กับวงการเกมในประเทศไทย และยังเป็นการสร้างภาพจำในแบรนด์ AIS eSports ให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นเป้าหมายหลักของ AIS อีกด้วย
ส่งท้ายงานนี้ AIS ยังเปรยกับเราอีกสองเรื่องว่า จะจัดงานให้ถี่ขึ้น จากเดิมที่วางแผนจัดปีละครั้ง อาจจะเป็นการจัด 3 รอบพร้อมงาน Thailand Mobile Expo หรืออาจจะเป็นอย่างอื่น ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ AIS ทดลองจัดงานเร็วขึ้นด้วย
และอีกเรื่องคือเรื่องของ AIS Play ที่ AIS อัพเดตความคืบหน้าเล็กน้อยว่าตอนนี้แผนการขยายฐานลูกค้าพร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการลงเงินอย่างหนักเพื่อสร้าง Original Content ของตัวเอง การซื้อสิทธิ์ฉายซีรีส์หรือละครแต่เพียงผู้เดียว และการพัฒนาแอปพลิเคชันใช้งานบนสมาร์ททีวี, Apple TV และ Android TV แทนการใช้กล่อง AIS Playbox ซึ่งทั้งหมด จะช่วยให้ AIS Play และ NBD เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
